10 กุมภาพันธ์ 2567

พระพุทธเจ้า ตรัสถึง มนุษย์ต่างดาว

พระพุทธเจ้า ตรัสถึง มนุษย์ต่างดาว
มีอยู่ 4 ทวีป แบ่งโดยเขาทิพย์สิเนรุสี่ทิศ
โดยญาณหยั่งรู้ มีในพระไตรปิฎก
.
1.ชมพูทวีป คือ โลกทั้งใบที่เราอยู่ ใบหน้าไม่ซ้ำกัน อายุขึ้นอยู่กับคุณธรรม ความสูงเฉลี่ย2เมตร ดอกไม้ประจำ คือชมพูไม้หว้า
.
2.อมรโคยานทวีป ใบหน้าวงกลม คล้ายพระจันทร์ครึ่งฉีก คางแหลม จมูกโด่ง มีอายุประมาณ 500 ปี สูงเฉลี่ย 3 เมตร ดอกไม้ประจำ คือ ต้นกระทุ่ม
.
3.ปุพพวิเทหทวีป หน้ากลมเหมือนดวงจันทร์ ตอนบนโค้งตัดลงมาเหมือนบาตร มีอายุประมาณ 700 ปี สูงเฉลี่ย 4.5 เมตร
ดอกไม้ประจำคือ ต้นไม้ทรึก
.
4.อุตตรกุรุทวีป ใบหน้า 4 เหลี่ยม รักษาศีล ห้าเป็นนิจ มีอายุ 1,000 ปี สูงเฉลี่ย 7 เมตร ดอกไม้ประจำคือต้นกัลปพฤกษ์
.
ทวีปนี้อากาศดีมาก ไม่มีพายุ ไม่หนาว
ไม่ร้อน ชาติ ชรา มรณะไม่ปรากฎ การเศร้าโศกเสียใจไม่มี ไม่ยึดถือสิ่งใดว่าเป็นของตน ไม่หวงแหน ไม่ต้องหว่านพืช เมื่อตายมีนกหัสดีลิงค์เอาซากศพไปทิ้งนอกอวกาศ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีทหาร ตำรวจ แพทย์ฯ
.
    พระพุทธเจ้า พระปัจเจก พระจักรพรรดิฯ
อุบัติในชมพูทวีปเท่านั้น ในมัชฌิมประเทศ
ที่มีชาติ ชรา มรณะปรากฎ รวมถึงมรรคมีองค์แปดย่อมมีในชมพูทวีป
.
   มนุษย์ทวีปอื่นจะมีอายุขัยแน่นอนสอนอริยสัจ 4 ไม่เข้าใจ เพราะทุกข์ไม่มี
.
เล่มที่ 37 พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย
สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต หน้า 791, ทีฆ-นิกาย ปาฏิวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้า 130
.
    จูฬนีสูตร -โลกธาตุ มี 3 ขนาด คือโลกธาตุอย่างเล็ก มีจำนวนพันจักรวาล โลกธาตุอย่างกลาง มีจำนวนล้านจักรวาล โลกธาตุอย่างใหญ่ มีจำนวน แสนโกฏิจักรวาล
.
   อัคคัญญสูตร -การกำเนิดโลกในห้วงอวกาศอันมืดมิดก่อน แล้วนานๆ ไปเกิดการรวมตัวงวดเข้าเป็นง้วนดิน แล้วพัฒนาเป็นกระบิดิน เครือดิน จากนั้นมีต้นข้าวและพืชทั้งหลายเกิดขึ้น
.
    ฐานสูตร-ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีป ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ 3 ประการ 
     1.เป็นผู้กล้า 2.เป็นผู้มีสติ 3.เป็นผู้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อันเยี่ยม

ขอนอบน้อมในพระมหากรุณาธิคุณ
แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์

04 กุมภาพันธ์ 2567

ไม่มีเหตุบังเอิญบนโลกนี้...

#ไม่มีสิ่งใดในโลกเกิดขึ้นมาด้วยความบังเอิญ

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นล้วนมีเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมา
เมื่อเหตุปัจจัยถึงพร้อมผลมันเลยเกิด 
เมื่อหมดเหตุหมดปัจจัยผลมันก็ดับไปเอง 
ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น

กาย วาจา ใจ

..ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะพึงทำก็จงระมัดระวังกรรมชั่ว
อย่าให้ไหลเข้ามาในทางกายวาจาและใจ   ขึ้นชื่อ
ว่าการทำความชั่วจงอย่ามี  วาจาชั่วทำให้แตกสามัคคี
สร้างความเร่าร้อนอย่างให้มี   ใจชั่วใจคิดไม่ดี
อย่าให้มีจะเกิดความเดือดร้อน   ข้อสำคัญในที่สุด
มีความสำคัญจุดเดียว   อยู่ที่ใจ   ถ้าใจของเราดีเสีย
อย่างแล้วเมื่อไหร่     กาย   วาจา   ใจ   ก็ดีเมื่อนั้น

ที่มา
ธรรมะจากหนังสือ  คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง  ๗๘
คัดลอกโดย  ประจวบ ตุละพงษ์🙏🏻🙏🏻🙏🏻 ขออนุญาตเผยแพร่ธรรมทานค่ะ

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...