25 เมษายน 2561

เศรษฐีในสมัยพุทธกาล

#หลวงปู่ใหญ่ไขความคำว่าเศรษฐี

ลูกหลานเอ๋ย.  ปุถุชนคนทั่วไปใครๆก็ต้องการเป็นเศรษฐีกันทั้งนั้น.  แต่จะมีสักกี่คนเล่าที่รู้ความหมายแท้จริงของคำว่า "เศรษฐี"

"เศรษฐี" แปลว่า "ผู้มีกาย-วาจา-ใจ ประเสริฐ สูงส่ง"

ประเสริฐสูงส่งอย่างไร ? .. ประเสริฐสูงส่ง คือ ตนเป็นผู้มีความสุขความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาโดยสุจริตแล้วไม่หวงแหนความสุขความเจริญรุ่งเรืองนั้นไว้เฉพาะตนเองหรือครอบครัววงศ์ตระกูล  แต่ได้กระจายความสุขความเจริญรุ่งเรืองนั้นไปสู่มวลมนุษยชนด้วย

ความร่ำรวยมีเงินทองมากมายมหาศาลนั้น มิได้เป็นเครื่องหมายของความเป็นเศรษฐีเลย

หลักใหญ่ที่เศรษฐีต้องมีคือ คุณธรรม-ศีลธรรม-ฐานแห่งโลกุตรธรรม(นับตั้งแต่โสดาปัตติมรรคขึ้นไปจนถึงอรหัตผล).. ส่วนเงินทองนั้นมีเพื่อเป็นอุปกรณ์บำเพ็ญและแผ่ขยายประโยชน์สุขแก่มวลมนุษย์เท่านั้น

ผู้มีเงินทองมากแต่หาความสุขแท้จริงแก่ตนเองยังไม่ได้ หรือหาได้แต่หวงแหนความสุขนั้นไว้จำเพาะตนเองหรือจำเพาะกลุ่มของตนหาได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐีไม่

เศรษฐีในสมัยพุทธกาลหรือก่อนหน้านั้น น่ะลูกหลานเอ๊ย  จะต้องเป็นผู้แผ่ขยายกระจายประโยชน์สุขแก่ราษฎรในราชอาณาจักรจนได้รับการแซ่ซ้องสรรเสริญไปทั่ว ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณพระราชามหากษัตริย์แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าผู้มีทรัพย์นี้สร้างประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์เป็นการแบ่งเบาพระราชภาระของพระองค์  พระองค์จึงพระราชทานตราตั้งให้เป็นเศรษฐี.  จึงจะสามารถเรียกขานผู้มีทรัพย์นั้นว่าเศรษฐีได้.  จู่ๆไปเรียกใครว่าเป็นเศรษฐีอย่างในยุคนี้ไม่ได้นะลูกหลาน

ผู้คนในยุคพุทธกาลโดยส่วนใหญ่นั้นจะไม่พากันเคารพนับถือคนมีเงินโดยทุจริตหรือมีเงินมากแล้วเห็นแก่ตัว  อย่างผู้คนในยุคนี้. 

เพราะผู้คนในยุคพุทธกาลส่วนใหญ่นั้นจะแยกแยะออกว่า ใครเป็นแค่ผู้มีเงินทอง และ ใครเป็นเศรษฐีที่แท้จริง  นะลูกหลานเอ๊ย๚

๏ นะโมพุทธายะ นะโมธัมมายะ นะโมสังฆายะ ปัญจะพุทธา นะมามิหัง นะชาลีติ โลกุตตโร จะ มะหาเถโร นะโสมิยะ อะหะพุทโธ มะมะ ธะนะ คะหะปะตี เสษฐะ เมตตา ไมตรี มีนะ มีมา มหามังคะโล โอม โอม โอม มหาสัมฤทธิ ประสิทธิเม มหาสุโข ประสิทธิเต ๚ะ๛
----------------
#หลวงปู่เทพโลกอุดร.

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...