การจับพลังพระเครื่องนั้น มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีรูปแบบการใช้อยู่อย่างหลากหลายเพื่อให้ทราบว่า พระเครื่ององค์นี้ หรือวัตถุมงคล ชิ้นนี้ มีคุณวิเศษด้านใด ไม่ว่าจะเป็นเมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาด ยกตัวอย่าง บางคนจะอาศัยการนั่งสมาธิจับกระแสพลังพระเครื่องด้วยพลังจิต โดยการนำองค์พระไว้บนฝ่ามือ หากพระเครื่องนั้นๆผ่านการปลุกเสกมา ก็จะมีกระแสพลังปรากฏ แยกไปตามความหนักเบาของกระแสพลัง ได้แก่ พลังความหนักหน่วง เป็นคงกระพัน พลังในลักษณะผลักออกเป็นแคล้วคลาด พลังร้อนเป็นเสน่ห์ พลังเย็นเป็นเมตตา หรือใช้วิธีการอื่นๆ ที่นิยมกัน คือ ใช้วิธีการสวดท่องคาถาที่แตกต่างกันไป เช่น คาถาที่ว่าด้วยแม่ธาตุ นะโมพุทธายะ หรือ คาถาของพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆที่ได้บันทึกไว้สืบทอดมายังสานุศิษย์
“คาถาปลุกพระ” ที่บันทึกไว้ด้วยลายมือ ของ “หลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร” พระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมไปด้วยพุทธาคม แห่งวัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท เผยแผ่โดย คุณ tongn005 จาก เว็บไซต์ วัดโฆสิตาราม www.watkositaram.com
คาถาปลุกพระ
ตั้งนะโม 3 จบ - ปลุกพระ อยากรู้ อภินิหาร
โสทาโย นะโมนะมัสสะกาโร
โสทายะ อิมังคาถา
พุทธะมาเรโส ธัมมะมาเรโส สังคะมาเรโส
(หัดปลุกเพ่งสมาธิจิตแน่วแน่ )เมื่อขึ้นจะรู้อภินิหารว่าใช้ในทางไหน ดีทางไหน
การจะใช้คาถาปลุกพระหลวงพ่อกวย เพื่อดูพลังพระเครื่องและวัตถุมงคลว่ามีอานุภาพด้านไหนนั้น สิ่งสำคัญคือ จิตต้องมีสมาธิอย่างแน่วแน่ ตามที่หลวงพ่อกวยได้บันทึกไว้ และมีข้อแนะนำจากคุณ tongn005 ว่า ก่อนจะใช้คาถานี้ ควรจุดธูปเทียน บอกกล่าวหลวงพ่อกวยก่อนเสมอๆ เพื่อเป็นการขออนุญาตและขอเรียนถึงจะดี เนื่องจากการเรียนวิชาทุกแขนงก็จำต้องมีครูกันทั้งนั้น
หากใครที่อยากฝึกจับพลังพระเครื่อง วัตถุมงคล ก็สามารถนำคาถาปลุกพระหลวงพ่อกวยไปใช้ได้ แต่อย่าลืมตั้งจิตให้เป็นสมาธิ แล้วจะรู้ว่า พระเครื่องหรือวัตถุมงคลรุ่นนั้นๆ มีอานุภาพด้านไหน อย่างไร? ของแบบนี้ต้องฝึกด้วยตนเองเท่านั้นถึงจะรู้
ขอบคุณข้อมูลจาก : บทคาถาปลุกพระ หลวงพ่อกวย จาก คุณ tongn005 เว็บไซต์ วัดโฆสิตาราม www.watkositaram.com
และเพจ : หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม - บ้านแค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น