#ข่่ายใยเส้นปธานสิบหรือสรีรตันตรปัตราการธมนี(อ่านว่า สะ-รี-ระ-ตัน-ตระ-ปัต-ตรา-การ-ธะ-มะ-นี; ธมนี..คือ กลุ่มเส้นเหนี่ยวนำ)
#อันดับที่3เส้นอากาสธาตุกาละทารี
#อันดับที่3เส้นอากาสธาตุกาละทารี
คัมภีร์วิสุทธิมรรคได้บรรยายการเคลื่อนไหวได้ของร่างกายที่ประกอบด้วยชีวิตปกติ เพราะมีธาตุลม(วาโยธาตุ) เข้าประกอบไว้ ดังนี้....
๏ ก็วาโยธาตุในสรีระนี้ ซ่านไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ มีลักษณะเบ่งขึ้นและไหวได้ ตั้งอยู่ในดิน(ปถวีธาตุ) อันน้ำ(อาโปธาตุ)ยึดไว้ อันไฟ(เตโชธาตุ)ตามรักษา #ย่อมยังกายนี้ให้เคลื่อนไหวได้ ฯ
๏ อนึ่ง กายนี้ อันธาตุลมนั้นอุ้มแล้วจึงไม่ซวนเซไปตั้งอยู่ตรงๆได้ ฯ #อาศัยวาโยธาตุอื่นอีกพัดสม่ำเสมอแล้วย่อมแสดงวิญญัติในอิริยาบถ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน ย่อมงอเข้า เหยียดออก #ยังมือและเท้าให้เคลื่อนไหวได้ ฯ #ยนต์คือมหาภูตรูป4นี้เช่นเดียวกับรูปกลมีมายา #สำหรับล่อลวงชนพาลโดยความเป็นหญิงเป็นชายเป็นต้น เป็นไปอยู่ ดังแถลงมานี้ ฯ พระโยคาวจรพึงใส่ใจโดยละเอียดดังบรรยายมานี้ แล ๚๛
๏.....อันปถวีธาตุนั้น มีลักณะแค่นแข็งมีการตั้งอยู่เป็นรส มีการรับไว้เป็นเครื่องปรากฏ ฯ
๏ อาโปธาตุ มีการหลั่งไหลเป็นลักษณะ มีการพอกพูนเป็นรส มีการยึดไว้เป็นเครื่องปรากฏ ฯ
๏ เตโชธาตุ มีความร้อนเป็นลักษณะ มีการให้ไิออุ่นเป็นรส มีการเพิ่มให้ถึงซึ่งความอ่อนนุ่มเป็นเครื่องปรากฏ ฯ
๏ วาโยธาตุ มีการให้เคลื่อนไหวเป็นลักษณะ มีการเบ่งขึ้นได้เป็นรส มีการเคลื่อนไหวยักย้่ายได้เป็นเครื่องปรากฏ ฯ
๏ #โดยสมุฏฐาน....
๏.....อาหารใหม่ อาหารเก่า หนอง มูตร #มีฤดูเป็นสมุฏฐาน ฯ
๏ น้ำตา น้ำลาย น้ำมูก #มีฤดูกาลและจิตเป็นสมุฏฐาน
๏ เตโชธาตุ 4 มี ปริณามัคคี-ไฟย่อยอาหาร #มีกรรมเป็นสมุฏฐาน ฯ
๏ #ลมหายใจออกลมหายใจเข้า(อัสสาสปัสสาโส) #มีจิตเป็นสมุฏฐาน ฯ ฉะนี้ พระโยคาวจร พึงไฝ่ใจมนสิการ ด้วยอาการดังบรรยายมานี้แล ๚๛
๏.....อาหารใหม่ อาหารเก่า หนอง มูตร #มีฤดูเป็นสมุฏฐาน ฯ
๏ น้ำตา น้ำลาย น้ำมูก #มีฤดูกาลและจิตเป็นสมุฏฐาน
๏ เตโชธาตุ 4 มี ปริณามัคคี-ไฟย่อยอาหาร #มีกรรมเป็นสมุฏฐาน ฯ
๏ #ลมหายใจออกลมหายใจเข้า(อัสสาสปัสสาโส) #มีจิตเป็นสมุฏฐาน ฯ ฉะนี้ พระโยคาวจร พึงไฝ่ใจมนสิการ ด้วยอาการดังบรรยายมานี้แล ๚๛
เส้นสายที่จิตแสดงวิญญัติชักรูปสรีรยนต์ให้เคลื่อนไหวได้ตามคัมภีร์บรรยายข้างต้นไม่พบในชั้นพระวิสุทธิมรรค แต่..ไปมีรายละเอียดเป็นคู่มือ(ทีปนี)เอกเทศ อยู่ในวิชานวดแผนโบราณ หากไม่มีความสัมพันธ์ในเรื่องธาตุ4 และสมมาตรโครงสร้างร่วมกัน ก็ไม่สามารถเห็นการเชื่อมโยงนี้ได้
การหมุนเวียนของระบบการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบน้ำเหลือง ทั้งสามระบบนี้ต่างมีโครงสร้างโดยธรรมชาติเป็นโครงสร้างสมมาตรที่ซ้อนทับและทำงานร่วมกันเป็นสรีรยนต์อัตโนมัติที่ถูกควบคุม(วิญญัติ)อย่างมีเอกภาพ โดยจิตที่เกิดจากกายสังเคราะห์จิต และจิตที่เกิดจากจิตสังเคราะห์กาย
และระบบสมมาตรโครงสร้างทั้ง 3 ระบบ จะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ขึ้นอยู่กับ เส้นอากาสธาตุเหนี่ยวนำตัวเดียวกัน คือที่วิชานวดแผนโบราณดั้งเดิมเรียกว่า...
"#เส้นกาละทารี"
เส้นอากาสธาตุเหนี่ยวนำการทำงานเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวเป็นอิริยาบถของสรีระขณะชีวิตดำรงอยู่นี้
"#เส้นกาละทารี"
เส้นอากาสธาตุเหนี่ยวนำการทำงานเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวเป็นอิริยาบถของสรีระขณะชีวิตดำรงอยู่นี้
...จะ คล้ายกันกับ ที่วิทยาศาสตร์ได้ฉงนฉงายกับคุณสมบัติของอวกาศที่แสดงผลต่อแรงโน้มถ่วงร่วมของดวงดาวที่ถักประสานเป็นระบบของจักรวาลขึ้นมา.....แล้วตั้งสมมติฐานสมรรถนะการเหนี่ยวนำในอวกาศนี้ว่า มันคือ อีเธอร์...Ether...?!!
อาการป่วยกว่า 90% ของผู้คนในปัจจุบัน ล้วนเกิดจากการอุดตันของเส้นอากาสธาตุเหนี่ยวนำ ชื่อกาละทารี และการเสื่อมสมรรถนะในการเหนี่ยวนำระบบเลือดระบบน้ำเหลืองในโครงสร้างสมมาตรของสรีระโดยเส้นกาละทารี ก็มาจาก การเสื่อมประสิทธิภาพของลมหายใจออกลมหายใจเข้า...อัสสาสะปัสสาโส เพราะ...จิตแปดเปื้อนไปด้วยข้อมูลขยะกลบฝังข้อมูลจริงเสียสิ้น....นั่นเอง
การเสื่ิอมสมรรถนะของเส้นอากาสธาตุในการเหนี่ยวนำ กระแสเลือดและการหมุนเวียนน้ำเหลืองในระบบ...เป็นที่มาของอาการคั่ง(แพทย์แผนโบราณของไทยดั้งเดิม เรียกว่า "#กล่อน")ตามจุดต่างๆของอวัยวะ ที่หย่อมเส้นอากาสธาตุกาละทารีนั้นดับ...
ก้อนลม ก้อนไขมัน ตะกรันแคลเซียมจากเซลล์เม็ดเลือด และ จุดกำเนิดมะเร็งนานาชนิด ในสรีระที่ประกอบด้วยชีวิต ซึ่งไม่อาจพบและไม่อาจหาได้จากศพ(Body)....
กลับเป็นงานวิจัยที่พระพุทธศาสนาค้นพบแล้วถ่ายทอดไว้ในวิชาการแพทย์แผนโบราณที่สังคมไทยรับเป็นมรดกตกทอดมานับพันๆปี...แล้วครับ.
จตุธาตุ ๔ ในกายสังขาร ตาม คัมภีร์วิสุทธิมรรค ที่กล่าวไว้ ที่ควรรู้ สาธุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น