หนีการเวียนว่ายตายเกิด
️วันนี้ก็ขอพูดกันแบบสรุป การที่พระพุทธเจ้าสอนบรรดาท่านพุทธบริษัทบำเพ็ญกุศล ความจริงการบำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนานี่มีสาม
๑..ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
๒..สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓.. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
๑..ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
๒..สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
๓.. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
️การที่พระพุทธเจ้าทรงกำหนดการบำเพ็ญกุศล ๓ ประการในพระพุทธศาสนาก็มีเท่านี้ เราพูดเกะกะๆ ไปก็มีเท่านี้ ไอ้ที่พูดมากไปเป็นเรื่องของคนพูดมาก แต่ว่าทั้งหมดอยู่แค่ ๓ ประการเหมือนกัน ทั้งสามอย่างนี้ท่านเรียกรากเหง้าของกุศล และรากเหง้าของอกุศล เราจะต้องเกิดมีความสุขและความทุกข์อย่างไรก็ตาม เพราะอาศัยรากเหง้าของอกุศลเป็นสำคัญ ถ้าเราไม่สามารถชนะรากเหง้าของอกุศลได้ เราก็ไม่สามารถจะหลีกไปจากวัฏฏะสงสารได้ ก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเป็นปกติ ถ้าเราสามารถทำลายรากเหง้าของอกุศลทั้ง ๓ ประการได้ เราก็ไปนิพพานได้ ลีลาที่ไปนิพพานก็มีหลายแบบที่พระพุทธเจ้าสอนหลายแบบ ก็เพราะว่าอัธยาศัยของคนไม่เสมอกัน มีปัญญาไม่เสมอกัน อาศัยการบำเพ็ญบารมีเข้มข้นคนละจุด พระพุทธเจ้าจึงต้องพูดมากหลายแบบ เพื่อให้ถูกกับอัธยาศัยหรือบุญบารมีเดิมของแต่ละบุคคล
️สำหรับรากเหง้าอกุศลทั้ง ๓ ประการ คือ
๑..โลภะ ความโลภ
๒..โทสะ ความโกรธ
๓..โมหะ ความหลง
๑..โลภะ ความโลภ
๒..โทสะ ความโกรธ
๓..โมหะ ความหลง
️ทั้งสามอย่างถือเป็นรากเหง้าใหญ่ของอกุศล กิเลสจะมีกี่ประเภทก็ตาม ผลที่สุดก็รวมอยู่ที่สามอย่างด้วยกัน ถ้าเราสามารถทำลายรากเหร้าของอกุศลทั้ง ๓ ประการนี้ได้ เราก็ไปนิพพานได้ วิธีที่จะทำลายรากเหง้าของอกุศลได้ เราก็ต้องสร้างรากเหร้าของกุศลขึ้นมาแทน นั่น
คือ "ทาน" การให้ หรือที่ที่เรียกว่า
ทานมั้ย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
คือ "ทาน" การให้ หรือที่ที่เรียกว่า
ทานมั้ย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
️สำหรับ ทานมัย บุญสำเร็จด้วย การบริจาคทาน เป็นเครื่อง ตัดโลภะ ความโลภ ซึ่งเป็นรากเหง้าไหญ่ส่วนหนึ่งของอกุศล ถ้าการบริจาคทานมีอารมณ์ครบถ้วนในจิต เวลาั้นความโลภก็หมดไปจากจิต
️สำหรับ ศีล เป็นเครื่อง ตัดโทสะ ความโกรธ เพราะว่าคนที่จะปฏิบัติศีล ต้องมี
พรหมวิหาร ๔ คือมีเมตตาและกรุณา
พรหมวิหาร ๔ คือมีเมตตาและกรุณา
️ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการ เจริญภาวนา อันนี้ ตัดโมหะ ความหลง
ถ้าตัดตรงๆ จริงๆ ก็แค่ ๓ อย่าง ที่นีวิธีตัด ถ้าเราจะตัดโลภะ ความโลภ ออกจากจิต พระพุทธเจ้าให้ใช้จาคานุสสติกรรมฐานเป็นกำลังหนุน คำว่า จาคานุสสติ นีก็หมายความว่าจิตคิดไว้เสมอว่าเราจะสงเคราะห์สัตว์อื่นหรือบุคคลอื่นนอกจากตัวเรา ให้มีความสุข ตามกำลังที่เรา
จะพึงทำได้ ถ้ายังคิดอยู่ถือว่าเป็นจาคานุสลติกรรมฐาน ถ้าลงมือทำถือว่าเป็นทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน ถ้าให้ถือว่าเป็นทาน คิดว่าจะให้เป็นจาคานุสสติ ทั้ง ๒ อย่างนี้ต้องมีอารมณ์ควบกัน
ถ้าตัดตรงๆ จริงๆ ก็แค่ ๓ อย่าง ที่นีวิธีตัด ถ้าเราจะตัดโลภะ ความโลภ ออกจากจิต พระพุทธเจ้าให้ใช้จาคานุสสติกรรมฐานเป็นกำลังหนุน คำว่า จาคานุสสติ นีก็หมายความว่าจิตคิดไว้เสมอว่าเราจะสงเคราะห์สัตว์อื่นหรือบุคคลอื่นนอกจากตัวเรา ให้มีความสุข ตามกำลังที่เรา
จะพึงทำได้ ถ้ายังคิดอยู่ถือว่าเป็นจาคานุสลติกรรมฐาน ถ้าลงมือทำถือว่าเป็นทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน ถ้าให้ถือว่าเป็นทาน คิดว่าจะให้เป็นจาคานุสสติ ทั้ง ๒ อย่างนี้ต้องมีอารมณ์ควบกัน
ที่มา..
พระธรรมคำสอน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทราราม(ท่าซุง)
️จากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๕๖ หน้าที่๑๑๙~๑๒๐
พระธรรมคำสอน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทราราม(ท่าซุง)
️จากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๕๖ หน้าที่๑๑๙~๑๒๐
️พิมพ์พระธรรมโดย นภา อิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น