17 สิงหาคม 2561

เพราะเห็นแก่เหยื่อ จึงติดเบ็ด


เพราะเห็นแก่เหยื่อ จึงติดเบ็ด
เบ็ด ๖ ตัว รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์
" ภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนพรานเบ็ด ซัดเบ็ดที่เกี่ยวเหยื่อลงไปในห้วงน้ำลึก. ปลาที่เห็นแก่เหยื่อตัวใดตัวหนึ่งจะพึงกลืนเบ็ดนั้นเข้าไป.
ภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยอาการนี้แหละ ปลาที่กลืนเบ็ดตัวนั้น ถึงแล้วซึ่งความพินาศ ถึงแล้วซึ่งความฉิบหายเพราะพรานเบ็ด แล้วแต่พรานเบ็ดนั้นใคร่จะทำตามอำเภอใจอย่างใด.
ภิกษุทั้งหลาย ! ฉันใดก็ฉันนั้น, เบ็ด ๖ ตัวเหล่านี้มีอยู่ในโลก เพื่อความฉิบหายของสัตว์ทั้งหลาย เพื่อฆ่าสัตว์ทั้งหลาย.
เบ็ด ๖ ตัวนั้นเป็นอย่างไรเล่า?
เบ็ด ๖ ตัวนั้น คือ รูป ที่เห็นด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี, และธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, มีอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ, ถ้าภิกษุเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งอารมณ์ ( ๖ อย่างนี้ ) มี รูป เป็นต้นนั้นไซร้ ;
ภิกษุ ทั้งหลาย ! ภิกษุนี้เราเรียกว่า "ผู้กลืนเบ็ดของมาร" ถึงแล้วซึ่งความพินาศ ถึงแล้วซึ่งความฉิบหาย แล้วแต่มารผู้มีบาปใคร่จะทำประการใด แล.
บาลีพระไตรปิฎก
สฬา. สํ. ๑๘/๑๙๗/๒๘๙
"โผฏฐัพพะ" คือ สิ่งที่ถูกต้องกาย , อารมณ์ที่จะพึงถูกต้องด้วยกาย เช่น เย็น ร้อน อ่อน นุ่ม แข็ง เป็นต้น
"ธรรมารมณ์" คือ สิ่งที่ถูกรับรู้ได้ทางใจ, สิ่งที่รู้ด้วยใจ, สิ่งที่ใจรู้สึกนึกคิด

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...