* หลวงพ่อฤาษีลิงดำ~พระราชพรหมยานฯ..ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ..
~ บ้านทุกหลัง มีพระภูมิเจ้าที่ อยู่ไหมคะ..
หลวงพ่อฯ : เขาคงไม่อยู่นะ.. พระภูมิองค์หนึ่ง รักษาเขตเป็นกิโล ๆ องค์เดียวกันนี่นะ
~ เคยถามเขาว่า : คนที่คุณรักษาในเขตกรุงเทพฯ เป็นกิโล นี่ คนมันมากเหลือเกิน มีเป็นล้าน แล้วคุณจะรู้ได้ยังไง ว่า เขาทำดีทำชั่ว ต่างกรรมต่างวาระ คุณรู้ได้ยังไง..
~ เขาบอกว่า : อารมณ์จิตผมเป็นทิพย์ครับ คือ ไม่ต้องไปถามดูหรอก มันขึ้นเอง คือว่า บัญชีมันขึ้นเอง มันจะบอกเลยว่า ใครทำอะไร.. เขาบอกว่า : เขามีหน้าที่รับทราบ คนที่ทำความดีความชั่ว.
* เมื่อถึงเวลาวันโกน วันกลางเดือน หรือ วันสิ้นเดือน จะมีเทวดาชั้นจาตุมหาราช มารับบัญชี และก็ จะไปส่งให้ เทวดาที่เป็นมหาอำมาตย์ใหญ่ เทวดาผู้ใหญ่ ก็เสนอท้าวมหาราช.
~ ท้าวมหาราช ท่านก็จะแบ่งบัญชี เป็น ๒ บัญชี ใครทำบาป กันไว้ประเภทของบาป.. ใครทำบุญ กันไว้ประเภทของบุญ.. ประเภทบาป ก็ให้เทวดา ๔ องค์ ที่เรียกว่า"เทวทูต" นำไปส่งสำนักพระยายม.
* ตัวท่านท้าวมหาราชเอง พอเวลาวันพระ ก็นำไปส่งที่ประชุมของเทวดา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อเทวดามาประชุมกัน ที่เทวสภา หรือ ศาลาสุธรรมา บรรดาเทวดาทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อทราบว่าคนทำบุญมาก ก็ดีใจ.
~ แต่หน้าที่ ที่จะนำเอาบัญชีนั้นไปกราบทูล ให้พระอินทร์ทรงทราบ คือ "ท่านปัญจสิกขเทพบุตร" มีหน้าที่เป็นเลขาพระอินทร์ เมื่อพระอินทร์ทรงทราบแล้ว ก็ประกาศนามคนที่ทำบุญเหล่านั้น ให้มวลหมู่เทวดา ที่มาประชุมกันทราบ.
* ถ้าระหว่างวันพระไหน มีคนทำบุญมาก บัญชีบุญบัญชีกุศลมาก บรรดาเทวดาทั้งหลาย ก็ดีใจ กล่าวกันว่า.. ต่อแต่นี้ไปพวกบรรดาเทพนิกายมากแล้ว.
~ เพราะอาศัย ความดี ดีใจ ปลื้มใจ ที่มีพวกมาก ท่านก็พากันฟ้อนรำ ทั้งเทวดา และ นางฟ้า.. ความจริงสวยจริง ๆ นะ
* แต่วันพระไหน ถ้าบังเอิญคนทำบุญน้อย บรรดาเทวดาทั้งหลาย ได้ทราบจากบัญชีของท้าวมหาราช ก็สลดใจ วันนั้นไม่มีการฟ้อนรำ นั่งสลดใจเศร้าสร้อยไปตาม ๆ กัน..
( จากหนังสือ *หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม* เล่มที่ ๓ หน้าที่ ๒๔ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี..คัดลอก โดย ยุพยง พัฒนเจริญ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น