13 มีนาคม 2561

สุกทันตฤาษี

            

หากจะกล่าวกันแล้ว ฤาษีที่มีความเกี่ยวพันกับสุวรรณภูมิหรือสยามประเทศมาเมื่อเวลาประมาณพันกว่าปีมานี้เอง ในยุคเริ่มก่อตั้งอาณาจักรสยาม คือ ประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐ เศษ ๆ  มีฤาษีที่มีชื่อปรากฏในเอกสารทางประวัติศาสตร์อยู่หลายองค์ด้วยกัน ที่สำคัญ ๆ ก็ได้แก่ พระวาสุเทพฤาษี ที่มีที่พำนักอยู่ ณ ยอดอุฉุจบรรพตหรือเขาอ้อย ( ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน)   อสีพรหมสิฤาษี มีที่พำนักอยู่ที่ ภูเขาสองยอด และสัชชนาลัยฤาษี มีที่พำนักอยู่ ณ ยอดเขา "สะดางค์" บรรพต ( เขาหลวงในจังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน) สุกทันตฤาษี มีที่พำนักอยู่ ณ เขา "ธรรมิกบรรพต" ในเขตเมืองละโว้ (ตำบลเขาสอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน)
             สำหรับสุกทันตฤาษี ที่เป็นยอดคุรุแห่งเมืองละโว้นี้นั้น  ปรากฏเอกสารทางประวัติศาสตร์ว่าได้เป็นอาจารย์ของกษัตริย์ถึงสามอาณาจักรด้วยกัน คือ อาณาจักรสุโขทัย (พ่อขุนรามคำแหง) อาณาจักรพะเยา (พ่อขุนงำเมือง) อาณาจักรโยนก (พ่อขุนเม็งรายมหาราช) เมื่อครั้งที่กษัตริย์ทั้งสามพระองค์นั้น ยังเป็นเจ้าชาย มาศึกษาเล่าเรียนกับสุกทันตฤาษีที่เขาธรรมิกบรรพตหรือเขาสมอคอนในปัจจุบัน เขาธรรมมิกบรรพตนั้น ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี หากดูตามชัยภูมิแล้ว สภาพทางภูมิศาสตร์ของเมืองละโว้ในอดีตและจังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน ตั้งอยู่ในขอบทางทิศตะวันออกของที่ราบภาคกลางตอนล่าง ต่อเนื่องกับขอบที่ราบสูงโคราช ตั้งอยู่บนที่ราบสลับกับเนินเขาและภูเขา บริเวณที่ราบลุ่มมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ ๒๕-๖๐ เมตร เขาธรรมิกบรรพตจึงเป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญในสมัยโบราณ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกษัตริย์หลายองค์ ที่มาศึกษาเล่าเรียนแล้วกลับไปถิ่นเดิม ได้สร้างบ้านแปลงเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก  
            สุกทันตฤาษีนับว่าเป็นยอดอาจารย์โดยแท้ ที่สามารถสั่งสอนลูกศิษย์ให้ประสบความสำเร็จจำนวนมาก ตามตำนานได้กล่าวว่า สุกทันตฤาษีนั้น เคยอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ต่อมาได้ลาสิกขาไปเป็นเพศฆราวาส เมื่อครองเพศฆราวาสแล้ว ก็เกิดความเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส จึงออกบวชเป็นฤาษี ได้ไปอยู่ในป่าหิมพานต์ บำเพ็ญเพียรได้ญาณสำเร็จ  อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘  แล้วจึงกลับมาพำนัก ณ เขาธรรมิกบรรพต (เขาสมอคอน) 

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...