๏ ลักษณะของเมตตา ๏
ควรสร้างความรู้สึกคุมอารมณ์ไว้ตลอดวันว่า เราจะหวังสร้างความเมตตาสงเคราะห์เพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่มีในโลกนี้ทั้งหมด เราจะไม่สร้างความสะเทือนใจความลำบากกายให้เกิดมีขึ้นแก่คนและสัตว์ เพราะความสุขความทุกข์ของคนและสัตว์ทั้งหมดเราถือว่าเป็นภาระของเราที่จะต้องสงเคราะห์หรือสนับสนุน ถ้าความทุกข์มีขึ้นเราจะมีทุกข์เสมอด้วยกับเขา ถ้าเขามีสุขเราจะสบายใจด้วยกับเขา มีความรู้สึกรักคนและสัตว์ทั้งโลกเสมอด้วยรักตนเอง
๏ ลักษณะของกรุณา ๏
ความสงสารปรานีนี้ก็มีอาการที่ไม่หวังผลตอบแทนเช่นเดียวกับเมตตา มุ่งหน้าสงเคราะห์คนและสัตว์ที่มีความทุกข์อยู่ให้หมดทุกข์ตามกำลังกาย กำลังปัญญา กำลังทรัพย์เท่าที่จะทำได้
๏ ลักษณะของมุทิตา ๏
ทั้งนี้อารมณ์ของท่านมีมุทิตาประจำใจนั้นคิดอยู่เสมอว่า ถ้าคนทั้งโลกมีโชคดีด้วยทรัพย์และมีความเฉลียวฉลาดเหมือนกันทุกคนแล้ว โลกนี้จะเต็มไปด้วยความสุขและเยือกเย็น ปราศจากภยันตรายทั้งหมด คิดยินดีให้ชาวโลกทั้งหมดเป็นผู้มีโชคดีตลอดวันและคืน อารมณ์พลอยยินดีนี้ต้องไม่เนื่องเพื่อผลตอบแทน ถ้าหวังการตอบแทนแม้แต่เพียงคำว่า "ขอบใจ' อย่างนี้เป็นมุทิตาที่อิงกิเลส ไม่ตรงต่อมุทิตาในพรหมวิหาร 4 นี้ ความแสดงออกถึงความยินดีในพรหมวิหาร 4 ไม่หวังผลตอบแทนด้วยกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
๏ ลักษณะของอุเบกขา ๏
ความวางเฉยในพรหมวิหาร 4 นี้หมายถึงเฉยโดยธรรม คือทรงความยุติธรรมไม่ลำเอียงต่อผู้ใดผู้หนึ่งที่จะต้องได้รับทุกข์หรือรับสุข พร้อมกันนั้นก็มีอารมณ์ประกอบด้วยความเมตตาปรานี พร้อมที่จะสงเคราะห์ในเมื่อมีโอกาส
พระราชพรหมยาน,ธัมมวิโมกข์ (2555),373,35-36
Facebook : นิตยสารธัมมวิโมกข์ วัดท่าซุง
สมัครสมาชิกนิตสารธัมมวิโมกข์ได้ที่ ID Line : Thammavimok2021
หรือกดที่ลิ้ง https://line.me/ti/p/bgrsOBjCHf
(ภาพนี้ ไม่ทราบหลวงพ่อถ่ายภาพที่ไหน..?)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น