**สมเด็จองค์ปฐม** ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ มีความสำคัญดังนี้
หมั่นดูกรรมบถ ๑๐ ให้มากด้วย **อย่าเพ้อเจ้อเหลวไหล การพูดอย่างมีสติกับการพูดอย่างไม่มีสตินั้นต่างกัน ตรงที่จักต้องคิดไว้ก่อนแล้วจึงพูด พูดอย่างนี้มีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ เป็นกุศลหรืออกุศล เป็นบุญหรือบาป เป็นคุณหรือเป็นโทษ เป็นสุขหรือเกิดทุกข์ หากใคร่ครวญเสียก่อนแล้วจึงพูด** (นิสัมมะกรณังเสยโย) ก็จักเพิ่มกุศลให้กับตนเอง และผู้รับฟังธรรม)
การทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมนั้น ย่อมต้องเสียสละหมดทุกอย่างแม้แต่สละร่างกายก็ยอมด้วยเห็นผลในการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวมนั้นๆ นี้เป็นวิสัยของพุทธสาวกพึงมีมาแล้วในทุกๆ พุทธันดร (แต่จงดูบารมีหรือกำลังใจของตนเองด้วยว่ามีระดับไหน อย่าเห็นช้างขี้ แล้วจะขี้ตามช้างโดยขาดปัญญาจะทำอะไรให้อยู่ในขอบเขตบารมีของตน)
**ที่ตรัสนี้เป็นปฏิปทาของพระอรหันต์ส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทุกองค์หรอกนะ** เพราะทุกองค์เมื่อจบกิจแล้ว ก็จักรู้หน้าที่แห่งตน และรู้หน้าที่ควรและไม่ควรในกิจที่ต้องกระทำ หรือไม่กระทำแห่งตนอีกด้วย องค์ไหนรับหน้าที่อย่างไร ก็พึงเป็นไปตามนั้น
**ชาติ - ศาสนา - พระมหากษัตริย์ ๓ สถาบันนี้ขาดกันไม่ได้** ต้องพึ่งพากันอยู่ตลอดและจงอย่าลืม **พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย เพราะสมเด็จองค์ปัจจุบันทรงตรัสไว้ชัดว่า พระพุทธศาสนาจักเจริญอยู่กับประเทศไทยจบครบ ๕,๐๐๐ ปี**
ท่านฤๅษีก็ดี - หลวงปู่วัย ก็ดี ตอนมีชีวิตอยู่ ปฏิปทาของท่านช่วยคน ช่วยชาติอย่างไร พวกเจ้าจึงพึงศึกษากันไว้(ให้ทุกคนศึกษาได้ในธรรมะ เล่ม ๒ รำลึกถึงความดีของหลวงพ่อในอดีต หลวงพ่อฤๅษีวัดท่าซุง หรือพระราชพรหมยานมหาเถระ)
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นเล่ม ๘ เดือนมิถุนายน ๒๕๓๘ ตอน ๑
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
#สมเด็จองค์ปฐม4** **#ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น