อย่าลืมเมื่อเราเกิดแล้วมีชีวิตมีกายสังขารแล้ว นั่นแหล่ะจ้ะ..เขาให้ทุกสิ่งให้กับเรามาแล้ว ถ้าโยมได้บรรลุธรรมเล่าจ๊ะ บรรลุถึงความดีเล่าจ๊ะ ถ้าไม่มีท่านบุคคลผู้นั้นโยมจะมีมั้ยจ๊ะ ทุกอย่างที่โยมมี..โยมก็มีไม่ได้เช่นกัน
ถ้าอย่างนั้นโยมอย่าถามหาอะไร ว่าท่านนั้นไม่ได้เลี้ยงดูเรามา..ไม่จริง ชาตินี้ไม่เลี้ยงดูมา..ชาติก่อนเขาเลี้ยงมาแล้ว ที่เขาไม่เลี้ยงดูเราเพราะบุญเขาอาจไม่ถึงเรา เข้าใจมั้ยจ๊ะ ถ้าเขาเลี้ยงดูเราต่างคนต้องต่างตายไปคนหนึ่ง ทีนี้ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างมีชีวิตรอด แล้วเมื่อถึงเวลาก็จะพบกันเอง เข้าใจมั้ยจ๊ะ
ดังนั้นโยมมีหน้าที่ตอบแทนอย่างเดียว ไม่มีสิทธิ์มีข้อแม้ แต่ถ้าโยมมีอคติในใจเสียแล้ว..เป็นอกุศล ขอให้โยมจงน้อมจิตน้อมใจด้วยอำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระรัตนตรัยขอขมาด้วยกายวาจาใจของเราได้ล่วงเกินในคุณบิดามารดาผู้ให้กำเนิดที่มีคุณทั้งหลายไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ภพกี่ชาติกี่ร้อยกี่พันชาติทั้งหลายที่ท่านได้เกิดมา ให้เราได้กำเนิด เลี้ยงดูมาแล้วในคุณไม่มีอะไรประมาณแล้ว
ข้าพเจ้าลูกคนนี้ ขอน้อมกราบแทบเท้า ต่อบิดามารดาผู้นั้น ด้วยกาย วาจา ใจที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ข้าพเจ้าขอขมากรรม ขอให้บิดามารดาเมื่อรับรู้แล้วจงอโหสิกรรมให้ลูกผู้นี้ ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยจงอดอาฆาตพยาบาท อย่าได้มีเวรภัยกับข้าพเจ้าเลย
ขอบุญกุศลข้าพเจ้าที่ได้มาเจริญกรรมฐานเจริญทานศีลภาวนานี้ที่สำเร็จเกิดขึ้นนี้แล้ว จงดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น แม้จะอยู่ก็ดี ไม่มีชีวิตอยู่ก็ดี เสวยสุขอยู่ก็ดี เสวยทุกข์อยู่ก็ดีขอให้พ้นทุกข์พ้นภัย อยู่ในภพภูมิที่ดี จงมีแต่ความสุขความเจริญ สบายจิตสบายใจ ตลอดชั่วกาลและนานเทอญ โยมเคยทำไมเล่าจ๊ะแบบนี้ โยมเคยน้อมระลึกถึงแบบนี้มั้ยจ๊ะ..
มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
ติดตามข้อมูลข่าวสารกิจกรรมของมูลนิธิได้ทาง https://www.facebook.com/mprs.foundation
ติดตาม คลิปธรรมะได้ทาง YouTube channel : ธรรมะมหัศจรรย์ ตามรอยธรรมสมเด็จโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น