ทำจิตให้เหมือนดูหนังดูละคร ผ่านไปแล้วก็ผ่านเลย
ทำจิตให้เหมือนกระจกเงา อะไรผ่านเข้ามาก็เห็นหมด แต่เมื่อเลยไปแล้วกระจกเงาก็ไม่ได้ยึดภาพเหล่านั้นไว้เลย จำไว้จงเป็นเพียงผู้ดู
สมเด็จองค์ปฐมทรงตรัสสอนปกิณกะธรรมในเดือนนี้ มีความสำคัญดังนี้
ทำจิตให้เหมือนดูหนังดูละคร ผ่านไปแล้วก็ผ่านเลย หรือ ทำจิตให้เหมือนกระจกเงา อะไรผ่านเข้ามาก็เห็นหมด แต่เมื่อเลยไปแล้วกระจกเงาก็ไม่ได้ยึดภาพเหล่านั้นไว้เลย จำไว้จงเป็นเพียงผู้ดู ที่แล้วๆ มาพวกเจ้าลงไปแสดงร่วมกับเขาด้วย จึงเป็นการขาดทุนอย่างยิ่ง
อยู่ในโลกไม่มีใครพ้นจากโลกธรรม ๘ ไปได้ พระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ทุกองค์ก็ดี ยังถูกนินทาใส่ร้ายป้ายสี แล้วพวกเจ้าเป็นใคร ทำไมจักไม่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ให้มองเห็นว่ามันเป็นธรรมดาของชาวโลก จิตก็จักปล่อยวางโลกธรรมนี้ลงได้ และให้รู้กฎของกรรม ให้ยอมรับนับถือกฎของกรรมอย่าไปตำหนิใครว่าเลวหรือชั่ว นั้นเป็นเพราะอกุศลเข้าครอบงำ จิตเขาเห็นดีอย่างนั้น จึงทำไปตามอำนาจของกรรมที่เป็นอกุศลกฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้น
หากพวกเจ้ามิได้เคยสร้างกรรมเหล่านี้ไว้ก่อนในอดีต วิบากกรรมนั้นจักเกิดกับพวกเจ้านั้นเป็นไปไม่ได้ ขอให้อดทน ไม่ช้ากฎของกรรมก็ย่อมจักคลายตัวไปเอง โลกเสื่อมมากเท่าไหร่ ทุกข์ก็มากขึ้นเท่านั้น แต่อย่าพึงห่วงวิตกกังวลให้มาก รักษาอารมณ์จิตให้เป็นสุขอยู่ในปัจจุบันดีกว่า เตรียมพร้อมด้วยความไม่ประมาท ซ้อมตายเอาไว้เสมอ รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน พลาดท่าขึ้นมาจักได้ทิ้งร่างกายไปพระนิพพานได้ทันท่วงที
ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้นเล่ม ๑๐เดือนมีนาคม ๒๕๔๐
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
#รวมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์ #โอวาทธรรม
#สมเด็จองค์ปฐม #ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น