โดยไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว.?...
1 ถ้าลูกๆ มีนํ้ามูก และ เสมหะแสดงว่าลูกเป็นไข้หวัดธรรมดาอย่าได้ตกใจจนจิตตกเพราะอาการของเจ้าโควิด 19 คือไอแห้งๆ และ ไม่มีนํ้ามูก
2 ไวรัสโควิด 19 ไม่ทนความร้อน และ มันจะถูกฆ่าที่อุณหภูมิ 26 -27 องศา
3 ไวรัสโควิดไม่ชอบแสงแดด อากาศร้อนมันจะตายหากเวลานอนควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้มีอากาศหมุนเวียนโดยใช้พัดลมระบายอากาศเข้าช่วยหากไม่จำเป็นอย่าเปิดแอร์ฯ
4 หากมีคนจามเชื้อไวรัสโควิดจะกระจายออกไปประมาณ 10 ฟุตก่อนที่จะตกลงบนพื้นผิวพื้น และ แพร่กระจายทางอากาศได้ด้วย
5 ถ้าตกลงบนพื้นผิวที่เป็นโลหะไวรัสโควิดจะมีชีวิตอยู่ได้ 12 ชั่วโมงฉะนั้นถ้าลูกๆ สัมผัสกับโลหะเช่น ราวจับบนรถประจำทาง รถรางไฟฟ้า ให้รับล้างมือทันทีด้วย
เจลหรือแอลกอฮอล โดยเร็วที่สุดหรือด้วยสบู่ล้างมือ นํ้ายาล้างจานก็ใช้ได้
6 เชื้อโควิดสามารถจะอยู่บนเสื้อผ้าของลูกได้นาน 6 - 12 ชั่วโมงนํ้ายาซักผ้าธรรมดาก็สามารถฆ่าเชื้อนี้ได้
7 การดื่มนํ้าอุ่นจะช่วยจัดการกับไวรัสทุกชนิดไม่ว่ามันจะกลายพันธ์หรือไม่ก็ตามงดการดื่มนํ้าเย็น
8 ล้างมือบ่อยๆ เพราะไวรัสโควิดสามารถมีชีวิตอยู่ที่มือของลูกได้นาน 5 - 10 นาที และคนส่วนใหญ่มักจะเผลอขยี้ตาในช่วงเวลานั้น และ แคะจมูกโดยไม่รู้ตัวและ อื่นๆ ซึ่งการล้างมือมีความสำคัญๆ มากกว่าการสวมใส่แมสก์เสียด้วยซํ้า
9 ลูกๆ ควรกลั้วคอเพื่อเป็นการป้องกันตัววิธีง่ายๆ คือผสมเกลือลงในนํ้าอุ่นเพียงเล็กน้อยแล้วใส่บรรจุขวดติดตัวไว้ระหว่างเดินทางคอยจิบนํ้าสักเล็กน้อยเมื่อลูกรู้สึกคอแห้ง
10 ดื่มนํ้าเปล่าให้เพียงพอ 1ลิตรครึ่ง ถึง 2 ลิตรต่อวัน
ต่อไปจะเป็นอาการระยะที่ 1 ของเชื้อโควิด ///
1 อาการในระยะเริ่มแรกจะเกิดความรู้สึกว่าเจ็บคอประมาณครึ่งค่อนวัน
2 ไวรัสจะติดไปกับเมือกที่อยู่ในโพรงจมูกแล้วเดินทางเข้าสู่หลอดลม และ ปอดในที่สุดทำให้ปอดเกิดอาการอักเสบซึ่งใช้เวลา 5 - 6 วัน หรือมากกว่านั้น ลูกๆ เมื่อรู้สึกเจ็บคอควรรีบทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูล วันละ 2 - 3 แคป เช้า
กลางวัน และ เย็น แล้วแต่ปริมาณของยาที่อยู่ในนั้น ทาน 5 วันแล้วเลิกเลย
3 ระยะที่สาม เมื่อปอดอักเสบจะมีอาการไข้ขึ้นสูง และ หายใจติดขัดหายใจลำบาก
4 ระยะที่ 4 จะมีอาการคัดจมูก ซึ่งต่างจากอาการทั่วไป เมื่อเข้าสู่ระยะนี้แล้วจะมีความรู้สึกเหมือนกำลังจมนํ้าทั้งๆ ที่เรายืนอยู่บนถนน หากใครมีอาการเช่นนี้จำเป็นต้องรับการเยียวยารักษาโดยด่วนที่สุด
ผู้ติดเชื้อโควิต จะไม่แสดงอาการหลายวันแล้วลูกๆ จะรู้ได้อย่างไร.?..
หากบุคคลนั้นติดเชื้อแล้ว ถ้าหากมีไข้ขึ้นหรือมีอาการไอแห้งๆ ร่วมด้วยควรรีบไป
โรงพยาบาลทันที ปกติแล้วหากปอดมีพังผืดอยู่ที่ 50% มันก็อาจจะสายเกินไปนะลูก
แพทย์และผู้เชื่ยวชาญได้แนะนำว่า ลูกๆ สามารถตรวจสอบตัวเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ
ว่าอาการของตัวเองในทุกๆ เช้า โดยการสูดหายใจลึกๆ แล้วกลั้นลมหายใจสัก 10
วินาทีถ้าสามารถทำได้โดยไม่สำลักไอเสียก่อน หรือ ติดขัดใดๆ แสดงว่าไม่มีพัง
ผืดที่ปอด และ ยังไม่มีการติดเชื้อที่ปอด
ในช่วงวิกฤตนี้ลูกสามารถทดสอบด้วยตัวตนเองในทุกๆ เช้าในที่ๆ มีอากาศบริสุทธิ์สะอาด ลูกไม่ควรให้ปาก และ ลำคอแห้งควรจิบนํ้าอย่างที่พ่อแนะนำนำขวดนํ้าขนาดเล็กติดตัวและจิบมันทุก 15 นาที ทำไมหรือ.?..
หากลูกเผลอได้รับเชื้อเข้าไปในปากแล้ว การดื่มนํ้าหรือของเหลวอื่นๆ จะช่วยล้าง
และ นำพาไวรัสโควิดลงกระเพาะอาหาร นํ้าย่อยจากกรดในกระเพาะจะช่วยฆ่าเชื้อไวรัสได้
ถ้าลูกๆดื่มนํ้าไปไม่มากพอ ไวรัสโควิดมันจะเข้าสู่หลอดลม และ ปอดในที่สุดแล้วนั่นมันจะอันตรายมากๆ พ่อจึงขอให้ลูกๆ พ่อทุกๆ คนโปรดปฎิบัติตามตำแนะนำนี้เพื่อความปลอดภัยในช่วงการระบาดของเจ้าโควิดนี้ทุกคน พ่อขอให้ลูกของพ่อทุกคน "ปลอดภัย" นะ...
ที่มา
Teucer Rom...
แสงสว่าง มองการไกล...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น