11 กรกฎาคม 2564

อำนาจแห่งศีล

ต่อไปในภายภาคหน้า บุคคลที่จะเข้าถึงความสำเร็จ เข้าถึงความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์ บุคคลผู้นั้นต้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เมื่อผู้ใดมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จะพูดก็ดี จะทำก็ดี จะคิดก็ดี ก็จะได้พรวิเศษ 

ดังนั้นบุคคลจะสัมฤทธิ์ในพรในความปรารถนาใดๆก็ตาม บุคคลนั้นต้องมีบุญฤทธิ์เกิดขึ้นในตัวก่อน หรือเรียกคุณวิเศษ หากแม้ว่าไม่มีคุณวิเศษในภูมิธรรมใดแล้ว การที่เราจะไปเที่ยวขอพรหรือได้รับพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย..จะหาว่าจะประสิทธิให้เกิดความขลังความศักดิ์สิทธิ์นั้นก็เกิดขึ้นได้ยาก เพราะเรานั้นไม่มีฐานบุญที่จะไปรองรับ นั่นก็คืออำนาจแห่งศีล อย่างน้อยต้องมีพื้นฐานของศีล ๕ ในกรรมบท ๑๐ 

ขอให้โยมระลึกถึงอำนาจแห่งศีล..ระลึกถึงอย่างไร ระลึกถึงว่า..ศีลที่เรามีอยู่ในความเป็นมนุษย์นี้ เรามีความบกพร่องอย่างไรบ้าง ก็ขอให้โยมนั้นได้ขอขมาขออโหสิกรรมต่อพระรัตนตรัยให้ได้เสียก่อน เมื่อเราระลึกถึงอย่างนั้นแล้ว นั้นกรรมอันใดศีลอันใดข้อใด ที่เราได้ล่วงมาแล้วในกาย วาจา ใจ ก็ขอให้ละเสีย ณ ขณะนี้ แล้วตั้งใจที่จะรักษากาย วาจา ใจ ในทางกุศลในทางชอบ 
เมื่อเราระลึกและสำรวมสำนึกได้ในกรรมใดก็ตาม ขออโหสิกรรมขอขมากรรม ขออำนาจบุญกุศลที่เราได้มากระทำ จะเป็นการเจริญมนต์ เจริญภาวนา แผ่เมตตาก็ดี ได้สร้างอธิษฐานก่อพระเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาก็ดี เรียกว่าเป็นการชำระหนี้สงฆ์ ชำระหนี้กรรม..

ให้โยมตั้งจิตอธิษฐานแผ่บุญกุศลทั้งหลายนี้ ให้กับดวงจิตวิญญาณเจ้ากรรมนายเวร คู่อาฆาตพยาบาท คู่อิจฉาริษยา น้อมนำจิตนั้นให้ระลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง อธิษฐานขอแสงสว่างแห่งพระรัตนตรัย แสงบุญกุศลทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยมีมา ได้กระทำมาในอดีตถึงในปัจจุบัน ในบารมีทั้ง ๑๐ ก็ดี ในทาน ศีล ภาวนาก็ดี 

บุญอันใดกุศลอันใดพึงจะมีพึงจะเกิดแก่ข้าพเจ้าแก่เรา..ก็ขอให้บังเกิดขึ้นมา เมื่อบังเกิดแล้วขอให้เป็นแสงสว่างแห่งบุญ บุญนี้แสงสว่างนี้จงสำเร็จประโยชน์ต่อดวงจิตวิญญาณทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินมีความอาฆาตพยาบาท ขอให้ดวงจิตวิญญาณเหล่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิใด จะเสวยทุกข์อยู่ก็ดี เสวยสุขอยู่ก็ดี จงมาโมทนา..

หากแม้วิญญาณเหล่าใดก็ตามไม่สามารถจะรับบุญกุศลกับข้าพเจ้าได้แล้วไซร้ ขอฝากบุญกุศลนี้ไปถึงนายนิรยบาล ท้าวจตุโลกบาลก็ดี ท่านท้าวพญายมก็ดี ให้ฝากบุญกุศลไว้ เมื่อถึงคราวแล้วที่เค้าจะเสวยผลบุญกุศลได้ ก็ขอผลบุญกุศลนี้จงสำเร็จประโยชน์กับดวงจิตวิญญาณเหล่านั้น อย่าได้มีเวรอาฆาตพยาบาท ไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิใดชาติใด หากต้องมาเจอมาพบก็ขอให้เป็นมิตร อย่าได้เป็นศัตรูต่อกัน 

ขอบุญกุศลทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้กระทำ ไม่ว่าจะอยู่กี่ภพกี่ชาติก็ตามจนมาถึงปัจจุบันนี้ ขอรวมเป็นบารมีเป็นกุศล เป็นพลวปัจจัยอุดหนุนค้ำชูให้ข้าพเจ้านั้นจงมีอายุมั่นขวัญยืน ปราศจากโรคภัย แม้มีโรคแม้มีภัยก็ขอให้มียารักษา แม้มีเคราะห์แม้มีภัยขอให้ปลอดภัยแคล้วคลาด แม้มีกรรมหนักก็ขอให้เบาบาง ถึงแม้เคราะห์นั้นจะถึงแก่ชีวิตก็ขอให้กรรมนั้นลหุโทษ ให้ปลงชีวิตสังขารนั้นไว้เพื่อประโยชน์ต่อศาสนาสืบต่อไป ให้โยมทั้งหลายตั้งจิตอธิษฐาน

เมื่อโยมทั้งหลายตั้งจิตอธิษฐานอย่างนี้ได้ วาสนาดวงนั้นก็จะเปิดขึ้น เมื่อเปิดแล้วก็ขอให้โยมทั้งหลายจงระลึกถึงแต่สิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดีอย่าไประลึกเลย เพราะว่ากรรมทั้งหลายนั้นที่กระทำมาแล้วไม่สามารถย้อนไปแก้ไขได้ เมื่อเราสำนึกแล้วในบาปกรรมนั้น ก็ขอให้วางเป็นธุระอย่างนั้นไว้ตามกำลังของกรรมแห่งกรรม ก็ยกจิตในขณะนี้ตั้งจิตเสียใหม่ ตั้งใจเสียใหม่ อธิษฐานบุญกุศลและบารมีใหม่ ตั้งใจที่จะสร้างคุณความดี..

นั้นสิ่งใดที่โยมยินดีที่โยมปรารถนาไว้ โยมจงอธิษฐานมาเป็นบารมี สิ่งไหนที่เราอธิษฐานปรารถนาพึงจะได้ หากไม่เกินวิสัยในบุญกุศลและบารมีเรานั้น เมื่อเรานั้นได้อธิษฐานปัดเป่าอุปสรรค ในวิบากกรรมดวงจิตวิญญาณทั้งหลาย คู่อาฆาตพยาบาท อุปสรรคเหล่านี้เมื่อเรานั้นได้อธิษฐานบุญไป บุญกุศลนั้นก็จะผลักดันให้สิ่งเหล่านั้นไม่สามารถมากล้ำกรายเราได้ในขณะนี้ ก็เหมาะแล้วแก่การที่จะอธิษฐานจิตอธิษฐานบารมี 

การอธิษฐานบารมี..บารมีนั้นคือสิ่งที่เรานั้นปรารถนาหรือความตั้งใจให้เกิด ดังนั้นแล้วไม่มีสิ่งใดเลยที่มนุษย์นั้นจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่เราอธิษฐานหรือปรารถนาบารมีนั้น เป็นการสะสมมาแล้วหลายภพหลายชาติ หากเราไม่เกิดขึ้นอยู่ในภวังค์ของจิตที่เราปรารถนา..จิตเราจะไม่ไปเกี่ยวข้องไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง แต่หากที่เราปราถนาไว้มีความตั้งใจ แสดงว่าสิ่งนั้นเราเคยได้อธิษฐานบารมีแล้วมานับไม่ถ้วน ขอให้โยมนั้นจงอธิษฐานบุญกุศลใหญ่ให้มันเกิดขึ้น 

ดังนั้นทาน ศีล ภาวนาที่เราอบรมมา กุศลในทาน ภาวนาที่เราเคยอบรมมา ธรรมที่เราเคยฟังมา ขอให้โยมนั้นอธิษฐานบุญกุศลนั้น ให้เกิดเป็นตบะเป็นบารมี อธิษฐานที่จะสร้างบารมีใหญ่กับท่านสมเด็จโต ไม่ว่าเราจะทำได้หรือไม่ได้ก็ตาม สิ่งที่เราปรารถนา จิตที่เป็นกุศลตั้งมั่นนั่นแล มันจะมีอานิสงส์หนุนนำให้เรานั้นเกิดสภาพความคล่องในทางโลก 

อย่าได้ไปคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ อย่าได้ประมาทในบุญกุศลและบารมีของตัวเราเอง เราไม่รู้หรอกว่าในอดีตเราสร้างบุญ สร้างบารมีมามากเท่าไหร่ สร้างกรรมชั่วมามากเท่าไหร่ ในอดีตเคยเป็นพระราชา เป็นเศรษฐี สร้างกุศล สร้างบารมี สร้างวัดสร้างวามามากเท่าไหร่ เราไม่อาจรู้ได้ 
แต่จงจำไว้ในภพปัจจุบันแห่งกรรม หากเราทำอะไรอยู่แสดงว่าในอดีตเราก็เคยได้กระทำ..ไม่ว่าจะเป็นทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ดังนั้นผลแห่งกรรมอะไรที่จะมีอานิสงส์ มีพละ มีอำนาจที่จะผลักดันให้ผล..คือการเสวยวิบากกรรมก่อน ก็คือกรรมใดก็ตามที่เราระลึกและกระทำอยู่บ่อยๆ กรรมนั้นย่อมมีอำนาจมากกว่าที่จะส่งผล

ดังนั้นอย่าได้ประมาทในบุญกุศลและกรรม จงเอาบุญกุศลและอธิษฐานติดไว้ คืออย่าได้ประมาท เราไม่รู้ได้ว่าเรานั้นจะบรรลุพระโสดาบันได้หรือไม่ที่จะมีอานิสงส์ปิดอบายภูมิ อย่างน้อยขอให้โยมนั้นตั้งมั่นอยู่ในศีล ๕ ศีล ๕ นี้แลย่อมให้สามารถเปิดทางที่จะไปโลกุตรธรรมได้ แม้จะไปแบบหยาบก็ตาม แต่บั้นปลายแล้วของจิตย่อมทำให้ละเอียดเข้าถึงพระนิพพานได้...

ที่มา
มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...