การเดินทางแสวงบุญ
ของพระถังซัมจั๋ง
บนเส้นทางอันตรายรอบด้าน ก่อนถึงดินแดนพุทธภูมิ
การเดินทางไปเยือนดินแดน
พุทธภูมิในอินเดียของ
พระถังซัมจั๋ง เกิดจากพลังดึงดูดของสิ่งที่เรียกว่า ‘การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรม’
(cultural mobility) เมื่อพ้นจาก Jade Gate ของเส้นทางสายไหม ที่เรียกชื่อตามเส้นทางค้าหยก
ในเวลานั้น.
พระถังซัมจั๋งรู้ทันทีถึงอันตรายรอบด้าน เพราะเข้าสู่ดินแดน
ที่เคยเป็นสนามรบของชนเผ่าต่างๆของพวกเติร์ก อาจถูกดึงไปเป็นพวก หรือถูกปล้นโจมตี เวลา 16 ปีต่อมา เมื่อพระถังซัมจั๋งเดินทางกลับจีน ดินแดนส่วนนี้กลายเป็นของจีนไปแล้ว ปัจจุบันเรียกว่า ‘ซินเกียง’.
พระถังซัมจั๋งรู้ดีถึงอันตรายต่างๆ เพราะฐานะการเป็นชาวพุทธ
เป็นคนที่ลักลอบออกนอกประเทศ เป็นคณะเดินทางเดี่ยว ชาวพุทธอาจถูกประหัดประหาร แต่ในที่สุด พระถังซัมจั๋งก็สามารถ
เดินทางผ่านดินแดนที่มีการสู้รบเหล่านี้อย่างปลอดภัย.
ส่วนหนึ่งมาจากความช่วยเหลือของชุมชนชาวพุทธตามเส้นทาง ที่ผุดขึ้นมาตามแหล่งน้ำโอเอซิส และเมืองต่างๆ อีกส่วนหนึ่งจากความช่วยเหลือของผู้ปกครองดินแดนต่างๆ ที่สนับสนุนวัตถุปัจจัย และเขียนจดหมายแนะนำต่อ
ผู้ปกครองอีกดินแดนหนึ่ง.
สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดคือ
พวกโจรดักปล้นตามเส้นทาง highway robber เพราะเห็น
เป็นเหยื่อที่ง่าย อันตรายที่สุด
อีกอย่างคือภูมิประเทศ ที่ยากลำบาก พระถังซัมจั๋งเกือบมรณภาพในทะเลทราย แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากคณะเดินทางอื่น ต่อมาพระถังซัมจั๋งเขียนไว้ว่า "เราเข้าไปยังทะเลทราย
ที่มองไม่เห็นขอบ ที่ไม่มีน้ำหรือต้นไม้ รู้เส้นทางข้างหน้า โดยอาศัยภูเขาที่มองเห็นอยู่ข้างหน้าเท่านั้น."
เมื่อเข้าใกล้อินเดีย เห็นสัญลักษณ์พุทธศาสนาคือพระพุทธรูป ในเทือกเขาบิมายัน ปัจจุบันอยู่ในอัฟกานิสถาน
พระถังซัมจั๋งตกตะลึงถึงพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ที่แกะสลักจากหน้าผา ที่ตกแต่งด้วยสีสรรค์ต่างๆ สะท้อนความสำคัญของพุทธศานาในท้องถิ่นนี้ สิ่งที่
พระถังซัมจั๋งประทับใจในพุทธรูป ไม่เพียงขนาดที่ใหญ่โต แต่คือการที่ตัวเองเดินทางใกล้ถึง
ดินแดนพุทธภูมิแล้ว.
หลังจากเดินทางผ่านดินแดน
ที่ปัจจุบันคือปากีสถาน ในเวลานั้นเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพระเจ้าอโศก ที่ได้สร้างพระพุทธรูปหลายหมื่นรูปในอาณาจักพระองค์ ในที่สุด
พระถังซัมจั๋งก็เดินทางมาถึง
ดินแดนพุทธภูมิ.
☘️ Pridi Boonsue
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น