12 มกราคม 2567

ปี ๒๔๘๓ มี ๙ เดือน จะไม่มีใครเกิดในช่วง 3 เดือนที่หายไป

๑ ปี มี ๙ เดือน เคยเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ถ้าย้อนหลังกลับไปหากใครจำได้ จะมีคนชอบพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าเดิมเดือนเมษายน คือ วันขึ้นปีใหม่ไทย แต่หลายคนยังไม่ทราบว่าวันที่ ๑ เมษายน ยังเป็นวันที่เปลี่ยนศักราชอีกด้วย แต่ในปัจจุบัน เราจะเปลี่ยนศักราชกันทุก ๆ วันที่ ๑ มกราคมของทุกปีตามสากล

การนับศักราชแบบปัจจุบัน ก็คือเริ่มที่เดือน มกราคม จนถึง ธันวาคม ตามสากล จอมพล แปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ออกประกาศเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากวันที่ ๑ เมษายน เป็นวันที่ ๑ มกราคม เริ่มตั้งแต่ปี ๒๔๘๔ เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับบรรดานานาอารยประเทศ ซึ่งตัดสามเดือนสุดท้ายของปี ๒๔๘๓ ออก ทำให้เดือน มกราคม ๒๔๘๓, กุมภาพันธ์ ๒๔๘๓ และ มีนาคม ๒๔๘๓ หายไป

ระหว่าง วันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๓ ถึง วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๘๓ คือช่วงเวลาที่หายไปในปฏิทิน ดังนั้นวันเวลาจะหายไป ๓ เดือน หรือ ๙๑ วัน จึงไม่มีคนเกิดในวันเวลานี้ตามปฏิทินประเทศไทย

ทำให้ในปี ๒๔๘๓ นั้น พอถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๔๘๓ วันต่อไปจะเป็นวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๔ เลย จากเดิมที่ควรเป็นวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๘๓

การนับศักราชแบบเก่า 

เดือนที่ ๑ เมษายน (เปลี่ยนศักราช)
เดือนที่ ๒ พฤษภาคม
เดือนที่ ๓ มิถุนายน 
เดือนที่ ๔ กรกฎาคม
เดือนที่ ๕ สิงหาคม
เดือนที่ ๖ กันยายน
เดือนที่ ๗ ตุลาคม 
เดือนที่ ๘ พฤศจิกายน 
เดือนที่ ๙ ธันวาคม 
เดือนที่ ๑๐ มกราคม
เดือนที่ ๑๑ กุมภาพันธ์
เดือนที่ ๑๒ มีนาคม (เดือนสุดท้ายของปี)

การนับศักราชแบบปัจจุบัน 

เดือนที่ ๑ มกราคม (เปลี่ยนศักราช)
เดือนที่ ๒ กุมภาพันธ์
เดือนที่ ๓ มีนาคม
เดือนที่ ๔ เมษายน
เดือนที่ ๕ พฤษภาคม
เดือนที่ ๖ มิถุนายน 
เดือนที่ ๗ กรกฎาคม
เดือนที่ ๘ สิงหาคม
เดือนที่ ๙ กันยายน
เดือนที่ ๑๐ ตุลาคม 
เดือนที่ ๑๑ พฤศจิกายน 
เดือนที่ ๑๒ ธันวาคม (เดือนสุดท้ายของปี)

ถ้าใครได้อ่านประวัติศาสตร์ในช่วงก่อนรัชกาลที่ ๗ ขึ้นไป จะค่อยข้างสับสนกับปีพุทธศักราชนิดหนึ่ง เพราะเขาใช้การนับศักราชแบบเก่า ยกตัวอย่าง เช่น วันเวลาที่ สวรรคตและออกพระเมรุ ของรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๖

รัชกาลที่ ๕
สวรรคต ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓
ออกพระเมรุ ๑๖ มีนาคม ๒๔๕๓

รัชกาลที่ ๖
สวรรคต ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๖๘
ออกพระเมรุ ๒๔ มีนาคม ๒๔๖๘

ถ้าใครอ่านถึงตอนนี้คงสับสนและงงว่า ทำไมพระราชพิธีถวายพระเพลิง จึงมีขึ้นก่อนการสวรรคตงั้นหรือ แต่จริง ๆ ไม่ใช่แบบนั้น เพราะนี่คือการนับศักราชแบบเก่า

ตามการนับศักราชแบบเก่า รัชกาลที่ ๕ สวรรคต ในเดือนตุลาคม คือ เดือนที่ ๗ ส่วนพระราชพิธีถวายพระเพลิง มีในเดือน มีนาคม คือ เดือนที่ ๑๒ และรัชกาลที่ ๖ สวรรคต ในเดือนพฤศจิกายน คือ เดือนที่ ๘ ส่วนพระราชพิธีถวายพระเพลิง มีในเดือน มีนาคม คือ เดือนที่ ๑๒

ที่มา
โบราณนานมา

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...