ท่านบอกว่า คนจำนวนมาก ที่มีบารมียังไม่เข้มขัน และคนจำนวนแสน ที่ติดตามพระศรีอาริย์ฯ ต้องการเป็นสาวกของท่าน ก็มาเกิดสมัยนี้เป็นแสน ทั้งพระศรีอาริย์ฯ ก็ฝากเธอไว้ว่า ให้ช่วยแนะนำให้เข้าใจตามเกณฑ์ที่เขาเหล่านั้นจะเกิดทันท่าน
ในขณะนั้น ท่านเรียกพระศรีอาริย์ฯมา พระศรีอาริย์ฯท่านมีความต้องการ ให้คนที่มีความต้องการที่จะเกิดในสมัยท่าน ได้ฟังเทศน์จบเดียวก็เป็นพระอรหันต์
พระศรีอาริย์ฯท่านตรัสว่า คนที่ต้องการไปเกิดในสมัยผม ขอให้ปฏิบัติตามนี้ คือ
(๑) ตั้งใจรักษาศีล ๕ และกรรมบถ ๑๐ ให้ครบถ้วนเสมอ ถ้ารักษาครบทุกวันไม่ได้ วันอื่นอาจจะบกพร่องบ้าง ก็ไม่เป็นไร แต่ทุกวันพระ ต้องรักษาให้ครบทั้ง ศีล ๕ และกรรมบถ ๑๐
(๒) จงหมั่นให้ทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ สังฆทาน ถ้าจนมาก ทรัพย์มีน้อย ก็จัดหาอาหาร หรือผลไม้ ผล ๒ ผล ถวายพระที่มีตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ก็เป็นสังฆทาน มีอานิสงส์มาก
(๓) จงเจริญภาวนาเสมอ ๆ ถ้าทำไม่ได้มาก เมื่อศีรษะถึงหมอน ก็ให้ภาวนาเล็กน้อยแล้วหลับไป
เพียงเท่านี้ เขาจะเกิดในสมัยผมตรัสเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน
ถามท่านว่า จะให้หล่อรูปแบบไหน เป็นรูปพระ หรือเทวดา ท่านบอกว่า เวลานี้ผมเป็นเทวดา ก็หล่อรูปเทวดา อย่าเพิ่งหล่อรูปเป็นพระ
ถามท่านว่า ให้หล่อแบบไหน ท่านก็ยืนตรง มือขวาถือกงจักร มือซ้ายถือพระขรรค์ ใส่ชฎา
ปัญหามีอยู่ว่า ผิวท่านขาวมาก เหมือนพ่นด้วยสีเงิน และเครื่องแต่งกายท่านเป็นแก้วจะให้ทำอย่างไร ถ้าเอาแก้วติดเหมือนกันจะดูไม่ตรงตามความเป็นจริง เพราะเนื้อท่านไม่เป็นแก้ว ท่านบอกว่า ตอนที่เป็นเนื้อ ให้เอาเเผ่นเงินปิด ตอนที่เป็นเครื่องเเต่งกาย ให้ใช้กระจกเงาใส
เรื่องรูปผ่านไป
ต่อมาก็ถามความหมายกับสมเด็จองค์ปฐมว่า
ทำไมจึงต้องหล่อรูปพระศรีอาริย์ฯ มีความสำคัญอย่างไร สมเด็จองค์ปฐมท่านตรัสว่า เป็นอนุสติ คนจะได้จับรูปนี้เป็นนิมิต และความมั่นใจที่พระศรีอาริย์ฯแนะนำให้ปฏิบัติก็จะมีมากขึ้น จะเป็นการช่วยให้เขาเหล่านั้นไม่ตกนรก และเกิดทันสมัยท่าน
ที่มา
พระราชพรหมยาน
๑๗ มีนาคม ๒๕๓๕
(จากธัมมวิโมกข์ ปีที่ ๑๓ ฉบับที่ ๑๓๖ หน้า ๑๐-๑๑ เดือนมิถุนายน ๒๕๓๕)
💻 โดยคณะสีลม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น