14 มิถุนายน 2564

มโนมยิทธิ ฤทธิ์ทางใจ

มโนมยิทธิได้จากเจ้าคุณอริยฯ...ท่านก็เคยให้พวกเรานั่งไปดูนรก ดูสวรรค์เหมือนกัน แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้..ใช้ภาวนา

การภาวนาหรือนั่งสมาธิไปดูนรกไปดูสวรรค์นั้น ตามตำรับของไสยศาสตร์มันมีแบบมีแผนให้ศึกษากัน ซึ่งมีหลักฐานปรากฏอยู่ในหนังสือ “กรรมฐานสิบสองยุค” ของเจ้าคุณพระเทพญาณวิศิษฐ์ (ใจ ยโสธโร) รวบรวมไว้ที่วัดบรมนิวาส (กรุงเทพฯ) มันมีคาถาบทหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าคาถาพระเจ้าเปิดโลก คาถาพระเจ้าเปิดโลกนี้ ตอนที่ ๒ หลวงพ่อจำได้ว่า ข้อความว่า

พุทฺโธ ทีปงฺกโร โลกทีปํ วิโสธยิ

ธมฺโม ทีปงฺกโร โลกทีปํ วิโสธยิ

สงฺโฆ ทีปงฺกโร โลกทีปํ วิโสธยิฯ

เมื่อว่าคาถานี้จบแล้ว ก็อธิษฐานในจิตในใจว่า

พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า เป็นดวงประทีปส่องโลก ขอโปรดส่องทางนรกทางสวรรค์ให้ข้าพเจ้าเห็นจริงแจ่มแจ้งในกาลบัดนี้ด้วยเถิด

พอเสร็จแล้วผู้บริกรรมภาวนา ถ้าจะไปดูนรก ก็นึกในใจว่า “นรก ๆ ๆ ๆ ๆ”

ถ้าจะไปสวรรค์ก็ “สวรรค์ ๆ ๆ ๆ ๆ”

#ทีนี้พอจิตมันสงบเป็นอุปจารสมาธิเกิดสว่างขึ้น
#ผู้ภาวนาจะมีอาการสั่นเหมือนกับผีสิง
#พอเสร็จแล้วสภาพจิตของผู้นั้นจะแสดงอาการไปดูนรกไปดูสวรรค์ตามที่ต้องการตามแบบแผนตำรับตำราที่กล่าวไว้

ที่จำได้อันนี้ ได้เคยทดสอบพิจารณาดูแล้ว เมื่อใครก็ตาม ได้มานั่งภาวนาตามคาถาบทที่กล่าวมานี้ ไปเห็นนรกเห็นสวรรค์ได้แล้ว

#สามารถที่จะเชิญวิญญาณต่างๆเข้ามาทรงภายในตัวเองก็ได้

สามารถที่จะเชิญวิญญาณปู่ย่าตายาย หรือ ครูบาอาจารย์ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้เข้ามาสิง แล้วก็สนทนากับผู้ที่นั่งฟัง หรือผู้ที่ควบคุมการแสดงอยู่ อยากจะรู้ว่า คนตายแล้วไปเกิดที่ไหน ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์อย่างไรก็ได้

ผู้นั่งสมาธิดูนรกดูสวรรค์นั้น สามารถที่จะนำชาวสวรรค์ชาวนรกมาคุยกับเราก็ได้ อันนี้เป็นวิธีอันหนึ่งสำหรับวิธีการภาวนา ไปดูนรก ไปดูสวรรค์ แต่มันจะจริงแน่นอนหรืออาจเกิดจากความจำก็ได้

และอีกนัยหนึ่ง เขาใช้วิธีการที่เรียกว่า ปลุกพระ จะเอาพระเครื่องรางของขลัง เป็นพระเป็นเหรียญเป็นอะไรก็ตาม มากำไว้โนมือ แล้วก็บริกรรมภาวนาว่า นะ มะ พะ ทะ จนกระทั่งมีอาการสั่นขึ้น ในเมื่อมีอาการสั่นขึ้นแล้ว จะให้ไปเชิญวิญญาณที่ไหน ๆ ให้มาทรงก็ย่อมเป็นได้ แต่วิญญาณที่มาทรงนั้น เท็จจริงอย่างไรก็ไม่กล้ายืนยัน ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ บางทีสามารถเชิญกระทั่งวิญญาณของพระอรหันตพระพุทธเจ้ามาทรงก็ได้

แต่สำหรับมติของหลวงพ่อนั้น เข้าใจว่า

#ในเมื่อประกอบพิธีเชิญวิญญาณขึ้นมา
#มันก็ต้องมีวิญญาณมาทรง

แต่วิญญาณที่มาทรงนั้น จะใช่บุคคลที่เราเชิญมา
ทรงหรือเปล่า ในเมื่อทำพิธีกรรมแล้ว ต้องมีวิญญาณมาทรงอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้มิใช่ว่าจะเป็นไปได้หมดทุกคน แม้แต่ในสำนักทรงวิญญาณทั้งหลาย ผู้ที่ชำนาญในการเชิญวิญญาณทรง เขาก็มีกันเพียง ๒ คนเท่านั้น ในเมื่อผู้ใดต้องการรู้ต้องการทราบเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องอดีต อนาคต ปัจจุบัน เขาก็ให้คนที่ฝึกเอาไว้นั้นแหละมาทำการทรง

และอีกนัยหนึ่ง การทรงวิญญาณแบบฝรั่ง เขาเรียกว่าใช้วิธีการสะกดจิต คือ เอาเด็กชายตั้งแต่ ๑๐ ขวบ ไม่เกิน ๑๕ ขวบ มาทำการสะกดตามแบบวิธีของเขา ในเมื่อเขาสะกดเด็กให้หลับแล้ว เขาสามารถที่จะใช้เด็กไปดูนรกดูสวรรค์ หรือไปติดต่อกับโลกข้างหน้าได้อย่างสบาย อันนี้ก็เป็นวิธีการอีกอันหนึ่งซึ่งก็แล้วแต่ผู้สะกด

#สมาธิที่ถูกต้อง

 #ไม่เป็นไปเพื่อพอกพูนกิเลส #ไม่เป็นไปเพื่ออิทธิฤทธิ์ 

เรื่องทั้งหลายที่กล่าวมานั้น มิได้เกี่ยวเนื่องด้วยการทำสมาธิภาวนาตามแบบที่ถูกต้องซึ่งเรียกว่า สัมมาสมาธิ

#และขอให้ท่านทั้งหลายพึงเข้าใจว่าการทำสมาธิตั้งแต่ขั้นปฐมฌานถึงขั้นจตุตถฌานนั้น

#มันยังเป็นสมาธิสาธารณะทั่วไปแก่ทุกลัทธิศาสนา และแก่ลัทธิที่มีการปฏิบัติสมาธิโดยทั่ว ๆ ไป

เพราะฉะนั้น สมาธิของพระพุทธศาสนานั้น จึงอาศัยหลักศีลตามขั้นภูมิของแต่ละบุคคลผู้ปฏิบัติอยู่นั้น เป็นหลักตัดสินว่า สมาธิของเขาถูกต้องหรือไม่ อย่างไร

ขอให้ถือคติว่า สมาธิหรือการปฏิบัติธรรมอันใด
ถ้าหากมันเป็นไปเพื่อความอยากใหญ่ เป็นไปเพื่อพอกพูนกิเลส เป็นไปเพื่ออิทธิฤทธิ์ เป็นไปเพื่อการกระทำอะไรแปลก ๆ ต่าง ๆ

#เช่นอย่างการเป็นหมอดูด้วยสมาธิเป็นต้น

พึงเข้าใจเถิดว่า

 #มันเป็นมิจฉาสมาธิซึ่งออกนอกหลักพระพุทธศาสนา.

หลวงพ่อพุธ​ ฐานิโย

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...