"พุทโธ"
บทว่า พุทฺโธ ตปติ ความว่า พระสัพพัญญูพุทธเจ้าย่อมไพโรจน์.
ได้ยินว่า นี้เป็นมงคลคาถาทั้งหมด.
เล่ากันว่า พระเจ้าภาติกราชให้ทำการบูชาอย่างหนึ่งแล้ว ตรัสกะผู้เป็นอาจารย์ว่า ขอท่านจงบอกชัยมงคลอย่างหนึ่งที่ไม่พ้นจากพระรัตนตรัย.
...................................................................
ขอเดชะ ชื่อว่าพระพุทธรัตนะได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศของข้าพระองค์. พอพระราชาทรงสดับว่า พุทโธ ปีติเกิดแผ่ไปทั่วพระวรกายของพระราชา. ลำดับนั้น พระราชาจึงตรัสว่า พ่อทั้งหลาย ท่านจงกล่าวว่า พุทโธ เถิด. พระราชารับสั่งให้พวกพ่อค้ากล่าวขึ้น ๓ ครั้ง อย่างนี้ว่า ขอเดชะ ข้าพระองค์ทั้งหลายกล่าวว่าพุทโธ ดังนี้ จึงตรัสว่า บทว่า พุทฺโธ มีคุณหาประมาณมิได้ ใครๆ ไม่อาจทำปริมาณแห่งบทว่า พุทโธ นั้นได้จึงเลื่อมใสในพระพุทธเจ้านั้นนั่นแล. แล้วได้ประทานทรัพย์แสนหนึ่งแล้ว ตรัสถามอีกว่า ศาสนาอื่นมีไหม.
พ. มี พระเจ้าข้า คือชื่อธรรมรัตนะเกิดขึ้นแล้ว.
พระราชาทรงสดับแม้ดังนั้นแล้ว จึงทรงรับปฏิญญาถึง ๓ ครั้งเหมือนอย่างนั้น แล้วพระราชทานทรัพย์แสนหนึ่งอีก ตรัสถามอีกว่า ศาสนาอะไรอื่นมีไหม.
พ. มี พระเจ้าข้า คือพระสังฆรัตนะเกิดขึ้นแล้ว.
พระราชาทรงสดับดังนั้นแล้ว จึงรับปฏิญญา ๓ ครั้งเหมือนอย่างนั้น พระราชทานทรัพย์แสนหนึ่งอีก ทรงลิขิตความที่พระราชทานทรัพย์ไว้ในพระราชสาสน์แล้วส่งไปด้วยพระดำรัสสั่งว่า พ่อทั้งหลาย พวกท่านจงไปสำนักของพระเทวี. เมื่อพวกพ่อค้าเหล่านั้นไปแล้ว ท้าวเธอได้ตรัสถามอำมาตย์ทั้งหลายว่า พ่อทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้ว พวกท่านจักกระทำอะไร.
อำมาตย์ทั้งหลายกราบทูลว่า พระเจ้า พระองค์ประสงค์จะทำอะไร.
ร. เราจักบวช.
อ. แม้พวกข้าพระองค์ก็จักบวช.
เขาเหล่านั้นทั้งหมดไม่เยื่อใยเรือนหรือขุมทรัพย์ จึงพากันออกบวชพร้อมด้วยเหล่าม้าที่มีคนขี่ขับไป.
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
บทว่า พุทฺโธ ตปติ ความว่า พระสัพพัญญูพุทธเจ้าย่อมไพโรจน์.
ได้ยินว่า นี้เป็นมงคลคาถาทั้งหมด.
เล่ากันว่า พระเจ้าภาติกราชให้ทำการบูชาอย่างหนึ่งแล้ว ตรัสกะผู้เป็นอาจารย์ว่า ขอท่านจงบอกชัยมงคลอย่างหนึ่งที่ไม่พ้นจากพระรัตนตรัย.
ผู้เป็นอาจารย์พิจารณาถึงพระพุทธพจน์คือพระไตรปิฏก เมื่อจะกล่าวมงคลคาถานี้ กล่าวว่า ทิวา ตปติ อาทิจฺโจ พระอาทิตย์สว่างในกลางวัน ดังนี้แล้ว ประคองอัญชลีแก่พระอาทิตย์ที่ตกไปอยู่ กล่าวว่า รตฺติมาภาติ จนฺทิมา พระจันทร์ที่สว่างในกลางคืน ดังนี้แล้วประคองอัญชลีแก่พระจันทร์ที่กำลังขึ้น กล่าวว่า สนฺนทฺโธ ขตฺติโย ตปติ กษัตริย์ทรงสวมเกราะย่อมงามสง่า ดังนี้แล้วประคองอัญชลีแก่พระราชา กล่าวว่า ฌายี ตปติ พฺราหฺมโณ พราหมณ์ผู้เพ่งฌานย่อมรุ่งเรือง ดังนี้แล้วประคองอัญชลีแก่ภิกษุสงฆ์ กล่าวว่า พุทฺโธ ตปติ เตชสา พระพุทธเจ้าย่อมรุ่งเรืองด้วยเดช ดังนี้แล้วประคองอัญชลีแก่มหาเจดีย์.
ลำดับนั้น พระราชาตรัสกะท่านผู้เป็นอาจารย์ว่า ท่านอย่าลดมือลง แล้วทรงมอบทรัพย์พันหนึ่งไว้ในมือที่ยกขึ้นนั่นแล.
จบอรรถกถากัปปินสูตรที่ ๑๑
http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=16&A=7475&Z=7496
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น