ในเวลาที่เรานั่งสมาธิ เดินจงกรมเท่านั้น
แต่ธรรมะ ก็คือ วิถีชีวิตของเราต่างหาก”
ถ้าเวลาเรานั่งสมาธิ ใจสงบ ใจสบาย
แต่ในระหว่างวัน เราไปเบียดเบียน
เราโมโหโทสันต่าง ๆ
ยังห่างไกล...
จากความเป็นธรรมชาติมากทีเดียว
ปฏิบัติแล้วมันต้องกลมกลืนกันไป
จนกลายเป็นปกติ กลายเป็นวิถีชีวิตของเรา
• มีจิตใจที่อ่อนโยน
• ละความสุดโต่ง มีความเป็นปกติ ความเป็นธรรมดา
• เข้าใจเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
• อยู่กับปัจจุบันธรรมได้ต่อเนื่อง
สิ่งเหล่านี้เอาไปฝึกฝนอบรม
จนมันกลายเป็นวิถีชีวิต
เป็นปกติโดยธรรมชาติ
แล้วมันจะเย็นได้...วางได้ลง
เวลาเราประสบปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ
มันจะคลี่คลายลงได้
อย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมที่แท้
ไม่ได้อยู่ในช่วงที่เราปฏิบัติในรูปแบบเท่านั้น
แต่คือสิ่งที่จะกลมกลืนกันไป
ในวิถีชีวิตของเรานั่นเอง
ใช้ชีวิตยังไง...
ที่มันร่มเย็น ที่ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
ที่มันมีชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง
สิ่งเหล่านี้เพาะบ่มฝึกฝนได้
ก็เอา #ธรรม7ประการ
ไปฝึกฝนอบรมตนเองอยู่เนือง ๆ
แล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
ได้ด้วยตัวเองนั่นเองนะ
#ข้อแรก ก็คือ ความอ่อนโยน
#ข้อสอง ก็คือ ทางสายกลาง
#ข้อสาม ก็คือ การละกาย วางความคิดลง
#ข้อสี่ ก็คือ การอยู่กับปัจจุบันธรรมให้ต่อเนื่องกันไป
#ข้อห้า ก็คือ ความกลมเกลียว เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
#ข้อหก ก็คือ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อทุกสรรพสิ่ง
#ข้อเจ็ด ก็คือ การโอบอุ้ม ปล่อยให้ผู้มีหน้าที่ได้ทำกิจของตน
ให้การโอบอุ้มประคับประคองซึ่งกันและกันนั่นเอง
.
ธรรมบรรยาย โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
29 มกราคม, 1 กุมภาพันธ์ 2565
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น