คล้ายการตะล่อมให้จิตเราสงบลงมากหรือน้อย #ขึ้นอยู่กับตัวผู้สวดว่ามีสมาธิตั้งมั่นมากน้อยเพียงใด 
ถ้าเราสวดมนต์ได้ ไม่ผิดเพี้ยน #แสดงว่าเราเองต้องมีสมาธิในระดับนึง 
เพราะถ้าเราขาดสมาธิ เราอาจจะสวดได้แบบผิดๆถูกๆ 
🟢 และถ้าจิตมีความตั้งมั่นในการสวด #อาจจะสามารถเข้าสมาธิลึกได้ในระดับฌาน จิตเป็นเนื้อเดียวกับคำสวดมนต์
ในความหมายของบทสวด
โดยมาก...จะเป็นการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย เวลาที่เราสวดมนต์ 
ถ้าเป็นไปได้..
🟢 #ขณะที่เราสวดมนต์ 
#ให้ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้า หรือพระพุทธรูป ที่เราชอบ เคารพนับถือ จะเป็นปางใดหรือองค์ได้ก็ได้ 
🟢 นึกถึงดอกบัวแก้วใส หรือ ดอกบัวสีขาวที่ไหลออกมาจากพระโอษฐ์ มากระทบที่กายของเรา ถ้าเราไม่ถนัดให้นึกถึงท่านเป็นปกติธรรมดาก็ได้
ธรรมทั้งหลายที่เราสดับรับฟังมานั้น #ย่อมเป็นความรู้จากพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น #ท่านถือเป็นครูของเรา ที่สอนในเรื่องบุญบาป กฏแห่งกรรม ทาน ศีล ภาวนา ทางแห่งการพ้นทุกข์ และอื่นๆอีกมากมาย
ไม่ว่าในหัวเราจะมีเรื่องทางโลกที่สับสนวุ่นวายเพียงใด 
#ให้เราวางลงเสีย ตอนนี้เรามีหน้าที่นึกถึงท่าน และสวดมนต์ไปด้วย
🟢 #บ้านใดที่ชอบสวดมนต์อยู่เป็นประจำ 
เทพพรหมเทวดา ท่านจะรับรู้ และจะมาร่วมสวดกับเรา 
หรือมาร่วมโมทนากับเราอยู่เสมอๆ
#ผิดกับบ้านที่มีแต่ความเร่าร้อนหาธรรมะใดๆ ได้ยาก เทพเทวดาย่อมหลีกหนีออก เพราะ ท่านก็เสมือนเราๆที่อยากจะไปในที่ๆดีๆ ที่ๆพาให้เราเป็นสุขเช่นกัน
ทีนี้เมื่อเราสวดมากเข้า บุญญาบารมีของเราก็เพิ่มพูนเป็นทวีคูณ
#ท่านก็อาจจะมาคุ้มครองรักษาเรา ให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากอันตรายทั้งปวงด้วยผลแห่งความดีที่เราได้ทำไว้
สิ่งที่เราจะได้รับ...เมื่อเราสวดเป็นประจำ #คือเราสามารถคลายความทุกข์ในชีวิตเราได้ มีสติมากขึ้น จิตใจผ่องใส 
เพราะเสียงที่เราสวดมานั้น ควบรวมไปกับพระพุทธองค์อยู่ตลอดเวลา 
#บุญบารมีนี้ถือว่าสูงมากเพราะเป็น #พุทธานุสสติกรรมฐาน ไปในตัว 
จนที่สุดแล้ว ผลบุญที่เรากระทำมีมากพอรวมตัวส่งผล บุญดีๆจากในอดีตชาติ และปัจจุบันนั้นเชื่อมต่อกัน ส่งผลให้เราพ้นจากภัยทั้งปวง ประสบพบแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป
ที่มา
วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๗.๐๔ น. :- การบรรยายธรรมจากการกราบสมเด็จองค์ปฐมในสมาธิ
บันทึกธรรมโดย ธรรมรัตน์
 
   
 
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น