ขอให้จำไว้นะว่าพวกเราเป็นตัวละคร ร่างกายนี้เป็นเหมือนหุ่นที่เรามาใช้เล่นละครกัน หรืออย่างที่เขาเล่นโขนนั่น ร่างกายเรานี้ก็เป็นเหมือนหัวโขน เอามาสวมใส่ทับใจเราอีกทีหนึ่ง ตัวแท้จริงของเราคือใจ ทีนี้ใจเราไม่มีรูปร่างหน้าตา ก็เลยต้องเอาหัวโขนคือร่างกายนี้มาครอบมาคลุมไว้ จะได้รู้ว่านี่เป็นทศกัณฐ์ หรือจะเป็นหนุมาน เป็นพระราม ก็ร่างกายนี้แหละเป็นตัวละคร ใจเรานี้เป็นตัวชักร่างกายเหมือนกับชักหุ่น เป็นผู้ที่สั่งให้ร่างกายนี้ทำอะไรต่างๆ แล้วพอร่างกายนี้ตายไป เราก็ใช้ร่างกายนี้ไม่ได้ ก็แสดงว่าบทของเราจบ ละครเรื่องนี้จบ แต่เราก็ไม่เบื่อ ไปเล่นโรงใหม่ต่อ ย้ายโรง เดี๋ยวก็ไปเกิดใหม่ แล้วก็ไปเริ่มใหม่ แล้วก็ไปวุ่นวายแบบนี้แหละ เล่นมาไม่รู้กี่ล้านโรงแล้วไม่รู้กี่ล้านเรื่องแล้ว ละครชีวิตของพวกเรานี่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่เรียกว่าเวียนว่ายตายเกิด ก็เวียนว่ายตายเกิดตามโรงละครต่างๆ ตามโลกต่างๆ โลกอาจจะไม่เป็นโลกกลมๆ แบบนี้ก็ได้ โลกกลมๆ ใบอื่นก็น่าจะมีในจักรวาลนี้ เราอาจจะมาจากโลกอื่นก็ได้ อาจจะมาจากโลกที่เจริญกว่าโลกเราก็ได้ หรือล้าหลังกว่าโลกเราก็ได้ แต่ว่ามันก็เหมือนกัน เพราะว่าไปโลกไหนก็เจอตัวละครเหมือนกัน ตัวรักตัวชังเหมือนกัน แล้วก็ไปรักไปชัง ไปกลัวไปหลงกับเขา แล้วก็ดีใจเสียใจไปกับสิ่งที่เราได้ไปสัมผัสรับรู้กัน เล่นละครไปตามบทตามผู้กำกับสั่งให้เล่น
เห็นไหมพอเขาตั้งเราเป็น ผอ. ทีนี้เราก็คิดว่าเราเป็น ผอ. จริงๆ ใช่ไหม พอตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ก็คิดว่าเป็นเจ้าอาวาสขึ้นมาจริงๆ เลยเล่นบทเต็มที่เลย แล้วเดี๋ยวเวลาเขาปลดปั๊บ หน้าก็จ๋อยละสิ เราไม่ได้เป็นเสียแล้ว ก็เวลาเขาตั้งเรา ต้องคอยบอกเราว่าเราไม่ได้เป็น เขาตั้งก็ปล่อยเขาตั้งไป เขาให้เราทำอะไรเราก็ทำไปตามหน้าที่ ทำเพื่อเงินเดือนก็พอ ทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่อย่าไปหลงกับตำแหน่งว่าเราเป็นโน่นเป็นนี่ เราทำเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ทำตามหน้าที่ ตามเนื้อผ้าไป แล้วก็คอยเตือนว่าเดี๋ยวสักวันหนึ่งเขาก็ต้องปลดเรา ไม่ปลดก็โยกย้าย ไม่โยกย้ายก็เลื่อนตำแหน่ง มันก็มีแค่นี้แหละชีวิต มันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ขึ้นๆ ลงๆ ถ้าไม่ยึดไม่ติด ถ้ารู้ว่าเป็นบทละคร มันก็เล่นไปอย่างสบาย ไม่ซีเรียส ไม่เครียดกับมัน แต่เราไม่สบายเพราะเวลาเราชอบอะไร เราก็อยากได้ อยากให้มันอยู่กับเรานานๆ แล้วเวลาที่มันไม่อยู่กับเรา เราก็เสียอกเสียใจ แล้วบางทีก็พยายามวิ่งเต้นกัน ต่อสู้กันเพื่อรักษาสิ่งที่เรารักสิ่งที่เราชอบให้อยู่กับเราไปนานๆ ก็เลยทุกข์กันไง ที่มันทุกข์ก็ทุกข์เพราะอย่างนี้ ทุกข์เพราะว่าเราต้องดิ้นรนกัน ต่อสู้กันทั้งๆ ที่เป็นของปลอมทั้งนั้น เป็นละคร เป็นของโลกละคร ไม่ใช่เป็นของเราอย่างแท้จริง
ที่มา
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น