18 เมษายน 2566

ขั้นตอนการปฏิบัติเข้าสู่ทางนิพพาน

1) ให้ตั้งสัจจะบารมีว่า เราจะรักษาศีล 5 ให้เป็นปกติทุก ๆ วัน นับต่อจากนี้ - ศีลบารมี ศีล จะเป็นตัวควบคุมกาย และ วาจาของเรา

2) สร้างสมาธิบารมี โดยการปฏิบัติกรรมฐานทุกวัน สมาธิ จะเป็นตัวควบคุมจิต และใจของเราจากกิเลสต่าง ๆ ถ้าสมาธิดี สติจะเกิด และมีกําลังมากขึ้น ปัญญาจะเกิดตามมา เมื่อกิเลสมากระทบ ก็จะเห็นสัจธรรมของไตรลักษณ์ ทุกสิ่งมีเกิด ตั้งอยู่และดับไป ไม่มีสิ่งใดอยู่คงทนถาวร แล้วสติจะทําให้จิตเราปล่อยวางจากกิเลสต่าง ๆ ที่มากระทบได้เอง จิตก็เข้าสู่ภาวะอุเบกขา เข้าสู่ความสงบต่อไป

ใช้สติ ให้เห็นอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจิตของเรา กรรมฐานที่ใช้เจริญสติ : สติปัฏฐาน 4, กาย 32, มรณานุสติ

~ ขั้นตอนการปฏิบัติเข้าสู่ทางนิพพาน

1. แยกกาย จิต เวทนา ว่ามันเป็นคนละส่วนกัน

2. ใช้จิตพิจารณากายในกายบ่อย ๆ จะสามารถปล่อยวางจิตจากกายหยาบที่ยึดมั่นอยู่ได้

3. สติพิจารณาเห็นกายเป็นขันธ์ 5 มีการแตกดับ เห็นจิตไม่ใช่กาย และกายไม่ใช่จิต แยกกันชัดเจน จะเข้าสู่ขั้นโสดาบัน

4. สติมีกําลังมากขึ้น และละเอียดขึ้น ถ้ายังคงรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์และคงสมาธิไว้ได้ดี จะสามารถเข้าสู่ระดับ พระสกิทาคามีผล
- ละความโลภ ด้วยการปล่อยวางได้
- ละความโกรธด้วยจิตที่มีเมตตากรุณาได้
- ละจากกามได้ ด้วยการปฏิบัติอศุภกรรมฐาน
พิจารณากายในกาย เป็นของไม่สวยงาม เพื่อละจากกามได้ (พิจารณากายในกาม)

5. เริ่มรักษาศีล 8 เพื่อเพิ่มกําลังสติให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ความโลภ โกรธ ความไม่พอใจ จะถูกละจากจิตได้ง่ายขึ้น สติคงตัว เห็นกิเลสเกิดขึ้นและดับลงได้เร็วขึ้น

6. สติ จะไปพิจารณากายในกายที่ละเอียดมากขึ้น ปฏิบัติกรรมฐาน อสุภกรรมฐาน ธาตุกรรมฐาน เพื่อให้จิตเข้าสู่ความว่างบ่อย ๆ ขึ้น จิตจะเห็นกายในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตว่ามันไม่เที่ยง ทั้งของตนเอง ผู้อื่นและทุกสิ่งในโลกนี้เข้าสู่ พระอนาคามีผล จะดับความโลภ โกรธ กาม สิ้นออกจากใจได้

7. จิตจะเดินทางเข้าสู่ความเงียบ ความสุขเกิดขึ้น แต่จิตจะไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด ๆ จิตเริ่มปล่อยวางจากกายของตนเอง กายของผู้อื่นและวัตถุต่าง ๆ ในโลกนี้

แต่จิตยังมีความหลงในจิตปัจจุบันว่าเป็นตัวจิตอยู่ เป็นอวิชชาในส่วนที่ละเอียด

คือ จิตเป็นกิเลสทั้งก้อนเลย จิตกับอวิชชาเป็นสิ่งเดียวกัน แยกกันไม่ได้เลย เป็นจิตสะอาด แต่ไม่บริสุทธิ์

8. ต้องแยกกาย และจิตออกจากเวทนา สังขาร วิญญาณ สัญญา (ขันธ์ 5) ด้วยสติที่ละเอียดมาก ๆ ขึ้นเท่านั้น สติที่ละเอียดถึงจะทําลายอวิชชาที่ละเอียดออกได้

9. จิตเข้าสู่ภาวะธรรมธาตุ สะอาด และ บริสุทธิ์ แยกจิตจาก ขันธ์ 5 ได้ว่าจิตนี้ไม่มีรูป ไม่มีเวทนา ไม่มีสังขาร ไม่มี สัญญา ไม่มีวิญญาณ สติอัตโนมัติ จะทำลายกิเลสเองทั้งหมดโดยสิ้นเชิง เข้าใจอริยสัจ 4 แท้จริง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค จึงจะเข้าสู้ภาวะนิพพานในที่สุด

หลวงพ่ออัครเดช(ตั๋น) ถิรจิตโต
วัดบุญญาวาส อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
๒๖ มีนาคม ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...