🏵️เถรวาท-มหายาน-วัชรยาน : 3 นิกายในพระพุทธศาสนา 🙏จุดหมายร่วมกันคือพระนิพพาน🙏
☀️ปัจจุบัน ชาวโลกที่มีพื้นฐานความเข้าใจเรื่องศาสนาแตกต่างหลากหลาย ทั้งที่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งอยู่แล้ว และไม่นับถือศาสนาใดๆ เลย ทั้งชาวศาสนิกชนต่างๆ ที่ไม่ใช่ชาวพุทธ ชาวพุทธก็มีทั้งพุทธแท้และพุทธทิพย์ รวมทั้งผู้สนใจที่ประสงค์จะทราบว่า พุทธที่เป็นพุทธแท้จริงของแท้ดั้งเดิมสมัยพุทธองค์นั้นเป็นอย่างไร แล้วนิกายต่างๆ สมัยนี้แตกต่างกันอย่างไร ?
ในยุคสมัยพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์ล้วนปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด หากมีกรณีพระภิกษุรูปใดที่ประพฤติผิดแผกแตกต่างหรือละเมิดพระธรรมวินัยหรือมีกรณีพิพาทเกิดขึ้นคณะสงฆ์จะทูลขอคำวินิจฉัยจากพระพุทธองค์
ภายหลังพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานล่วงได้ 3 เดือน มีการจัดสังคายนาขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีพระมหากัสสปะเป็นองค์ประธาน พร้อมพระอรหันต์อื่นอีก 500 รูป ได้ตกลงเป็นฉันทามติ ให้พระสงฆ์รักษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติตามสิกขาบททุกข้อไว้ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง โดยไม่มีการเพิ่มถอนใดๆ นอกเหนือจากที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้ทั้งสิ้น
การสังคายนาครั้งที่ 2 ราวพุทธศตวรรษ 100 เริ่มมีคณะสงฆ์บางกลุ่มที่ไม่ยอมรับมติของพระมหาเถระครั้งปฐมสังคายนาครั้งแรก หรือมีความเห็นทางธรรมวินัยแตกต่างจากคณะสงฆ์ดั้งเดิม จึงเริ่มคิดต่างแตกออกมาเป็นนิกายต่างๆ ที่มีการรวบรวมได้ทั้งหมด 18 นิกาย จนถึงปัจจุบันที่มีการยอมรับในวงกว้างมีอยู่ 3 นิกายใหญ่
นิกายใหญ่ มี 3 นิกาย ได้แก่
1. นิกายเถรวาท หรือสมัยก่อนเรียก"หินยาน"
2. นิกายมหายาน หรือสมัยก่อนเรียก "อาจาริยวาท"
3. นิกายวัชรยาน หรือบางท่านเรียกว่า "ตันตรยาน"
☀️1. นิกายเถรวาท (Theravada Buddhism)
หลังการเกิดแตกสาขานิกายไปจากสายดั้งเดิมครั้งพุทธกาล พระสงฆ์ที่ยึดถือแนวทางเดิมนี้โดยบริบูรณ์ จึงถูกเรียกว่าปฏิบัติตามแนวของเถรวาท หรือนิกายใน “วงศ์แห่งพระเถระ”
นิกายเถรวาท ได้รับการยอมรับจากพุทธศาสนิกชนทุกนิกายว่าเป็นนิกายที่รักษาพระธรรมวินัย ไว้อย่างเคร่งครัด สมบูรณ์ที่สุด จัดเป็นพระพุทธศาสนาแนวหลักแท้จริงดั้งเดิมตามพุทธกาล ที่นิกายอื่นแยกออกไป
สาระสำคัญของนิกายเถรวาท นอกเหนือจากการปฏิบัติตามธรรมวินัยเดิมแล้ว ยังยึดถือตามคัมภีร์พระไตรปิฏกบาลี มุ่งสู่พระนิพพานการเป็นพระอรหันต์ เพื่อหลุดพ้นจากสังสารวัฏ (วัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิด)
ประเทศที่นับถือได้แก่ ประเทศในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ไทย ศรีลังกา พม่า ลาว กัมพูชา ส่วนที่นับถือเป็นส่วนน้อยพบทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม (โดยเฉพาะกลุ่มเชื้อสายเขมร), บังกลาเทศ (ในกลุ่มชนเผ่าจักมา และคนในสกุลพารัว) และทางตอนบนของมาเลเซีย (ในหมู่ผู้มีเชื้อสายไทย)
สำหรับประเทศไทยนั้น ยังแบ่งได้อีก 2 นิกายย่อย คือ
– มหานิกาย คือคณะสงฆ์องค์คณะใหญ่ของเถรวาทดั้งเดิม
– ธรรมยุติกนิกาย คือคณะสงฆ์ไทยสายธรรมยุติ ถือกำเนิดขึ้นปี พ.ศ.2365 รัชกาลที่ 4 ทรงให้ตั้งขึ้น
☀️2. นิกายมหายาน (Mahayana Buddhism)
มหายาน มีความหมายว่า ยานพาหนะขนาดใหญ่ที่นำพาสรรพสัตว์ข้ามพ้นห้วงน้ำแห่งการเวียนว่ายตายเกิด นิกายมหายาน มีสาระสำคัญต่างจากสายดั้งเดิมที่ ยึดถือทำตามแนวทางพระโพธิสัตว์ ที่ปรารถนามุ่งสู่การเป็นพระพุทธเจ้า ที่เชื่อว่าสามารถช่วยเหลือสัตว์โลกได้มากกว่านิกายเถรวาทหรือหินยาน ซึ่งมีความหมายว่า ยานพาหนะขนาดเล็ก ที่มุ่งให้บรรุลธรรมเพื่อการเป็นพระอรหันต์
มหายาน จึงเชื่อว่ามีพระพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์ ทั้งที่มีปรากฏนามในพระคัมภีร์เถรวาท และที่สร้างขึ้นตามคติของตนในภายหลัง นอกจากนี้ยังมีพระโพธิสัตว์ พระอัครสาวกอีกมากมายเช่นกัน
พระสงฆ์ในสายมหายาน เป็นรูปแบบคณะสงฆ์ ที่ได้ปรับตามกาลเวลาและลักษณะของแต่ละประเทศ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น นอกเหนือจากประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยแล้ว หากเห็นว่าพระวินัยข้อใดไม่เหมาะแล้วกับกาลก็เพิกถอนได้ เราจึงเห็น พระมีวิทยายุทธ พระมีบทบาททางการเมืองในประเทศที่นับถือมหายานได้
ประเทศที่นับถือได้แก่ จีน เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวันเกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ พบเป็นประชาชนส่วนน้อยในประเทศเนปาล (ซึ่งอาจพบว่านับถือร่วมกับศาสนาอื่นด้วย) ทั้งยังพบในประเทศอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน และฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่มีเชื้อสายจีน
สำหรับในประเทศไทย เมื่อมีชาวจีน และเวียดนามเข้ามาติดต่อสัมพันธ์กันมากเรื่อยมาแต่ครั้งอดีต จึงมีนิกายมหายานในประเทศไทย แยกได้อีก 2 นิกายย่อย คือ
– จีนนิกาย คือคณะสงฆ์มหานิกายแบบจีน
– อานัมนิกาย คือคณะสงฆ์มหานิกายแบบเวียดนาม(ปัจจุบันอาจจะเรียกได้ว่าเป็นนิกายหนึ่งในพระพุทธศาสนา)
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ใช่ว่าพระสงฆ์เถรวาทจะไม่ช่วยเหลือประชาชนดีเท่ากับพระสงฆ์มหายาน เพียงแต่พระสงฆ์มหายาน ปรับรูปแบบให้เข้าใกล้ฆราวาสหรือญาติโยมมากขึ้น พระวินัยบางข้อที่ไม่เหมาะกับการที่ท่านจะประพฤติ ในการดำรงอยู่ในบางประเทศ ท่านก็เพิกสอนเสีย ดังนั้นพระสงฆ์เถรวาทจึงมีข้อดีมากในส่วนที่ท่านรักษาพระธรรมวินัยตามครั้ง พุทธกาลไว้อย่างบริบูรณ์ที่สุด รักษาคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ให้ผิดเพี้ยน ขาดตกไปตามกาลเวลา ให้เป็นแบบบรรทัดฐานการศึกษาแก่นแท้พุทธศาสนาเดิมได้ มาถึงในปัจจุบัน
☀️3.พุทธศาสนานิกายวัชรยาน (Vajrayana Buddhism) หรือ ตันตรยาน (Tantric Buddhism)
วัชระในที่นี้หมายถึงเพชร หรือสายฟ้า วัชรยานเรียกอีกอย่างว่าตันตระ วัชรยานเป็นนิกายที่มีความเชื่อซับซ้อนและเชื่อในการปฏิบัติบางอย่างที่จะนำไปสู่การรู้แจ้งหรือการหลุดพ้นได้
วัชรยาน หรือ มันตรยาน หรือ ตันตรยาน ที่สืบทอดขนบความเชื่อและการปฏิบัติแบบตันตระมาจากอินเดียสมัยกลาง วัชรยาน หมายถึง ยานเพชร ซึ่งผู้ศรัทธาในนิกายนี้เชื่อว่าเป็นยานที่ประเสริฐกว่ายานพาหนะใดๆในโลก
พิธีกรรมที่สำคัญของตันตรยานคือการสาธยายมนตร์ที่ลึกลับต่างๆ และมีการปฏิบัติโยคะท่าทางต่าง ๆ พร้อมด้วยการเจริญสมาธิ จุดมุ่งหมายของการปฏิบัติเพื่อบรรลุความหลุดพ้น เชื่อกันว่าในทันทีที่มีความชำนาญได้บรรลุฌานชั้นที่ 1 แล้ว กฏความประพฤติด้านศีลธรรมปกติธรรมดาก็ไม่จำเป็นสำหรับผู้นั้นตลอดไป และเชื่อว่าการฝ่าฝืนโดยเจตนา ถ้าหากทำด้วยความเคารพแล้ว ก็จะทำให้เขาบรรลุธรรมขั้นสูงต่อไป ดังนั้นจึงมักผ่อนผันในเรื่องการเมาสุรา การรับประทานเนื้อสัตว์ และการสับสนในทางประเวณี (จำนงค์ ทองประเสริฐ 2540:197)
พุทธศาสนานิกายตันตระ ถูกนำมารวมเข้าไว้ในการปฏิบัติพิธีรีตองที่เป็นความลับ ครูอาจารย์ในนิกายนี้มักจะเขียนหนังสือที่มีปรัชญาลึกซึ้ง เพราะตันตรยานมีความลึกลับ และมีวิธีการที่พิสดารที่เอง จึงมีผู้ให้คำอธิบายไว้ว่า “ตันตรยาน บางครั้งเรียกว่าลัทธิคุยหยาน ซึ่งแปลว่าลัทธิลับ เป็นนิกายที่มีลักษณะแปลกประหลาดกว่านิกายพุทธศาสนาอื่น ๆ ที่รับเอาพิธีกรรมและอาถรรพเวทของพราหมณ์ เข้ามาสั่งสอนด้วย แต่แก้ไขให้เป็นของพุทธศาสนา เช่น แทนที่จะบูชาพระอิศวรก็บูชาพระพุทธเจ้าแทน เกิดขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 7 (เสถียร โพธินันทะ 2541:172)
พุทธศาสนาแบบวัชรยานแพร่หลายในทิเบต, จีน, ภูฏาน, ญี่ปุ่นและมองโกเลีย และดินแดนในการปกครองรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐตูวา และคัลมืยคียา นอกจากนี้เป็นประชากรส่วนน้อยในดินแดนลาดัก รัฐชัมมูและกัษมีร์ ประเทศอินเดีย, เนปาล, ปากีสถาน (ในเขตบัลติสถาน)
🏵️ พระพุทธศาสนาดำรงคงอยู่คู่โลกมาถึงในวันนี้ที่มีการสืบทอดมรดกธรรมอันทรงคุณค่า ต่อมาจนถึงมีอายุกว่า 3,000 ปี เพราะเรามีผู้พุทธสาวก ทั้งฝ่ายเถรวาท, มหายานและวัชรยาน ผู้ทำหน้าที่สืบสานงานเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระภิกษุสงฆ์ทั้งในอดีตกาล และปัจจุบัน รวมทั้งเหล่าพุทธบริษัท 4 พุทธศาสนิกชนที่เกิดมาสร้างบารมี มุ่งสู่การทำนิพพานให้แจ้ง ให้หลุดพ้นจากทุกข์ จากกิเลสอาสวะ เป็นวัตถุประสงค์ของชีวิต เป็นหน้าที่ที่แท้จริงเกิดมาเพื่อเรียนรู้วิชชาที่จะกำจัดกิเลสอาสวะให้หมดไป ให้ตนเองพึ่งตนเองได้และนำพาสรรพสัตว์พึ่งตนเองอย่างนี้ มีแต่สุขล้วน ๆ
กระทั่งเข้าไปถึงการดับต้นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง กำจัดต้นตอไปถึงต้นเหตุ ตามเส้นทางแห่งอริยสัจ 4 นี้คือการวางเป้าหมายชีวิตได้ถูกต้องสมบูรณ์แบบที่สุดในพระพุทธศาสนา
🔰ที่มา: ประวัติศาสตร์การถือกำเนิดนิกายต่างๆ ในพระพุทธศาสนาและขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากเวบไซต์ศาสนาพุทธทั่วโลก, อาจารย์เสถียร โพธินันทะ, อาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาพระพุทธศาสนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น