01 มิถุนายน 2566

สัมมาคารวะเป็นกรรมดี ผลดีจึงเกิดแก่ผู้ทำ

"อันการแสดงสัมมาคารวะนั้น
แม้จะเหมือนเป็นการยกผู้ได้รับว่าสูง 
และผู้ให้ว่าต่ำ แต่ที่จริงมิได้เป็นเช่นนั้น
ผู้แสดงสัมมาคารวะนั่นเอง
เป็นผู้ประกาศความสูงของตนให้ปรากฏ
แก่ตาผู้รู้ทั้งหลาย ผู้ได้รับมีฐานะอย่างไร
ก็คงอยู่ในฐานะเดิม ไม่อาจสูงขึ้นได้
เพราะสัมมาคารวะที่ได้รับ

การแสดงสัมมาคารวะก็เป็นกรรม
จึงเข้ากฎแห่งกรรม ตามที่พระพุทธเจ้า
ทรงแสดงไว้ คือ ผู้ใดทำ ผู้นั้นย่อมได้รับ
เมื่อสัมมาคารวะเป็นกรรมดี ผลดีจึงเกิดแก่ผู้ทำ

แม้มีความรู้สึกไม่อยากจะแสดง
สัมมาคารวะเมื่อใด ก็ควรนึกถึงความจริงนี้ 
ไม่มีใครไหนอื่น จะได้รับผลดีจากการแสดง
สัมมาคารวะนอกจากเจ้าตัวเองเท่านั้น

ในทางตรงกันข้าม 
ผู้แสดงความก้าวร้าวหยาบคาย 
ไม่มีสัมมาคารวะ ก็ไม่มีใครไหนอื่น
จะต้องกระทบกระเทือน 
นอกจากเจ้าตัวเองเท่านั้น".

พระธรรมคำสอนของ
สมเด็จพระญาณสังวร 
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...