16 มิถุนายน 2566

“สิทธิ” ต้องมากับ “หน้าที่” ฉันใด“เสรีภาพ” ต้องมากับ “ความรับผิดชอบ” ฉันนั้น

“สิทธิ” ต้องมากับ “หน้าที่” ฉันใด
“เสรีภาพ” ต้องมากับ “ความรับผิดชอบ” ฉันนั้น
.
“…. บางทีเราก็มัววุ่นวายกับเรื่องสิทธิและการที่จะมี “เสรีภาพ” กันมากมาย จนชักจะหลงเพลิดเพลินและลืมไปว่า นอกจากเราจะต้องได้ ต้องมี สิทธิและเสรีภาพอย่างนั้น อย่างนี้ รัฐจะต้องรับประกันให้เราได้เรามีอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว ตัวเราเองจะต้องทําอะไร เราจะต้องให้อะไรแก่รัฐ แก่ส่วนรวม แก่สังคม หรือแก่ประเทศชาติบ้าง และนี่ก็คือ เรื่องของ “หน้าที่”
.
…. “ สิทธิ ” นั้นคู่กันกับ “หน้าที่พลเมืองของประเทศ” ประชาธิปไตยนั้น เมื่อมีสิทธิก็มีหน้าที่ด้วย เมื่อได้สิทธิก็ต้องทําหน้าที่ด้วย
สิทธิเป็นเรื่องของการที่จะได้ ที่จะเอา ส่วนหน้าที่เป็นเรื่องของการที่จะให้ ที่จะสละออกไป
…. พลเมืองทุกคนมีหน้าที่ที่จะทําการงาน ศึกษาเล่าเรียน หรือ ประกอบสัมมาชีพของตนๆ มีหน้าที่ที่จะต้องทําต่อครอบครัว ต่อ ชุมชน ต่อสังคม ต่อประเทศชาติของตน มีหน้าที่ที่จะต้องไปร่วมประชุมพิจารณาดําเนินกิจการของส่วนรวม ต้องบํารุงรักษาสิ่ง สาธารณูปโภคและสาธารณสมบัติ ต้องบํารุงรักษาธรรมชาติแวดล้อม ต้องรักษาระเบียบวินัย ต้องเคารพกฎหมายและกฎเกณฑ์ กติกาของสังคม ต้องเสียภาษีอากร เป็นต้น
.
…. เมื่อประชาชนพลเมืองทําหน้าที่ให้แก่สังคมหรือรัฐ ตามสถานะของตนๆ สังคมหรือรัฐประชาธิปไตยที่ดี ก็มีสิ่งที่จะนํามา สนองแก่สิทธิของประชาชนพลเมือง
…. ถ้าประชาชนพลเมืองไม่ช่วยกันทําเหตุ แล้วสังคมหรือรัฐจะเอาผลอะไรมาสนองความต้องการของประชาชนพลเมืองได้
…. ดังนั้น ถ้าจะเรียกร้องหรืออ้างสิทธิ ก็อย่าลืมถามหรือสํารวจตัวเองว่าได้ทําหน้าที่ของตนอยู่ด้วยดีหรือไม่ คือถ้าจะเรียกร้องสิทธิ ก็จะต้องทําหน้าที่ของตนให้ดีด้วย
…. มองในทางย้อนกลับ ผู้ที่ทําหน้าที่ของตนถูกต้องเป็นอย่างดีนั้นแหละ จึงเป็นผู้ที่สมควรจะเรียกร้องหรืออ้างสิทธิ และสิทธิที่ อ้างหรือเรียกร้องนั้น จะต้องนําไปใช้อย่างถูกต้องด้วย
…. ผู้ที่รู้จักหน้าที่ พร้อมทั้งทําหน้าที่ของตนอยู่อย่างถูกต้อง นั่นแหละ คือผู้ที่จะนําสิทธิไปใช้อย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้น สิทธิจะต้องมากับหน้าที่ และสิทธิเป็นสมบัติมีค่าอันน่าภูมิใจสําหรับผู้ที่ทําหน้าที่
…. พลเมืองในสังคมประชาธิปไตยควรสร้างจิตสํานึกในหน้าที่ ถึงขั้นที่ยึดถือว่า สิทธิที่จะได้ทุกอย่าง มีมาพร้อมกับหน้าที่ที่จะต้องทํา ถามตนเองว่าการที่เราจะได้จะมีสิทธินี้นั้น เราจะต้องทําอะไร หรือนึกถึงสิ่งที่ตนจะต้องทําต้องให้มากกว่านึกถึงสิ่งที่ตนจะได้จะเอา…
…. อนึ่ง คําว่าหน้าที่นั้น มักจะพ่วงมาหรือมาด้วยกันกับคําว่า “ความรับผิดชอบ” จนบางทีเราพูดควบไปด้วยกันว่า หน้าที่และ ความรับผิดชอบ หรือ หน้าที่รับผิดชอบ คือนอกจากทําหน้าที่แล้ว ก็จะต้องมีความรับผิดชอบด้วย
…. คําว่าสิทธิมาด้วยกันกับเสรีภาพ คําว่าหน้าที่มาด้วยกันกับความรับผิดชอบ สิทธิคู่กับหน้าที่ ฉันใด เสรีภาพก็คู่กับความรับผิด ชอบ ฉันนั้น และเมื่อเราพูดสองคําแรกควบกันว่า สิทธิเสรีภาพ เราก็พูดสองคําหลังควบกันว่า หน้าที่รับผิดชอบ
…. เพราะฉะนั้น สิทธิ ต้องมากับ หน้าที่ ฉันใด เสรีภาพ ก็ต้องมากับความรับผิดชอบ ฉันนั้น เมื่อเสรีภาพมาคู่กับความรับผิดชอบ ก็หมายความว่า เราจะต้องใช้เสรีภาพอย่างมีความรับผิดชอบ และต้องรับผิดชอบต่อการใช้เสรีภาพนั้นด้วย”
.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( ป. อ. ปยุตฺโต )
ที่มา : ธรรมกถาแสดงในพิธีบําเพ็ญกุศลอุทิศแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ แสดงที่ วัดวชิรธรรมปทีป นครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๓๕ ภายหลังพิมพ์เป็นหนังสือชื่อ “ประชาธิปไตย ไม่ยาก ถ้าอยากได้”

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...