14 กันยายน 2564

ประวัตศาสตร์วิวัฒนาการของมนุษย์สมัยใหม่บนโรงเรียนดาวเคราะห์โลก.?..

ประวัตศาสตร์ก่อนการก่อกำเนิดมนุษย์ โฮโมซาเปียน เริ่มต้นเมื่อราวๆ 600,000 ปี
ได้มีการค้นพบแผ่นทองคำเก่าแก่ที่มีอักขระโบราณ (ภาษารูนส์) สลักอยู่ใต้ซากโบราณสถาน 400 ชิ้น ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า Santiya Dakov หรือ "หนังสือ"
โดยผู้จารจารึกคืออาลักษณ์นักบวชชาวแอตแลนติส และได้เก็บไว้ในห้องใต้ดินจนมีการค้นพบในภายหลัง

เมื่อราวๆ 400 ปี ในสมัยนั้นเป็นสมัยของกษัตริย์ Kari ที่ 1 พระองค์ได้สั่งให้มีการหลอมแผ่นทองคำเพราะทองเป็นสิ่งที่มีค่า แต่ก่อนหลอมได้ทำการ Copy ลงบนแผ่นตะกั่ว และมีบางส่วนถูกทำลายและสูญหายไป แต่ส่วนใหญถูกเก็บไว้ในสถานที่ลึกลับ และเริ่มมีการพิมพ์และ แปลออกมาเป็นหนังสือเมื่อราว 30 - 40 ปีที่ผ่านมานี้เอง

ใจความของแผ่นจารึกแผ่นแรกมีอยู่ว่า จักรวาลมีลักษณะขอบเขตเป็นวงรี ด้านหนึ่งมืด ด้านหนึ่งสว่าง และแกแลคซี่ของเรานี้อยู่ใกล้เส้นแบ่งเขตเพราะ Galaxy
ของเราเรียกได้ว่าอยู่ตรงขอบของจักรวาล และระบบสุริยจักรวาลก็อยู่ตรงขอบของแกแลคซี่อีกทีนึง

และมีรูปร่างคล้าย "สวัสดิกะ" เครื่องหมายแห่งความโชคดีของคนยุคโบราณทำไมรูปธรรมต่างมิติจึงได้สนใจดาวเคราะห์โลกดวงนี้ และเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่
โดยมีการประชุมของเหล่ารูปธรรมต่างดาวทั่วทั้งจักรวาล และตกลงจะใช้โลกเป็นเหมือนโรงเรียนหรือศูนย์ฝึกอบรมประสบการณ์ชีวิตมิติที่ 3 ของเหล่าดวงจิต และวิญญาณของเหล่าชาวดาวต่างๆ ที่จะลงมาหาประสบการณ์ชีวิตโดยจะหมุนเวียนกันลงมาเกิดเพื่อหาประสบการณ์ความดี ความชั่ว หยินและหยาง ขาวและดำ

เพราะโลกเป็นสถานที่แห่งเดียวในจักรวาลที่จะยกระดับจิตวิญญาณขึ้นสู่มิติที่สูงขึ้นได้ เพื่อกลับสู่แก่นแท้ ธาตุรู้อมตะ หรือ source ของนิพพานได้ เริ่มแรกคือ
ชาวลีมูเรีย ซึ่งเป็นรูปธรรมกึ่งกายเนื้อ และจิตวิญญาณ ยังไม่ใช่มนุษย์โดยสมบูรณ์แบบ และประสบผลเป็นอย่างดี มีความรุ่งเรือง และสงบสุขเป็นเวลากว่า
20,000 ปี

ต่อมาก็คือชนชาวแอตแลนติส และอาณาจักรราม "รามา" ที่เป็นที่ตั้งดินแดนประเทศอินเดียในปัจจุบัน มีความเป็นโลกทวิภาวะ 3 มิติเต็มรูปแบบ แต่ผลการมดลองประสบความล้มเหลวเพราะมนุษย์ยังมีความโลภ โกรธ หลง และมัวเมาในอำนาจจึงนำพาให้อาณาจักรแอตแลนติสต้องล่มสลายไปในเวลาต่อมา

เอาล่ะพ่อจะขยายความเรื่องกำเนิดโลกและสิ่งมีชีวิตในโลกก่อน ดาวแต่ละดวงจะมีระบบนิเวศน์เป็นของตัวเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมของดวงดาวนั้นซึ่งจะแตกต่างๆ กันไม่เหมือนกัน
และ โลกก็มีวิวัฒนาการเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยโลกของเราเมื่อ 600,000 ปีก่อน
มีวิวัฒนาการถึงขีดสุดแล้ว โดยมนุษย์นีแอนเดอธัสเป็นตัวบ่งชี้วัด เพราะมีมันสมองใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบัน ในขณะเวลานั้นก็มีรูปธรรมต่างดวงดาวหลายกลุ่ม
หลายเผ่าพันธ์ ที่จับจ้องดาวเคราะห์โลกดวงนี้

และได้เดินทางมายังโลกเรานี่ ในช่วงแรกรูปธรรมแสงสว่าง ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐาน
อยู่ที่โลก แต่ก็ไม่ได้คิดรบกวนระบบนิเวศน์วิทยาของโลกเราแต่ประการใด โดยตั้งถิ่นฐานอยู่ในทวีปใหญ่แอตแลนติส ที่พวกมนุษย์นีแอนเดอธ้ส ไม่สามารถเดิน
ทางไปมาหาสู่ได้

ซึ่งในขณะนี้น อารยธรรมของชาวแอตแลนติสเจริญรุ่งเรืองมากทางด้านเทคโนโลยี่ต่างๆ มีการพบซากหิน สถาปัตยกรรม ที่บ่งบอกถึงความศิวิไลย์
Civilization บนเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิคปัจจุบัน หลังอาณาจักรแอตแลนติสล่มสลายเนื่องจากสงครามและใช้เทคโนโลยี่จนเกินการควบคุม

ได้มีการประชุมของเหล่ารูปธรรมแสงสว่าง ของสมาพันธ์แห่งจักรวาล โดยประมุธดวงดาวต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์ ทุกโลก ทุกแกแลคซี่ ในเรื่องการยุติสงครามว่าทำอย่างไรจึงจะทำให้โลกเกิดสันติภาพได้ ได้มีการรวมตัวกัน วางแผนคัดเลือกมนุษย์สายพันธ์จากดวงดาวอื่นๆ ที่ดีเยี่ยม

ที่มีความรู้ความสามารถต่างๆ กัน (ดาวแต่ละดวงมนุษย์มีความสามารถแตกต่างกัน) จากทุกผิวสี และทุก Specie จากทุกโลก ทุก Galaxy โดยเดินทางมาคัดเลือกผ่านเส้นทางประตูมิติ Golden Way เพื่อจะสร้างมนุษย์สายพันธ์ใหม่บนโลกแห่งนี้

โดยการใช้พันธุวิศวกรรมเพื่อจะสร้างมนุษย์สายพันธ์ใหม่บนดาวเคราะห์โลกใบนี้
โดยการผสม DNA ของ "จิตวิญญาณของธาตุรู้อมตะ" Source เพื่อยุติปัญหาหรือแก้ไขปัญหาสงคราม 
ถ้าสร้างโดยวิวัฒนาการ Evolution พวกรูปธรรมต่างดาวฝ่ายมืดจะไม่มีวัน copy
จิตวิญญาณอันสูงส่งของพระผู้สร้างได้ เพราะ DNA ไม่เหมือนมนุษย์ และ ไม่มี
consciousnesss ธาตุรู้อมตะของพระเจ้านั่นเอง ฝ่ายมืดจะอยู่แต่ในมิติที่ 4 เท่า
นั้นไม่สามารถยกระดับจิตวิญญาณให้สูงกว่านี้ได้

ไม่เหมือนกับมนุษย์ เพราะไม่มีความตระหนักรู้ในตัวตนของความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ฉะนั้นธาตุรู้อมตะจึงมีอยู่ในตัวตนของมนุษย์เราทุกคน หน้าที่นี้ชาว
ซีรีอึส เป็นผู้สร้างเผ่าพันธ์ด้วยวิธีพันธุวิศวกรรม โดยผสานยีนส์ของพวกเขาชาวดาวต่างๆ กว่า 22 สายพันธ์ เข้ากับสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ "โคมันยอง" หรือมนุุษย์
"โฮโมซาเปียน" (ต่อภาค 2 พรุ่งนี้)

ที่มา
teucer Rom...

แสงสว่าง มองการไกล..

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...