หลวงปู่ : มันก็ต้องดูด้วย ขนาดเป็นมนุษย์แล้ว..พอตายไปอาจจะไม่ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกก็ได้ มันก็ต้องดูว่าสัตว์เดรัจฉานนั้นมีจิตมีสัมมาทิฏฐิหรือมีมิจฉาทิฏฐิ ต้องดู..อยู่ในสิ่งแวดล้อม เข้าใจหรือเปล่าจ๊ะ
ถ้าเค้าไม่ได้อยู่ใกล้ในผู้เจริญในกระแสจิตแห่งเมตตาเสียแล้วนี้ ก็ยากยิ่งนักที่เค้าจะพ้นในการเป็นสัตว์เดรัจฉาน ขนาดมนุษย์ที่ฆ่าตัวตายแล้วนี้..เมื่อตายเกิดขึ้นมาอีกก็ต้องฆ่าตัวตายจนกว่าจะครบ ๕๐๐ ชาติอย่างนี้ เป็นเพราะอะไร..เป็นเพราะวิบากกรรมทั้งนั้น..
นั้นโอกาสที่พึงมาแล้วได้มีศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนานี้ ได้มาเจริญศีล สมาธิ ภาวนา ถ้าสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายอยู่ในเขตพัทธสีมา ได้ยินเสียงสดับสวดมนต์ภาวนาอยู่ตลอดเวลานี้ กระแสจิตนี้มันได้เป็นกระแสธรรมมั้ยจ๊ะ..มันเป็นกระแสที่ดีหรือเปล่า กระแสที่ดีเหล่านี้แลย่อมส่งผลทำให้เกิดภพภูมิที่ดี ย่อมทำให้เค้าเปลี่ยนภพที่ดี
แต่ทีนี้ไอ้พวกสุนัขทั้งหลาย ท่านสุนัขทั้งหลายนี้เกิดมาเป็นสุนัขสัตว์เดรัจฉาน เค้าเกิดจากความโทสะ เกิดจากความโมหะ ความไม่รู้ทั้งหลาย ความหลงเช่นว่าเมื่อเจริญประพฤติปฏิบัติในธรรมพระวินัยแล้ว..ผิดศีลอย่างนี้ เมื่อตกตายไปแล้วก็ต้องมาอยู่ในเขตพัทธสีมา
อันที่สองพวกมัคนายกวัดทั้งหลาย..นี่อย่างนี้ เอาของวัดของสงฆ์ทั้งหลายโดยไม่รู้ผิด..ก็ต้องมาใช้หนี้ มาคอยเฝ้าวัดคอยเฝ้าวาอารามทั้งหลายเหล่านี้ เข้าใจหรือเปล่าจ๊ะ มาเป็นเปรตบ้าง เป็นโอปปาติกะบ้าง เสวยสุขเสวยทุกข์บ้าง เวลากลางค่ำกลางคืนอย่างนี้บ้าง
สิ่งเหล่านี้ถามว่ามีวันหมดไปหรือเปล่า..ไม่มีวันหมดไป มันเป็นอยู่ทุกภพทุกชาติแห่งการเกิด เรานี้เกิดเป็นมนุษย์นี่ดีแค่ไหนแล้ว ขนาดเกิดเป็นมนุษย์นี้มีสุขมีทุกข์ หรือว่ามีสุขอย่างเดียวหรือเปล่า..ก็เปล่าเลย แล้วสัตว์เดรัจฉานหรือพวกวิญญาณทั้งหลายเหล่านี้ โยมว่าจะสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน (ลูกศิษย์ : ทุกข์มากกว่า) เพราะเค้าไม่มีโอกาส เค้ารอแต่คนที่เค้านั้นมีบุญวาสนาหรือมีบุพกรรม..หรือวาระกรรมที่จะหมด ถ้ามันยังไม่ถึงเวลาเค้าก็ต้องเสวยกรรมอย่างนั้นต่อไป
แต่มนุษย์เป็นผู้มีบุญ เมื่อเรามีตกทุกข์ได้ยาก..เทวดาเค้าก็รู้เค้าก็เห็น ถ้าเราเคยทำบุญอะไรมา เราก็สามารถพ้นทุกข์พ้นภัยนั้นได้อย่างนี้ นั้นคำว่าเป็นมนุษย์เนี่ยะ..ถึงยังไม่มีศีล สมาธิ ปัญญา แต่ก็ชื่อว่ามีบุญติดมา เข้าใจหรือเปล่าจ๊ะ
ดังนั้นผู้ที่ให้ย่อมมีบุญบารมีมากกว่าผู้ที่ได้รับ เพราะผู้ที่ให้ย่อมสูงกว่าเสมอ..ก็คือจิตที่เป็นผู้ให้ ผู้ที่รับนี้ไม่ปรารถนาที่จะให้..มันย่อมต่ำกว่าผู้ที่ให้อยู่แล้ว ดังนั้นการเกิดมามีคนช่วยเหลือถือว่ามีบุญอยู่แล้ว แต่เกิดมาแล้วมีโอกาสได้ช่วยเหลือคน..มีบุญมากกว่ามั้ยจ๊ะ
ในขณะที่เราเจริญภาวนาจิตอยู่นี้..เราสามารถเป็นผู้ให้ได้หรือเปล่า ให้ทุกสรรพสัตว์นั้นพ้นทุกข์ ให้เค้ามาโมทนา ให้อโหสิกรรม ปรารถนาในบุญใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว..ก็ให้สำเร็จสมบูรณ์เสมอกันด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้วนี้เทอญ สิ่งเหล่านี้เราปรารถนาให้ได้หรือเปล่า นี่เค้าเรียกความดี ปรารถนาเพื่อการไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไม่มีภัยต่อกัน..
ความปรารถนาเหล่านี้เป็นการเกื้อกูล ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ด้วยกัน สรรพวิญญาณดวงจิตทั้งหลาย ถ้ากระแสเหล่านี้มีบุพกรรมมีวาสนากับเรา..เค้าจะรับเราได้เอง เหมือนคลื่นที่เราใช้..ถ้าคลื่นเดียวกันมันใช้กันได้มั้ยจ๊ะ เราต้องอยู่ที่การอธิษฐานสิ่งเหล่านี้
ดังนั้นแล้วขอให้โยมเชื่อเถิดว่าโยมเกิดมาเป็นผู้มีโชค มีบุญบารมีเพียงใดที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ แล้วได้เจริญประพฤติปฏิบัติในพรหมจรรย์อีก ได้รู้เห็นทางออกแห่งทุกข์ได้อีก มันอยู่ที่ความศรัทธาความเพียรของโยมมีมากมีน้อยเพียงใด ก็ฝึกฝนเอา ตักเอาตวงเอา พิจารณาเอา ทำให้มันถึงที่สุดแห่งทุกข์..
มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น