แต่ถ้าเราไม่ได้สวดด้วยใจ อะไรนั้นหากขาดใจซึ่งเป็นประธานเสียแล้ว..ก็ย่อมเข้าไม่ถึงในสิ่งนั้น แต่ถ้าเราสวดด้วยความตั้งใจ มีความนอบน้อมมีศรัทธา มีสติ มีสมาธิเสียแล้ว มันก็จะเกิดมรรคเกิดผลในการสาธยายมนต์ มนต์นั้นก็จะเป็นมนตราที่ขลัง อย่างนี้เค้าเรียกว่า"สวดมนต์เข้าตัว"
การสวดมนต์เข้าตัวนี้จะมีอานิสงส์อย่างไร ก็จะมีอานิสงส์ว่ามันจะไปปรับสมดุลธาตุ คุณลมคุณไสยอะไรก็ดี ที่เรามีเวรมีกรรม ถูกอาฆาตพยาบาทจองเวรจองกรรมมาก็ดี มันจะขับเอาออกทางรูขุมขนรูทวาร ในลมหายใจก็ดี ในเหงื่อก็ดีอย่างนี้ ในกระหม่อมทวารก็ดี ดังนั้นอย่าเห็นว่าการสาธยายมนต์นั้นไม่มีประโยชน์ แต่มีอานิสงส์ครอบคลุมจักรวาล..หากโยมมีจิตที่ตั้งมั่นนอบน้อม
เพราะมนุษย์นั้นเมื่อเราสวดมนต์อยู่บ่อยๆย่อมทำให้มีกำลังจิต มีกำลังสมาธิพิศดาร ดังนั้นแม้เรายังเจริญสมาธิยังไม่ตั้งมั่น ในขณะที่เราได้มีโอกาสเวลาได้เจริญมนต์ ก็ขอให้โยมนั้นมีความตั้งใจนอบน้อมในพระรัตนตรัย จดจ่อตั้งมั่นในบทสวดมนต์ เพราะในขณะที่เราสวดมนต์อยู่ก็ดี อาจจะมีจิตนั้นวอกแว่กส่งออกไปภายนอก มีอดีตแห่งกรรมเข้ามาเกี่ยวพัน มีจิตที่ฟุ้งซ่านไปในอนาคตเหล่านี้ เค้าเรียกวิถีจิตนั้นมาหาความสงบไม่ได้
นั้นถ้าการที่เราท่องมนต์ท่องด้วยแต่ปาก แต่ไม่ได้มีสติไม่ได้มีสมาธิ..เค้าเรียกว่า"มนต์มันออก" ยิ่งเราสวดไปมากเท่าไหร่ มันก็ทำให้เรานั้นเหนื่อยล้าในกายสังขาร ก็เรียกว่าสวดไปสวดไปแล้วมันก็จะมีความง่วงเข้ามาแทน อันนี้เค้าเรียกว่ามนต์มันออก จึงเรียกว่าเสียประโยชน์..
เหมือนเราได้มีอาหารกินแล้วบริโภคแล้ว แต่อาหารนั้นไม่สามารถทำประโยชน์ให้ร่างกายเราได้ อย่างนี้เค้าเรียกว่ามนต์มันก็จะเสีย มันก็จะกลับเป็นโทษ ดังนั้นขอให้จงเห็นค่าในสิ่งที่เราได้ตั้งใจจะทำ
มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
ติดตามข้อมูลข่าวสารกิจกรรมของมูลนิธิได้ทาง https://www.facebook.com/mprs.foundation
ติดตาม คลิปธรรมะได้ทาง YouTube channel : ธรรมะมหัศจรรย์ ตามรอยธรรมสมเด็จโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น