12 มิถุนายน 2565

สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ ไว้ดังนี้

ถ้าหากพวกเจ้าเข้าใจธรรมที่ตถาคตตรัสมาทั้งหมดนี้ได้ดีแล้ว ก็จักเห็นได้ว่า การกวาดวัด การช่วยทำความสะอาดเก็บขยะ การช่วยบำรุงรักษาซ่อมแซมวัตถุต่าง ๆ ในวัด โดยเอากายทำงานทางโลก แต่จิตอยู่กับพระธรรม คือ เอางานที่ตนทำนั้นมาพิจารณาให้เป็นพระกรรมฐาน ได้ทั้งสมถะและวิปัสสนาในคราวเดียวกัน ทำทุกอย่างโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ทำทุกอย่างก็เพื่อพระนิพพานจุดเดียว เป็นผู้ไม่ประมาทในความตาย คิดเสมอว่าเราจักทำให้ดีที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย เพราะความตายเป็นของเที่ยง แต่ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง มีมรณา ควบอุปสมานุสสติ ไว้เป็นปกติ และมี กายคตานุสสติ ควบอสุภะ ไปในตัว โดยไม่ลืมการกำหนดรู้ลมหายใจ (อานาปา) เพื่อ ให้จิตสงบเป็นสุขอยู่เสมอผลที่เราได้รับจากกรรมหรือการกระทำของเราเป็นการตัดได้ทั้งความโลภ - ความโกรธ - ความหลงไปในตัว เป็นการทำให้เกิดปัญญาตัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทปหานได้ในที่สุด ก็คือ การให้ธรรมทานกับจิตตนเอง ซึ่งชนะทานทั้งปวง จัดเป็นบุญสูงสุดในพระพุทธศาสนา เพราะเป็นอภัยทานด้วย คือ อภัยให้กับความชั่วของผู้อื่น เพื่อที่จักชนะความชั่วของตัวเราเองนั่นเอง ขอให้พวกเจ้าหมั่นทบทวนจุดนี้ให้ดี ๆ

จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน คัดลอกโดย ด.ญ.ปุณยนุช ขจรนิธิพร (ลูกหลาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน สนับสนุนเครื่องคอมฯ ในการโพสต์ธรรมทานนี้ค่ะ)

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...