03 มิถุนายน 2565

เทวดาเมืองนครศรีธรรมราช ยกรถไฟ

ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อพาคณะศิษย์จากกรุงเทพฯ
โดยทางรถไฟ ไปจังหวัดนครศรีธรรมราช
ข้าพเจ้ามารับหลวงพ่อที่สถานีรถไฟทุ่งสง
พอรถไฟแล่นออกจากทุ่งสงได้ระยะหนึ่ง
ถึงเวลาเพลข้าพเจ้านิมนต์หลวงพ่อ และหลวงอา
มหาอำพัน บุญหลง วัดเทพศิรินทร์ ไปนั่งที่รถเสบียง
หลวงอานั่งตรงข้ามหลวงพ่อ ข้าพเจ้าสั่งอาหารมา
แล้วนั่งบนพื้นรถไฟข้างๆ หลวงพ่อ และหลวงอา
ข้าพเจ้าได้ยินหลวงพ่อรำพึงว่า
"พระจะฉันข้าว เทวดาจะมาก็มา"

ขณะนั้นรถไฟกำลังแล่นด้วยความเร็วขึ้นสะพานเล็กๆ
สะพานหนึ่ง พอรถไฟลงไปจากสะพานปรากฏว่า
รถโบกี้เสบียงคันนั้นลอยสูงขึ้นวูบหนึ่ง ข้าพเจ้าตกใจมาก
เพราะรถลอยขึ้นพ้นจากรางเช่นนั้นมักจะตกราง โอกาสที่รถ
จะตกลงมาบนรางอย่างเดิมพอดีนั้น ยากมาก ทันใดนั้น
โบกี้รถไฟคันตามหลังรถเสบียงก็ชนกระแทกโบกี้รถเสบียงดังสนั่น และโบกี้ถัดๆ ไปก็ชนกันเข้ามาตามลำดับ เสียงดังโครมๆ ขณะนั้นเองจานข้าวของหลวงพ่อ กับหลวงอาพร้อมด้วย
ชามแกงต้มยำ ก็ลอยสูงขึ้นไปในอากาศแล้วตกลงมาบนโต๊ะ
จานและชามแตกเป็นสองเสี่ยง น้ำแกงใหลซู่ลงมา
เลอะขาข้าพเจ้า และเปื้อนจีวรหลวงพ่อและหลวงอา
ข้าพเจ้าควักผ้าเช็ดหน้า ออกมาเช็ดถวายหลวงพ่อ
หลวงอาแล้ว...ได้ยินหลวงพ่อพูดว่า"พวกรถเสบียงพูดไม่ดี
มีคนในห้องครัวรถเสบียงคันนั้นพูดว่า นี่หรือชื่อหลวงพ่อฤาษี อยากจะดูว่าจะมีฤทธิ์สักแค่ไหน"

หลวงพ่อเล่าว่า เทวดาที่เคยเป็นเพื่อนเก่าของหลวงพ่อ
เมื่อพวกห้องครัวเสบียงพูดไม่ดี ดังนั้นเทวดาท่านจึงแสดงฤทธิ์แทนหลวงพ่อ หลวงพ่อไม่ได้ทำอะไร เทวดาท่านยกรางรถไฟ
ให้สูงขึ้นมาพ้นรางแล้วปล่อยลงบนรางดังเดิม แต่ว่าชามข้าว
และชามแกงรถเสบียงแตกเป็นสองเสี่ยงนั้น น่าคิดมากจานชามกระเบื้องของรถไฟ ปกติหนามากไม่ต่ำกว่าครึ่ง ซม. การที่ลอยขึ้นแล้วตกลงมาตรงๆ แตกเป็นสองซีกเช่นนั้น แปลว่าต้องลอย
ขึ้นสูงไม่ต่ำกว่า ๑ ฟุต และการที่จานและชามลอยสูงขึ้นขนาดนั้นรถไฟต้องลอยขึ้นสูงขนาดไหน แต่แล้วแก้วน้ำซึ่งบางและเปราะมากกว่า จานชามกระเบื้องมาก อีกทั้งวางซ้อนกัน๒-๓ ชั้น อยู่ตรงอีกด้านหนึ่งของรถเสบียง ทำไมจึงปรากฏว่า ไม่มีแก้วใบไหนแตกเลยสักใบ น่าแปลกใจมาก

สักครู่หนึ่งต่อมา พวกบ๋อยและพวกกุ๊กรถเสบียงคลานกุบกับๆ
ตามกันเป็นแถวออกจากห้องครัวกราบหลวงพ่ออย่างนอบน้อม แล้วขอให้หลวงพ่อเจิมศรีษะให้ หลวงพ่อก็เมตตาเจิมให้ทุกคนโดยเคาะที่ศรีษะคนละที แล้วกุ๊กก็กราบเรียนว่า "หลวงพ่อไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มประเดี๋ยวกระผม จะนำมาถวายใหม่อีกหนึ่งชุดหนึ่ง"..ข้าพเจ้าสงสัยว่า เทวดามีกายทิพย์มือเทวดาก็โปร่งใสจนมอง
ไม่เห็น แต่ทำไมจึงยกรถไฟที่เป็นเหล็กหนักหลายสิบตันได้
จึงกราบเรียนถามหหลวงพ่อ หลวงพ่อหัวเราะ แล้วอธิบายว่า
หนักยิ่งกว่ารถไฟเขาก็ยกได้

เป็นอันว่า ข้าพเจ้าได้ประสบด้วยตัวเองถึงอานุภาพของเทวดา
๓ ครั้ง คือ
ครั้งหนึ่งที่ทะเลกระบี่เนรมิตมังกรทอง มารับหลวงพ่อ
ที่ชายทะเลหาดนพรัตนธารา จังหวัดกระบี่
ครั้งที่สองพระพรหมที่เฝ้ารักษาพระพุทธมหามงคลบพิตร
เคลื่อนย้ายพระพุทธรูปทองคำใต้ดิน ที่ตำบลน้ำน้อย
อำเภอหาดใหญ่
และครั้งที่สาม เทวดาเมืองนครศรีธรรมราชยกโบกี้รถไฟ
ซึ่งหนักหลายสิบตันลอยสูงพ้นราง

โดย ม.ล.วรวัฒน - กานดา นวรัตน์ ลูกศิษย์บันทึก ๓ /๑๖๐,๑๖๑

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...