.. ชาติที่แล้ว ท่านและภรรยา จุติมาจากพรหมโลก จึงบำเพ็ญเนกขัมมบารมี ในชาตินี้.แต่งงานตอนอายุ ๒๐ ปี ไม่ยินดีเรื่องกามารมณ์ ออกบวชทั้ง 2 คน โดย ต่างฝ่ายต่างปลงผมให้แก่กัน
-..ท่านครองผ้ากาสาวพัสตร์สะพายบาตร
-. ภรรยา .. บวชเป็นนางภิกษุณี...ภายหลังได้บรรลุพระอรหัตตผล
..**/.. พระมหากัสสปะ..หลังจากบวช เข้าวันที่ 8 ได้พบ พระโคตมพุทธเจ้า ... จึงน้อมตัวลงเดินเข้าไปหา ไหว้ ๓ ครั้ง...กราบทูลว่า.
” ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า..จงเป็นศาสดาของข้าพระองค์ ..ข้าพระองค์ขอเป็นสาวก”.( การบวชด้วยการรับฟังโอวาท .)
**....และเมื่อได้ฟังธรรม ...ท่านก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ..จากนั้นท่านนำผ้าสังฆาฏิของตน...ปูถวายพระพุทธเจ้าให้ทรงประทับนั่ง ..พระพุทธเจ้าจึงประทานผ้าป่านบังสุกุลให้ท่านใช้แทน
....บัดนั้น.. *....แผ่นดินก็ไหวขึ้น..**เพราะไม่เคยมีมาก่อน..ที่พระพุทธเจ้า..จะประทานจีวรที่ทรงใช้แล้ว..แก่พระสาวก
พระมหากัสสปะ ได้สมาทานธุดงค์ ๑๓ ข้อ ในสำนักพระศาสดา ท่านถือธุดงค์ ๓ ข้อ ตลอดชีวิต คือ ๑. ทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ๒. เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ๓. อยู่ป่าเป็นวัตร
**..พระมหากัสสปเถระ ..เป็นเอตทัคคะ ด้านผู้ทรงธุดงค์และสรรเสริญคุณแห่งธุดงค์
/*- หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระมหากัสสปะ
เป็นประธานในการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ..พระมหากัสสปประนมอัญชลี กระทำประทักษิณจิตกาธาร ๓ รอบ แล้วเปิดทางพระบาท ด้วยเศียรเกล้า ..* ก็มีเพลิงลุกโพลงขึ้นเอง
.ต่อมา.เป็นประธานการทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรก ท่านคัดเลือกพระอรหันต์ ๔๙๙ รูป ล้วนแต่บรรลุอภิญญา ๖ และปฏิสัมภิทา ๔
/**... อดีตชาติของพระมหากัสสปะ…ย้อนหลังไปแสนกัปป์แต่กัปป์นี้ ในยุคพระพุทธเจ้า “ ปทุมุตตระ “ พระมหากัสสปเถระ..ในชาตินั้น มีนามว่า “เวเทหะ” ได้เห็น พระสาวกผู้เลิศทางธุดงค์นามว่า ..”มหานิสภเถระ” ของ..พระปทุมุตตรพุทธเจ้า.” จึงนิมนต์ พระปทุมุตตรพุทธเจ้า.พร้อมพระสงฆ์มาถวายภัตตาหาร แล้วตั้งความปรารถนาตำแหน่งนั้น..
พระพุทธเจ้าทรง ทรงพยากรณ์ว่า ..”ในอนาคตกาลประมารแสนกัปป์พระพุทธเจ้า “พระนามว่าโคดม “จักอุบัติขึ้น ท่านจักเป็น..”สาวกที่ ๓.” มีชื่อว่า..” มหากัสสปเถระ “.
**..ท่านเวียนเกิดตายหลายชาติ ท่านบวชเป็นฤาษี๕๐๐ ชาติ.จึงมีนิสัยสันโดษ ชอบอยู่ป่า..
พระมหากัสสปเถระ ได้จำพรรษาอยู่ที่เวฬุวนาราม มีอายุประมาณ ๑๒๐ ปี จึงนิพพาน ณ ระหว่างกลางกุกกุฏสัมปาตบรรพตทั้ง ๓ ลูก ในกรุงราชคฤห์.. ก่อนจะนิพพาน 1 วัน..ท่าน แสดงอิทธิปาฏิหาริยิ์ และให้โอวาทแก่พุทธบริษัทแล้ว .
**...ท่าน...อธิษฐานจิตขอให้ภูเขาทั้ง ๓ ลูกมารวมเป็นลูกเดียวกัน แล้วท่านก็ดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน ณ ที่นั้นท่านยังอธิษฐาน ขอให้สรีระของท่านยังคงสภาพเดิมไม่สูญสลาย จนกระทั่งถึง พระศาสนาพระศรีอริยเมตไตร จะมา ยกสรีระของพระเถระ...วางบนพระหัตถ์ขวาชูขึ้น....ประกาศสรรเสริญคุณของพระเถระแล้ว.. เตโชธาตุก็จะเกิดขึ้นเผาสรีระของท่าน...บนฝ่าพระหัตถ์..ของพระศรีอริยเมตไตรพุทธเจ้านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น