กระดูก เป็นส่วนที่ลึกจากเนื้อหนัง เป็นส่วนที่แข็งที่สุดของร่างกาย สมัยเมื่อ ๑๐๐ กว่าปี เกิดโรคระบาดร้ายแรง คือ ไข้ทรพิษ(โรคฝีดาษ) ทำให้ กระดูกจะเป็นจุดดำๆ จึงเรียกว่า “ เข้ากระดูกดำ “ คือ ติดแน่นจนถอนไม่ขึ้น
ต่อๆมา จึงนำมาใช้ ในด้านความรูสึก การกระทำ ที่ส่งผลต่อเจ้าของมาก ทำให้ไม่ลืม เช่น “เกลียดเข้ากระดูกดำ” คือ เกลียดจนไม่เผาผีกันเลย
หรือ พวกไสยศาสตร์ ทำของ เอาสิ่งไม่ดี ทั้ง น้ำมันพราย ยาสั่งเข้าไปในร่างกายคนอื่น อย่างรุนแรง และ ยาวนาน เรียกว่า “ของเข้ากระดูกแล้ว” เข้าไปฝังในกระดูก รักษายาก โอกาสตายสูง
และถ้าเรา จะทำความดี จนเข้ากระดูกดำล่ะ ถ้าเราเจริญสมาธิภาวนา ทั้งลืมตาและหลับตา ทั้ง ยืน นอน นั่ง เดิน วิ่ง ทั้งสวดมนต์ ภาวนา ทั้ง พิจารณา การเกิด ดับ จนจิตมันชินจนเป็น” ฌาน” ยิ่งเป็นการสะสมบารมีสูงสุด เพราะการทำบุญด้วยการภาวนาได้กุศลผลบุญสูงสุด
ถ้าเราจะ “สวดมนต์จนเข้ากระดูก” ล่ะ ย่อมเป็นสิ่งที่ดีงามมากๆ..เพราะเข้ากระดูก แปลว่า “ติดแน่น ถอนไม่ขึ้น” แปลว่า พลังงานแห่งแสงสี บารมี แห่งพุทธะ ฝังลึกจนถึงแก่นกระดูก พลังงานเหล่านั้น ย่อมหนาแน่น จึงป้องกันภัยได้
การสวดมนต์ เป็นการเร่งรัดบารมี เป็นการเจริญมรรค ทำให้จิตใจเป็นสมาธิ เป็นการบูชาพระคุณพระรัตนตรัย เป็นการรักษาศีลในตัว ปากสวด ใจคิดตาม จนจิตสงบ เกิดความอิ่มเอมปีติทางใจ
บทสวดมนต์ แต่ละบท จะมีพลังแตกต่างกัน ตามความหมายของอักขระ ถ้าเราสวดมนต์บทใดบทหนึ่ง จนชำนาญ สม่ำเสมอ จนเป็นอัตโนมัติ( คือ อยู่เฉยๆ จิตมันท่องคาถาบทนั้นออกมาเอง) เรียกว่า “บทสวดมนต์บทนี้ มันเข้าไปในกระดูก”แล้ว อย่างบทอิติปิโส๓ห้อง กระแสพลังงานเป็นแสงสีขาวใส พลังงานแห่งพระรัตนตรัย พลังแห่งความเยือกเย็น ทำให้ผู้สวดรับอานิสงส์ ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุข นอนหลับฝันดี มีคนเมตตา
หรือบทสวดจักรพรรดิ บทคาถาเงินล้าน เกิดพลังแสงสีทอง เจิดจ้า จากกลางกลายแผ่ขยายไปรอบ พลังสีทองเป็นพลังแห่งจักรวาล ย่อมดึงดูด ความมั่งคั่ง แก้วแหวนเงินทองสิ่งที่ดี เข้ามา
หรือบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก จะก่อเกิดพลังของอักขระบาลี วิ่งวนอยู่ทั่วร่าง เหมือนกายเราเป็นที่บรรจุพระธรรม ทั้ง ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ย่อมดึงกระแสปัญญาเข้ามา พร้อมพายุแห่งมนต์ ป้องกันอันตรายได้ยอดเยี่ยม
หรือคาถาชินบัญชร ย่อมก่อเกิดกำแพงมนต์หลายชั้น คุ้มกัน ปกปักสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่ให้มากร้ำกรายได้ และเป็นพลังแห่งการปรายมาร ปราบสิ่งไม่ดีได้เด็ดขาดยิ่ง ด้วยมีพลังแห่งเตโชกสิณสูง
หรือ บทแผ่เมตตาต่างๆ ที่อุทิศบุญให้ดวงวิญญาณทั้งหลาย ก่อเกิดพลังแสงสีขาว แสงสีรุ้ง พุ่งไปรอบทิศทาง กระจายไปทั่วจักรวาล ทั้ง ๓ ภพภูมิ..ย่อมก่อเกิด พลังงานแห่งกุศล จนปรับภพภูมิได้.
นอกจากบทสวดหลักนี้ก็ยังมีบทสวดมหามงคลอีกมากมายเช่น บทถวายพรพระ พาหุง มหากาฯ บทคาถา ฯลฯ
**ดังนั้น ถ้าเราจะเกลียด โกรธ ใครสักคน จนเข้ากระดูกดำ ให้เปลี่ยนพลังงานนั้น แปลงมาเป็น การสวดมนต์จนเข้ากระดูกดำ แล้ว บารมีเราจะก่อเกิด เติบโต จนมีพลังตัดกิเลสสังโยชน์๑๐ ได้..จึงจะเป็นการสมควรยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น