".. ควรทำเมื่อไหร่และทำแบบไหน
หลวงปู่แหวน ท่านยืนยันไว้เสมอว่าทำเช่นไร
ดีที่สุด...
บรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อไม่มีทุกข์มาถึงตัว มักจะไม่เห็นคุณของพระศาสนา มัวเมา ประมาท ปล่อยกายปล่อยใจให้ประพฤติทุจริต ผิดศีลธรรม อยู่เป็นประจำนิสัย เห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งอื่นไม่มี นั่นแหละจึงได้คิดถึงพระคิดถึงศาสนา แต่เป็นเวลาที่สายไปเสียแล้ว
เรื่องความดีนั้นเราต้องทำอยู่เสมอ ให้เป็นที่อยู่ของจิต เป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรค คือทางดำเนินไปของจิตมันจึงจะเห็นผลของความดี
ไม่ใช่เวลาใกล้จะตายจึงนิมนต์พระไปให้รับศีล ให้ไปบอกพุทโธ หรือตายไปแล้วญาติจึงเคาะโลงบอกให้รับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดหมด
เหตุเพราะว่า คนเจ็บนั้น จิตมัวติดอยู่กับเวทนาไฉนจะมาสนใจใยดีกับศีลได้ เว้นไว้แต่ผู้ที่รักษาศีลมาเป็นปกติเท่านั้น จึงจะสามารถระลึกถึงศีลของตัวได้ เพราะตนเองเคยทำมาจนเป็นอารมณ์ของจิต แล้วเท่านั้น
แต่ส่วนมาก พอใกล้จะตายแล้ว จึงมีผู้เตือนให้รับศีล ยิ่งคนตายแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะคนตายนั้นร่างกายกับจิตใจไม่รับรู้ใดๆ แล้ว แต่ที่ทำมาก็ยังถือว่าเป็นเรื่องดี
ตัวอย่างเช่น พระเทวทัต ทำกรรมมาจนสุดท้ายถูกแผ่นดินสูบ เมื่อร่างลงไปถึงคาง จึงระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้าได้ แล้วขอถวายคางเป็นพุทธบูชา พระเทวทัตยังมีสติระลึกได้ จึงพอมีผลดีอยู่บ้างในอนาคต
การที่พระแผ่เมตตาให้ เขาจะได้รับหรือเปล่า
ก็ไม่รู้ สู้เราทำเอาเองไม่ได้ เราทำให้ตัวเราเอง จะได้มากน้อยเท่าไรก็มีความปีติเอิ่มอิ่มใจมากเท่านั้น.. "
ที่มา
#หลวงปู่แหวน_สุจิณฺโณ
#วัดดอยแม่ปั๋ง_อำเภอพร้าว_จังหวัดเชียงใหม่
#โครงการหนังสือบูรพาจารย์_เล่ม_๓
***********************************✔️✔️✔️
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น