21 สิงหาคม 2564

ทำงานที่คลีนิคทำแท้ง

ยกทรง : หลวงพ่อเจ้าขา ลูกทำงานในสำนักงานเถื่อนทำแท้งแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีรายได้ดีพอควร หน้าที่ลูกคือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเงิน พอมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อไ่ม่นานนักชักไม่แน่ใจไม่ดีเสียแล้ว เพราะมีหุ้นส่วนกับเขาด้วย เลยจะขอพึ่งบารมีถามหลวงพ่อว่า ข้อหนึ่งลูกจะมีบาป มีกรรมร่วมกับบัญชีพระยายมมีบ้างหรือไม่ ข้อสองเอาเงินเดือนจากทำแท้งมาทำบุญกับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ : เอ่อ นี่เข้าท่า เข้าท่าๆ

ยกทรง : มาดีอีตอนทำบุญนี่เองนะ

หลวงพ่อ : ใช่ๆ ฟังมาตั้งนาน คิดว่าจะบอกอย่างนี้เหมือนกัน แบ่งครึ่งกัน (หัวเราะ) เอาอย่างนี้ซิ งานก็เป็นงาน อาชีพก็เป็นอาชีพ จิตใจเกาะบุญไว้ พระพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิใครเรื่องอาชีพน่ะ อย่างกับอาจารย์ยกทรงพระสารีบุตร 500 องค์เป็นชาวประมง ใช่ไหม ชาวประมงซึ่งต้องฆ่าปลาทุกวันประจำเลยยิ่งกว่าทำแท้ง ต่อมาเมื่อเข้ามาบวชกับสำนักพระสารีบุตร พระพุทธเจ้าก็รับและยังแนะพระสารีบุตรไปสอนอภิธรรม เพราะพวกเขาเคยเกิดชาติก่อนฟังอภิธรรมมา พอฟังอภิธรรมย่อๆจบ เขาเป็นอรหันต์ทั้งหมด เห็นไหม เขาไม่ตำหนิ อาชีพก็ส่วนอาชีพ แล้วเรื่องบุญก็เรื่องบุญไป แต่ว่าจิตอย่าไปเกาะอาชีพประเภทนั้น เกาะบุญอย่างเดียว งานถือว่าทำตามหน้าที่น่ะ หมดเรื่องหมดราวไป

ยกทรง : อย่างนี้ถ้าจะนึกอะไร ให้นึกถึงบุญที่ทำกับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ : ใช่ๆ นึกถึงฉันไม่ทันมันไกล นึกถึงยกทรงก่อน ก็นึกอีตาบ้า คนนั้นแกเคยพูดปาวๆเป็นธรรมะธัมโมดีจังเว้ย เพลิดเพลินดี

ยกทรง : อ๋อ อย่างนี้ต้องแบ่งให้หลวงพ่อครึ่งหนึ่ง

หลวงพ่อ : ไม่เอาล่ะ (หัวเราะ) ให้ยกทรงร้อยเปอร์เซ็นต์

ยกทรง : เอาแต่บุญ เรื่องอาชีพเป็นอะไรที่แปลก หลวงพ่อตอบรู้สึกสบายใจขึ้น ตอนนั้นมันยึกยักๆ

หลวงพ่อ : เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยตำหนิใคร ท่านก็รับทุกด้าน อย่างตัมพทาฐิกโจร เห็นไหม ตัมพทาฐิกโจร โจรเคราแดงนี่ฆ่าคนมาเกินหมื่นคน แกพบพระสารีบุตรเข้า พระสารีบุตรท่านพูดเรื่องฆ่าคน ทีแรกพอกินข้าวเสร็จใช่ไหม ท่านก็เทศน์ เทศน์โทษปาณาติบาตเลย จะฆ่าคน ฆ่าปลา ฆ่าสัตว์ตกนรกขุมไหน ขุมไหน ก็ว่าเรื่อย

ตัมพทาฐิกโจร เหงื่อแตกพลั่ก พอเทศน์ไปถึงครึ่งกัณฑ์ พระสารีบุตรท่านฉลาด ท่านเทศน์ไปท่านชำเลืองดูไป เห็นตานั่นเหงื่อแตก ท่านหยุดถามโยม ไม่สบายหรือ โยมก็บอกสบายดีพระเจ้าครับท่าน พระคุณเจ้าเทศน์มานั้นผมเรียบร้อย ไม่ได้เหลือเลย (หัวเราะ) ท่านก็เลยถามว่าโยม โยมฆ่าคนตาย ใครเขาใช้ให้ฆ่า หรือฆ่าเอง บอกพระราชาใช้ให้ฆ่า

พระสารีบุตรท่านฉลาดกว่า ท่านก็ถามว่าโยม สมมุติว่าถ้าโยมเป็นลูกจ้างเขา นายจ้างเขามีนาร้อยไร่ เขาใช้ให้โยมทำ เมื่อได้ข้าวในนาเสร็จ ผลของนาน่ะข้าวทั้งหมดจะเป็นของโยมหรือเป็นของนายจ้าง โยมก็บอกว่าเป็นของนายจ้างครับ ท่านฉลาดกว่า ตัมพทาฐิกโจรโง่กว่า ท่านก็เลยถามว่า ถ้าอย่างนี้ที่พระราชาใช้ให้โยมฆ่าเป็นเพชฌฆาต บาปอยู่กับใคร อีตานั่นแกโง่ แกนึกว่าบาปตกอยู่กับพระราชา (หัวเราะ) พระสารีบุตรเลยเทศน์อานิสงส์ทาน เลยเป็นโสดาบันเดี๊ยวนั้น

ยกทรง : โอ้....จากเหงื่อแตก

หลวงพ่อ : ใช่ พอเหงื่อแห้งเป็นพระโสดาบันเลย (หัวเราะ) ไอ้เหงื่อแตกนั่นเป็นน้ำอาบชำระร่างกายให้สะอาด ชำระเข้าไปในจิตใจ ข้างในเลย เอาว่า่ต่อไป เดี๊ยวโม้หมดเวลา (หัวเราะ)

ที่มา
(จากสนทนาสายลม ในหนังสือรวมคำสอนธรรมปฏิบัติเล่ม 16 หน้า 257)

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...