16 เมษายน 2565

หลวงปู่วัย จัตตาลโย ศิษย์ในหลวงปู่เทพโลกอุดร

หลวงปู่วัย จัตตาลโย ศิษย์ในหลวงปู่เทพโลกอุดร
หลวงปู่เทพโลกอุดร
ท่านคือ 1 ในจำนวนพระภิกษุลึกลับนั้น เนื่องจากมีผู้ที่ได้สัมผัสกับตัวท่านมาหลายคน ทั้งพระภิกษุ อุบาสก - อุบาสิกา ครูบา และพระอริยสงฆ์
เชื่อไหมว่า มีผู้คนนับถือท่านมากมายนัก รู้จักกันในวงแคบ ซึ่งวงแคบเริ่มแผ่ออกทีละนิด ๆ ซึ่งผมก็เป็นคนหนึ่งได้ยินชื่อเสียงของท่านมานาน คล้าย ๆ กับในยุคปีปี 2532 ที่มีคนรู้จักเทพจตุคามกันในวงแคบ ๆ
ปัจจุบันมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระปฏิบัติ พระป่าหรือพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านออกมายอมรับว่า หลวงปู่เทพโลกอุดร มีตัวตนจริงและต่างก็เคยเป็นศิษย์หลวงปู่เทพโลกอุดรมาแล้วทั้งนั้น อาทิ หลวงพ่อจรัล ฐิติธมฺโม แห่งวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร(ละสังขารแล้ว) หลวงพ่อครูบาลุ่น วัดจันทาราม จ.เพชรบูรณ์(เคยเรียนวิชากับหลวงปู่ ฯ ที่ถ้ำวัวแดง) หลวงตาจี๊ด วัดวังขร จ.ชัยนาท(ละสังขารแล้วโดยสำเร็จเป็นอรหันต์ อัฐิเป็นสีนิลและชมพู)ฯลฯ

ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็มีหลวงปู่อยู่รูปหนึ่งที่ทราบกันว่าท่านเป็นศิษย์เคยเรียนธรรมะมาจาก หลวงปู่เทพโลกอุดร ในป่าลึก ปัจจุบันพระรูปนี้ท่านอายุ 104 ปีแล้ว มีชื่อว่าหลวงปู่กอง จันทวังโสจำวัดอยู่ที่วัดสระมณฑลท่านเป็นพระใจดียังแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วยและความจำยังดีมากไม่หลงลืมทั้งที่อายุท่านก็เลยไปถึงหลักร้อยแล้ว
วัดสระมณฑลเป็นวัดเล็กๆ ซึ่งถ้าใครได้ไปเห็นก็จะรับรู้ถึงความสมถะ รักสันโดษและความเรียบง่ายของหลวงปู่รูปนี้ ท่านอาศัยอยู่เฉพาะในโบสถ์ ภายในวัดก็ไม่มีกุฏิ ศาลาการเปรียญหรือวิหารใหญ่โตใดๆ เลย รอบๆ บริเวณเนื้อที่แคบๆ นี้มีเพียงโบสถ์หลังเล็กหลังเดียวตั้งอยู่และรายล้อมไปด้วยบ้านเรือนชาวบ้านที่มาอาศัยอยู่ชิดติดเขตวัด
หลวงปู่กอง จันทวังโสท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายอาชีพ ตั้งแต่ระดับชาวบ้านธรรมดาไปถึงชันรัฐมนตรี(ในรัฐบาลปัจจุบันก็มี) ต่างให้ความเคารพนับถือท่าน
“ป้ากวย ถนอมทรัพย์” หลานสาวของหลวงปู่มาช่วยดูแลเพราะพระที่เคยมาบวชและอยู่ดูแลหลวงปู่ก่อนหน้านี้ก็มรณภาพไปก่อนแล้ว

ป้ากวยได้บอกเล่าเรื่องราวของหลวงปู่กองให้ผู้เขียนฟังคร่าวๆ ว่า หลวงปู่กอง จันทวังโสเดิมท่านชื่อว่า กอง ถนอมทรัพย์ ท่านบวชและร่ำเรียนวิชามาสารพัดตั้งแต่รุ่นหนุ่ม ในสมัยที่ท่านออกบวชท่านชอบธุดงค์ไปตามป่าเขา ในดินแดนทุรกันดาร จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเดินพลัดตกเขาสลบไป ก็ปรากฏร่างของพระสงฆ์รูปหนึ่งมาช่วยไว้ หลวงปู่กองท่านเรียกพระรูปนั้นว่า “หลวงปู่ใหญ่” ซึ่งก็คือ หลวงปู่เทพโลกอุดร หลังจากนั้นหลวงปู่กองก็ได้ปฏิบัติทาง “จิต” และร่ำเรียนวิชาที่เป็นศาสตร์ลี้ลับจากหลวงปู่ใหญ่อีกมากมายหลายวิชา เมื่อสำเร็จแล้วจึงออกจากป่ามาจำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ และร่ำเรียนวิชาจากพระเกจิชื่อดังอีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่เทียม แห่งวัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา (อยู่ตรงข้ามไม่ไกลจากวัดสระมณฑ,ปหลวงปู่กองอยู่จำพรรษาที่วัดกษัตราฯ เป็นเวลานานกระทั่งเห็นว่าวัดสระมณฑลที่อยู่ไม่ไกลกันนี้เป็นวัดร้างไม่มีพระจำพรรษาอยู่ท่านจึงขอมาอยู่ที่นี่เพียงรูปเดียวกระทั่งปัจจุบันนี้
ภายในโบสถ์วัดสระมณฑลหลังนี้มีรูปหล่อของหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ใหญ่ที่หลวงปู่กองให้หล่อนขึ้นไว้บูชา ป้ากวยได้เล่าถึงอภินิหารของรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดรให้ฟังว่า เมื่อรูปหล่อหลวงปู่เทพฯมาถึงวัดขณะที่แดดกำลังเปรี้ยงแต่แล้วฟ้ากลับครึ้มและมีฝนตก แล้วเมื่อถึงเวลาจะยกเข้าประตูโบสถ์ ก็ปรากฏว่าทำยังไงก็ยกเข้าไม่ได้ เพราะองค์พระใหญ่กว่าประตูมาก จนหลวงปู่กองต้องบริกรรมคาถาอยู่ครู่ใหญ่จึงสามารถยกรูปหล่อหลวงปู่เทพฯเข้ามาได้ เป็นที่น่าอัศจรรย์
สำหรับ “ป้ากวย” เองก็เคยพบปาฏิหาริย์จาก “หลวงปู่เทพโลกอุดร” หรือ “หลวงปู่ใหญ่” ด้วยตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ป้ากวยได้เล่าให้ฟังว่า

“ก็มีอยู่วันนึงมีพระมาจากไหนก็ไม่รู้เข้ามาในโบสถ์นี่ มากราบหลวงปู่กองและก็บอกหลวงปู่กองว่าวันนี้ประมาณ 6 โมงจะมีพระรูปหนึ่งมากราบ พูดจบท่านก็ลากลับไป แล้วเมื่อถึงเวลานั้นก็มีพระมาจริงๆ แล้วหน้าตาก็เหมือนรูปปั้นนั่นไม่ผิดเพี้ยน (หมายถึงรูปหล่อหลวงปู่เทพโลกอุดร) เป็นพระหนุ่มนะ แล้วคืนนั้นท่านก็อยู่ค้างด้วย ป้าก็นอนกับญาติอีกคนข้างๆ ไม่ห่างจากพระองค์นี้ แต่น่าแปลกที่พอตกดึกป้าหันไปตรงที่ท่านนอน กลับไม่เห็นท่าน ก็นึกเอะใจแล้วพอหันไปไปดูอีกที เอ๊ะ...ท่านก็ยังนอนอยู่ตรงที่เดิมนี่ แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นก็คิดว่ายังไงๆ อยู่ พอตอนเช้าท่านจะลากลับ ก็เข้าไปกราบหลวงปู่กองและพูดบอกให้หลวงปู่กองมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อช่วยดำรงพระพุทธศาสนา แล้วท่านก็ลากลับ แต่ตอนนี่ท่านจะเดินออกจากประตูโบสถ์นี่สิ ป้าเห็นรูปร่างท่านเปลี่ยน จากรูปร่างคนธรรมดากลายเป็นตัวสูงจรดประตูโบสถ์ ทั้งที่ประตูโบสถ์ก็สูงแล้วนะ และสังเกตเห็นเท้าท่านใหญ่มาก พอท่านเดินออกไปปุ๊บป้าก็เดินตามไปชั่วพริบตา ไม่เห็นท่านเสียแล้ว ท่านมาแปลก เวลาจะไปก็ไปแปลก”

ยังมีเรื่องเล่าที่แปลกเกี่ยวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่ท่านสามารถแปลงกายให้เป็นอะไรก็ได้เช่นแปลงเป็นพระแก่ พระหนุ่ม สามเณร แขก คนชรา คนพิการ ฯลฯ แล้วบังเอิญได้ไปเห็นภาพถ่ายของพระหนุ่มรูปหนึ่งที่วัดสระมณฑล ทราบว่าภาพนั้นคือภาพของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่แปลงเป็น “พระหนุ่ม” ซึ่งมีผู้ที่ทราบและได้ถ่ายรูปไว้ เป็นที่ฮือฮามากสำหรับภาพดังกล่าว และก็เคยมีเรื่องเล่าว่าท่านเคยแปลงกายเป็นพระหนุ่มเพื่อโปรดผู้มีบุญที่นครปฐม
เรื่องนี้เล่ากันปากต่อปากที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่ามีคหบดีชาวนครปฐมคนหนึ่งได้จัดงานบวชลูกชายขึ้นเป็นงานใหญ่โต คนหบดีเศรษฐีคนนี้ปกติแล้วก็เป็นคนใจบุญสุนทาน ตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมอยู่เสมอ ในงานวันนั้นเศรษฐีได้นิมนต์พระมาสวดมนต์ 9 รูป แต่เมื่อถึงเวลามีพระไปได้เพียง 8 รูปทีนี้ก็เดือดร้อนต้องวิ่งหาพระกันยกใหญ่เพราะพระไม่ครบ ก็เผอิญในละแวกนั้นปรากฏว่าพระธุดงค์หนุ่มรูปหนึ่งมาปักกลดอยู่ใต้ต้นข่อย เจ้าภาพเศรษฐีก็เลยให้คนไปนิมนต์มา พระธุดงค์หนุ่มรูปนั้นก็รับนิมนต์มาในงาน เมื่อมาถึงท่านก็ก้าวเข้าไปนั่งประจำที่พระอาวุโสสุด ทำให้พระทั้ง 8 รูป ซึ่งอาวุโสกว่าไม่พอใจ เพราะเห็นว่าพระภิกษุรูปนี้หน้าตาและรูปร่างยังหนุ่มแน่น ไม่น่าจะมีพรรษามากนักเห็นจะเป็นประธานสงฆ์ในงานนี้ไม่ได้ พระรูปหนึ่งจึงได้ต่อว่าท่านในเชิงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้อาวุโสและยังพูดแดกดันอีกว่า เป็นพระจริงหรือพระปลอมก็ไม่รู้ มาจากไหนก็ไม่รู้พระหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ทันใดนั้นก็เกิดอาเพทขึ้น เกิดฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดปั่นป่วนไปหมด ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน ในขณะที่พระธุดงค์รูปนั้นนั่งสมาธิบริกรรมคาถาอยู่เพียงครู่เดียว ร่างของท่านก็เปลี่ยนไปเป็นพระภิกษุชรา เนื้อหนังย่น พระภิกษุและชาวบ้านที่อยู่ ณ ที่นั้นเมื่อได้ประจักษ์ในอิทธิฤทธิ์ของพระรูปนั้นก็ก้มกราบขอขมากันยกใหญ่ที่ได้ล่วงเกินไป แล้วพระธุดงค์รูปนั้นก็เนรมิตร่างให้เป็นหนุ่มตามเดิมและได้พูดคุยกับพระและญาติโยมเป็นปกติ มีผู้เล่าบางคนบอกว่าท่านได้บอกชื่อเสียงเรียงนามของท่านด้วยว่าท่านคือ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” แล้วเขายังเล่ากันอีกว่าวันนั้นท่านฉันภัตตาหารเพียงคำเดียว จากนั้นก็กล่าวลาญาติโยมหายไปจากที่นั่น และมีคนไปดูที่ที่ท่านปักกลดก็ไม่พบท่านอีกแล้ว

ในเรื่องการปรากฏตัวของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ในที่ต่างๆ เพื่ออะไรนั้นมีผู้รวบรวมไว้ 3 สาเหตุคือ
1. ปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ตกอยู่ในอันตรายตามบริเวณป่าเขา เช่นเคยช่วยทหารตำรวจตระเวณชายแดนหรือช่วยเหลือพระป่า พระธุดงค์รวมทั้งนักปฏิบัติธรรมที่เป็นฆราวาสที่ได้รับอันตรายขณะออกธุดงค์ตามป่าเขาถิ่นทุรกันดาร บางครั้งท่านก็ปรากฏตัวเพื่อรักษาคนที่กำลังเจ็บไข้ได้ป่วย จึงทำให้ทราบว่านอกจากท่านจะมีความเก่งกล้าในทางฤทธิ์อภิญญาแล้วท่านยังมีความรู้ เชี่ยวชาญในเรื่องแพทย์แผนโบราณ เรื่องการใช้ยาสมุนไพรด้วย ผู้ที่เคยเป็นศิษย์ของท่านทุกคนจะได้รับการสอนให้มีความรอบรู้ในเรื่องตัวยาสมุนไพรด้วย
2. ปรากฏตัวเพื่อช่วยชี้แนะหรือสั่งสอนวิชาคาถาอาคม และการฝึกปฏิบัติวิปัสสนา รวมทั้งเรื่องการแพทย์แผนโบราณ การใช้ยาสมุนไพร บางครั้งก็ปรากฏตัวเพื่อรับคนเป็นศิษย์ การปรากฏตัวแบบนี้มีทั้งปรากฏในนิมิตของศิษย์คนนั้นหรือปรากฏให้เห็นโดยตาเนื้อก็มี
3. ปรากฏตัวเพื่อมาโปรดสัตว์ การปรากฏตัวแบบนี้ก็มีบ่อยครั้งเช่นเคยปรากฏตัวเพื่อรับบิณฑบาตที่บ้านวังยาว อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หรือปรากฏตัวโปรดคนป่วยโรคมะเร็งก่อนเสียชีวิต ที่บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ ฯลฯ
1 ในศิษย์ของพระครูเทพโลกอุดร คือหลวงปู่วัย จัตตาลโย วัดเขาพนมยงค์ อ.หินกอง จ.สระบุรี และเป็นผู้ที่เคยถ่ายภาพพระครูเทพโลกอุดรเอาใว้เมื่อครั้งเดินทางไปหาที่ถ้ำ.... หลวงปู่เคยถามถึงที่มาที่ไปของพระครูเทพโลกอุดรกับตัวของพระครูท่านเอง ซึ่งคำตอบที่ได้พอสรุปได้ว่า
เดิมทีพระครูเทพโลกอุดร ท่านชื่อ คง หรือเรียกว่า หลวงพ่อคง หลวงปู่คง ท่านเกิดในเมืองอยุธยา ในยุคที่สุโขทัยยังเป็นราชธานี พระครูเทพโลกอุดรท่านเคยบอกว่า

" ข้าอายุเท่าไหร่ข้าไม่รู้ ข้ารู้แต่ว่าขณะที่เขาสร้างเมืองลพบุรีนั้นข้าเคยไปยืนดูคนเขาสร้างเมืองกันอยู่ "

( ประมาณว่าในยุคนั้นมีสุโขทัยเป็นราชธานี มีอยุธยา ลพบุรีเป็นเมืองหน้าด่าน ยุคก่อนที่พระเจ้าอู่ทองประฐมกษัตริย์อาณาจักรอยุธยาจะทรงตั้งราชวงศ์อู่ทองขึ้นมาปกครองอยุธยาเป็นคนแรก )
หลวงปู่วัย จัตตาลโย ท่านเล่าว่าท่านรู้จักพระครูเทพโลกอุดรมาตั่งแต่ท่านเป็นทหารหนุ่มที่ร่วมรบในสงครามอินโดจีน ในปี พ.ศ. 2482- 2483 สงครายุตติ พ.ศ. 2485 ตอนนั้นท่านเป็นผู้กองเสนารักษ์ อยู่ค่ายบูรพราเชียงตุง วันหนึ่งมีตะขาบยักษ์กว้าง 1 เมตร ยาว 4 เมตรเดินเข้ามาในค่าย จึงได้เดินตามไปเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง เจอพระภิกษุรูปหนึ่ง จึงได้พูดคุยสนทนากัน และหลวงปู่สมัยนั้นได้คอยนำภัตาหารอาหารมาถวายให้ฉัน ก่อนจากกันพระครูเทพโลกอุดรกล่าวว่า " ใว้พบกันใหม่เมื่อเธอบวช "
วันเวลาผ่านไป หลวงปู่วัยได้บวชจริง ๆ และหลวงปู่วัยกล่าวว่า ก็ได้เจอกันอีก เจอกี่ครั้งรูปร่างหน้าตาไม่เปลื่ยน

ท่านมีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่นหลวงพ่อโลกอุดร พระครูเทพโลกอุดร พระครูโลกอุดร หลวงปู่พระครูโลกอุดร หลวงปู่พระครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ใหญ่ และอีกหลายชื่อ

กรมหลวงเขตชุมพรอุดมศักดิ์ พระโอรสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ยังรู้จักพระครูเทพโลกอุดรและทรงได้เคยถ่ายภาพพระครุเทพโลกอุดรเอาใว้ในท่านั่งสมาธิ แต่เสียดายที่หารุปมาลงไม่ได้เพราะมีแต่ในหนังสือ

หลวงปู่วัย เล่าว่าพระครูเทพโลกอุดรท่านชอบไปจำอยู่ที่ถ้ำ ..... จังหวัด.... ซึ่งหากไปแล้วใช่ว่าจะได้พบ หากท่านไม่ต้องการให้พบ ท่านเคยพาศิษย์คนหนึ่งเดินทางลัดเลาะไปตามป่าเขาเพื่อไปหาพระครูเทพโกลอุดรในถ้ำ... ลูกศิษย์คนนั้นพอเจอพระครูท่านก็ คร่ำครวญถึงความยากจนของตัวเอง ที่ทำงานตัวเป็นเกลียวไม่รวยซักที ลำบากเหลือเกิน พระครูเทพโลกอุดรท่านก็เมตตาสงสาร บอกว่าให้ไปทำไม้เล็ก ๆ เท่ากล่องไม้ขีดมา พอได้มาท่านก็ปลุกเสกของท่าน และบอกว่า ขัดสนเงินทองให้จุดธูอธิฐาน ศิษย์คนนั้นก็ได้กล่องไม้มาก็เสกเงินเป็นว่าเล่น งานการไม่ทำ

ใช้ชีวิตสุรุ่ยสุหร่าย จนวันหนึ่งศิษย์คนนี้ไปจีบสาว จีบไปจีบมาเลยคุยโวโอ้อวดถึงกล่องไม้นี้ จนสาวบอกว่า " เสกกิ๊บทองคำให้หน่อย ถ้าได้จะยอมเป้นแฟน " ศิษย์คนนี้ก็จุดธูปเสกตามแบบ เจอกิ๊บติดผมทองคำในกล่อง แต่เอาออกไม่ได้ ทำไงดี " งัดซิ " มันงัดจนกล่องพัง กิ๊บติดผมหายไปกับตา
ศิษย์คนนี้เลยอ้อนวอนขอติดตามหลวงปู่วัยไปหาพระครูเทพโลกอุดรอีก หลวงปู่วัยก็เห็นว่าเคยไปแล้ว ก็เลยให้ไปด้วยอีก พอไปถึงมันก็อ้อนวอนขอกล่องไม้อีก พระครูท่านก็ถามว่าก่องเดิมไปไหนแล้ว
มันก็อ้างไปเรื่อยข้าง ๆ คู ๆ พระครูท่านก็ถอนหายใจเฮีอกแล้วบอกว่า " เอ้า.. ลูก ลูกพาเขามาแล้วก็พาเขาไปรักษาด้วยนะ "
พูดเสร้จขี้กลากขี้ทูดกินมันทันที หลวงปู่วัยต้องพาไปรักษาอยู่ 3 ปีถึงหาย พอหายแล้วก้ตัดขาดจากการเป็นศิษย์อาจารย์กันทันที

พระอาจารย์เกียน ทีฆายุโก วัดสว่างวัฒนา ตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พระเกจิของจังหวัดสกลนครได้เล่าถึงการพบพระครูเทพโลกอุดรอย่างน่าสนใจ

ในสมัยเด็กท่านบวชเป็นเณรได้ไปขึ้นไปเล่นตามประสาเด็กที่เทือกเขาภูพาน เข้าไปในป่า ได้เจอพระภิกษุปรักกรดอยู่ จึงได้เข้าไปถามไถ่ พระภิกษุรูปนั้นจึงได้ชวนมาปฏิบัติธรรมฝึกกษิณ ถ้าจะมาอีก 7 วันก็มา เณรจึงกลับมาอีก 7 วัน อยู่ฝึกกษิณและปฏิบัติธรรมจากท่าน ตอนเช้าเดินเข้าไปในป่าลึกเพื่อบิณฑบาตร แต่แปลก มีผู้คนในป่าจากไหนไม่รู้มาใส่บาตรทุกเช้าโดยที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่ในป่าลึกเลย

เวลาผ่านไปนานมาก เณรลาสึกและโตเป็นผู้ใหญ่ และได้กลับมาบวชอีกทีหนึ่ง จนลืมเรื่องนี้ไปเลย วันหนึ่งได้รับนิมนตร์จากคฤหัสท่านนหึ่งที่จังหวัดกาญจนบุรี และได้เจอรูปพระครูเทพโลกอุดรเข้าเลยตกใจ !!! ว่าพระภิกษุในภาพเราเคยเจอในป่าเมื่อตอนเป็นเด็ก ซึ่งเป็นภาพที่หลวงปู่วัยได้ทรงถ่ายเอาใว้แล้วแต่ก่อนโน้นแล้วมีการพิมพ์แจกแก่ญาติโยมในวงแคบ ๆ


ขอบคุณที่มา
http://board.palungjit.org/2930195-post140.html

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...