----------
"ชายเร่ร่อน" เดินเข้าไปในวัดจีนแห่งหนึ่ง
เห็น "พระประธาน" ประดิษฐานอยู่บนแท่นดอกบัว มีผู้มีจิตศรัธากราบไหว้มากมาย
เขารู้สึกอิจฉาอยากเป็นเช่น "พระประธาน" บ้าง เขาถาม"พระประธาน" ว่า.....
"ท่านโพธิสัตว์" ผมอยากขอแลกเปลี่ยนสถานะกับท่านสักครั้ง จะได้ไหมครับ ? .....
"โพธิสัตว์"
ได้แน่นอน แต่ต้องมีข้อแม้อย่างหนึ่งนะ....
"ชายเร่ร่อน" ข้อแม้อะไรมิทราบครับท่าน ?....
"โพธิสัตว์" แค่เจ้าไม่เอ่ยปากพูดเท่านั้น ไม่ว่าเจ้าจะเห็นอะไร เห็นคนประเภทไหน เห็นเรื่องอะไร เจ้าห้ามเอ่ยปากพูดเด็ดขาด ....
"ชายเร่ร่อน" เรื่องนี้ง่าย ไม่มีปัญหาครับ.....
"ชายเร่ร่อน" ขึ้นไปนั่งบนแท่นดอกบัวแทน "โพธิสัตว์" เขาได้เห็นความวุ่นวายที่ผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างมากราบไหว้ขออะไรมากมายไม่รู้จบ แต่เขาก็ไม่ยอมเปิดปากพูดตามที่รับปาก "โพธิสัตว์" ไว้..
วันหนึ่งมีเศรษฐีเข้ามาคนหนึ่ง...
"เศรษฐี"
ขอให้ท่าน "โพธิสัตว์" ช่วยประทานความสุขสมบูรณ์ให้ผมด้วย "กราบเสร็จ--ลุกขึ้น" กระเป๋าเงินพลันหล่นลงพื้น.... "ชายเร่ร่อน" (นั่งในฐานะของโพธิสัตว์) คิดจะเปิดปากทักให้ "เศรษฐี" รู้ตัว พอคิดได้ว่า "โพธิสัตว์" ห้ามเปิดปาก เขาหยุดคิดทันที.... "เศรษฐี" จากไปแล้วมีคน "ยากไร้" เข้ามาใหม่ ...."คนยากไร้" : ขอให้ท่าน "โพธิสัตว์" ประทานเงินทองให้ผมด้วยเถิด คนที่บ้านป่วยหนัก ต้องการเงินไปหาหมอ "กราบเสร็จ--ลุกขึ้น" พลันเขาเห็นกระเป๋าเงินเศรษฐีตกอยู่บนพื้น
."คนยากไร้"
โอ ท่านโพธิสัตว์ช่างศักดิ์สิทธิอะไรอย่างนี้ เขาหยิบกระเป๋าเงินได้แล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว...
"คนเร่ร่อน"
คิดจะเปิดปากพูดออกไปว่า เป็นกระเป๋าเงินของ คนอื่นนะ ไม่ใช่เรื่องศักดิ์สิทธิอะไรเลย
แต่พอคิดถึงคำพูดของ "โพธิสัตว์" เขาได้แต่หุบปากเงียบ ขณะนั้นได้มี "ชาวประมง" เข้ามาคนหนึ่ง "ชาวประมง" : ขอท่านโพธิสัตว์ประทานความปลอดภัยให้ผมด้วย ออกทะเลก็ขอให้ทะเลสงบอย่าได้มีคลื่นลมรบกวนเลยครับ
"ก้มลงกราบ --ลุกขึ้น" พอจะเดินออกไป
พลันปรากฎ "เศรษฐี" วิ่งพรวดพราดเข้ามาจับตัวใว้แน่น เพราะสาเหตุของเรื่องกระเป๋าเงิน
ทั้ง 2 คนถึงกับลงไม้ลงมือกันยกใหญ่ ฝ่าย
"เศรษฐี" หาว่า "ชาวประมง" เอาไปแต่ชาวประมงบอกว่าเศรษฐีใส่ร้าย....
"ชายเร่ร่อน" เริ่มทนไม่ไหว เปิดปากตะโกนเสียงดังออกไปว่า : "หยุดเดี๋ยวนี้นะ"...เสร็จแล้วอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งคู่รู้
ฉากความวุ่นวายสงบลงแล้ว "ชาวประมง" รีบกลับไปออกเรือแล้ว ส่วน "เศรษฐี" ก็รีบออกไปหาคน "ยากไร้" คิดบัญชีแล้วเช่นกัน.....
"เจ้าคิดว่ากำลังผดุงความยุติธรรมหรือ?" "โพธิสัตว์" ถาม "ชายเร่ร่อน" ในเมื่อเจ้ารับปากแล้วว่าจะไม่เปิดปากพูด และเจ้ารู้ไหมว่า ?
เราแอบปกปักษ์รักษาคุ้มครองพวกเขาอยู่
เพราะว่าลมพายุกำลังมา เรือของชาวประมงจะจม เราให้ "เศรษฐี" กับ "ชาวประมง" ทะเลาะตบตีกันจนบาดเจ็บ เพื่อประวิงเวลาไม่ให้เขาออกเรือไป เจ้ายังไม่มีบารมีมากพอ พูดมากก็เสียหายมาก เจ้ารู้ตัวบ้างหรือไม่? !..
"โพธิสัตว์" ยังกล่าวอีกว่า เจ้าเอ่ยปากเพราะคิดว่าตัวเองยุติธรรมที่สุด ? เพราะสาเหตุนี้ "คนยากไร้" จึงไม่ได้เงินไปรักษาคนป่วยในครอบครัว, ส่วน"เศรษฐี"เสียโอกาสในการสร้างบุญกุศล.... "ชาวประมง" ออกทะเลเจอพายุ ต้องฝังร่างในทะเลลึก ...
"หากเจ้าไม่เอ่ยปาก" คนยากไร้" ก็ไม่ต้องเสียญาติไปเพราะขาดเงินรักษา "เศรษฐี"แค่เสียเงินไปเพียงเล็กน้อย แต่ได้ช่วยชีวิตคนอื่น ได้สะสมบุญกุศลให้ตัวเองมากขึ้น ถ้าชาวประมงทะเลาะกับเศรษฐีจนบาดเจ็บ ไม่สามารถออกเรือได้
ก็เท่ากับหลีกเลี่ยงเคราะห์กรรมครั้งนี้ได้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตาย , .... "ชายเร่ร่อน" ฟังแล้วให้รู้สึกอับอายยิ่งนัก ก้มหน้าเดินออกจากวัดไปเงียบๆ.........
#มีเรื่องมากมายที่ควรเป็นอย่างไร ก็ต้องให้เป็นไปอย่างนั้น หากปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ผลรับอาจจะกลับดีกว่ามากมายนัก แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า แต่ใครจะรู้ได้ว่า ท้ายสุดจะลงเอยเช่นใด ? ... ความสงบนิ่ง คือพลังงานชนิดหนึ่ง การไม่ฝืนธรรมชาติ ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง***
BL 美丽日报
แปล และเรียบเรียง โดย เจงเอี่ยม แซ่อึ้ง
黄振炎 11/2/2019
เรื่องแปล....จาก 美丽日报 Beauties of Life....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น