16 เมษายน 2565

สภาวะพระนิพพาน

ใจความในหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน (ชุดเก่า) 
เล่าเรื่องโดยหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ) ตอนหนึ่งว่า ....
เมื่อเห็นทางสวยระรื่นฉันก็เดินไป เดินไปแล้วก็ไปเข้าวัด ๆ หนึ่ง ซึ่งกำแพงก็เป็นแก้ว คล้าย ๆ แก้วผสมทอง แลดูเหลืองเลื่อมอร่าม พื้นที่ก็เหมือนแก้วผสมทอง ไปดูก็เจอะหอระฆังหลังหนึ่ง แต่ว่ามีกุฏิอยู่ ๓ หลังแต่ว่าไม่เหมือนกุฏิ แต่มันสวยเหลือเกิน มียอดระยิบระยับแพรวพราว แต่ละหลังสวยงามมาก มองเท่าไรก็สวยงาม แต่ฉันรู้สึกว่าอ่อนเพลียมาก ไปอย่างคนไม่มีแรง

เมื่อไปถึงที่ตรงนั้นแล้วก็เลยนั่งพักอยู่ที่หอระฆัง รู้สึกว่าอากาศมันเย็นสบาย ก็เลยเอนกายลงนอน เมื่อนอนลงไปแล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เห็นพระองค์หนึ่งมีฉัพพรรณรังสีรัศมีทั้ง ๖ ประการผ่องใส เดินมาทางด้านทิศตะวันออก พอถึงกำแพง ท่านไม่ได้ลอดประตู พอถึงกำแพง กำแพงมันแยกออกไป เปิดเป็นช่องให้ท่านเดินเข้ามา เมื่อท่านเดินเลยมาแล้ว กำแพงมันก็ติดกันเข้าไป ท่านก็เดินตรงมาหาฉัน

ฉันรู้เลยทีเดียวว่าองค์นี้คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าพระพุทธเจ้าเห็นแล้วย่อมไม่เหมือนใคร มีรัศมีทั้ง ๖ ประการ พวยพุ่งจากพระวรกาย พระอื่นไม่มี ท่านเดินเข้ามาหาฉัน ฉันก็เลยลุกจากที่นอน มานั่งพื้นข้างล่าง ท่านก็นั่งไปบนเชิงของหอระฆัง หน้าบริเวณที่อยู่ แล้วพระองค์ตรัสว่า

สัมพเกษี รู้ไหมว่าที่นี่เขาเรียกว่าอะไร
ฉันบอกว่า ฉันไม่รู้
ท่านบอกว่า สัมพเกษี รู้ไหมว่าสถานที่นี้เป็นที่ของใคร
ฉันก็บอกว่าฉันไม่รู้
ท่านก็เลยบอกว่า สัมพเกษี ที่นี่เป็นที่ของเธอ ( ความจริงไม่มีคนเลย ฉันขึ้นไปเงียบหาคนไม่ได้ ) เพราะอาศัยบุญบารมีที่เธอถวายวิหารทานไว้ในพระพุทธศาสนา สร้างกุฏิวิหารการเปรียญ นี่เป็นผลให้สถานที่ในที่นี้บังเกิดขึ้น
จึงได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า ที่นี่เขาเรียกว่าอะไรพระพุทธเจ้าค่ะ

พระองค์ทรงตอบว่า ที่นี่เขาเรียกกันว่านิพพาน พอท่านตอบว่าที่นี่เป็นพระนิพพาน ฉันตกใจมาก เพราะตามที่ฉันเรียนมาแล้วนั้น ครูบาอาจารย์สอนว่าพระนิพพานไม่มีสภาพ ไม่มีที่อยู่ ไม่มีรูปร่าง ไม่มีอัตภาพใด ๆ มีสภาพเหมือนควันไฟที่ลอยไปบนอากาศ จะไม่ปรากฏรูปร่างใด ๆ เลย

ท่านบอกว่าถ้ายังมีความเกิดอยู่แล้ว ความทุกข์มันย่อมปรากฏ อันนี้เป็นการเข้าใจผิดของคนสอน หรือตำราที่ท่านเรียนมา หรือครูที่สอนท่านมา ฉันไม่โทษครูฉัน เพราะครูที่สอนนักธรรมให้แก่ฉัน ท่านไม่ได้อะไร แม้แต่ฌานโลกีย์ท่านก็ไม่ได้ เขาสอนกันมาอย่างไร ท่านจำมาได้ ท่านก็ว่าไปตามนั้น จะไปโทษครูไม่ได้

เมื่อเป็นอย่างนี้ เมื่อฉันได้ฟังท่านบอกว่าที่นี่เป็นนิพพานฉันก็ตกใจ ก็ทูลถามว่า ภันเต ภควา ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญพระพุทธ เจ้าค่ะ เขากล่าวกันว่าพระนิพพานย่อมไม่ปรากฏรูปร่าง พระนิพพานย่อมไม่ปรากฏสถานที่ ข้าพระพุทธเจ้ามาพบอย่างนี้แล้ว ข้าพระพุทธเจ้ารู้สึกแปลกใจว่าคำสอนเหล่านั้น ไม่เป็นการผิดหรือพระพุทธเจ้าค่ะ

พระองค์ก็ตรัสว่า สัมพเกษีเธอพบนิพพานแล้วไม่ใช่หรือ
ก็ตอบว่า พบแล้วพระเจ้าค่ะ
แล้วทำไมมาถามตถาคตอีก ก็สถานที่นี้เป็นนิพพาน วิมานที่อยู่นี้เป็นวิมานของเธอ เธอคงจะมองเห็นว่าไม่มีใครอยู่เลย เป็นวิมานที่เงียบสงัด นี่แหละเป็นสมบัติของเธอ ถ้าเธอละอัตภาพจากความเป็นมนุษย์เมื่อไหร่ เธอจะถึงนิพพานนี้ได้ทันที

เมื่อฉันฟังอย่างนั้นก็ปลื้มใจ แต่ก็นึกไม่ออกว่าฉันจะไปนิพพานได้อย่างไร เวลานั้นกำลังใจของฉันไม่มีจริง ๆ มันรู้สึกอิดโรย ทั้งนี้ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะวิปัสสนาญาณยังอ่อน ความจริงฉันคิดไม่ออกว่าฉันเจริญวิปัสสนาญาณเมื่อไร เพราะขณะที่เรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อปาน หลวงพ่อปานบอกจะสอนวิปัสสนาญาณให้

แต่ฉันบอกว่าฉันต้องการแต่เพียงฌานโลกีย์ ทั้งนี้เพราะว่าฉันคิดว่าวิปัสสนาญาณเป็นของยาก ฉันเจริญไม่ไหว แต่ว่าหลวงพ่อปานท่านก็สอนสมถะควบวิปัสสนา คือทำจิตให้เป็นสมาธิแล้วให้ปลงสังขารไปด้วย ฉันก็เข้าใจว่าเป็นสมถะล้วน ๆ แต่ความจริงเป็นวิปัสสนาญาณด้วย ฉันไม่เข้าใจ นี่เป็นความฉลาดของครูบาอาจารย์ของฉัน

ในเมื่อท่านเห็นฉันโง่ ท่านก็เลยใช้ความฉลาดของท่านสอนฉัน เอาวิปัสสนาเป็นสมถะไปในตัวเสร็จ นี่ถ้าหากฉันไปได้ครูโง่กว่านี้ ฉันอาจจะไม่มีความดีได้ขนาดนั้น ไม่มีโอกาสจะได้เห็นนิพพาน ป่านนี้ฉันก็คงจะโง่ตามคนที่เคยบอกเล่าเก้าสิบฉัน และคนที่กำลังพูดอยู่ สมัยนี้คนพูดถึงนิพพานว่าเป็นสภาพสูญยังมีอีกเยอะ แต่ว่าฉันก็ไม่ว่าเขาโง่ เพราะเขายังไม่ได้เห็น แต่คนไหนที่เห็นแล้ว ไม่มีใครพูดหรอกว่านิพพานมีสภาพสูญ

เอาละเรื่องอื่นจะยกไว้ จะขอพูดถึงเรื่องราวที่สนทนากับพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ทรงชี้ให้ดูแล้วว่าสภาพพระนิพพานและสถานที่นั้นเป็นที่อยู่ของฉัน ฉันมองไปรอบ ๆ มันมีของสวยสดงดงาม มีบริเวณปราสาทใหญ่ วิมานใหญ่อยู่ถึง ๓ หลัง แล้วมองไปทางด้านทิศตะวันออก เห็นมีต้นไม้ต้นหนึ่ง แต่ก็แพรวพราวไปด้วยแก้ว ไม่เหมือนกับต้นไม้ธรรมดา ระยิบระยับสวยงามมาก มีแท่นใต้ต้นไม้นั้นแถมมีสระโบกขรณีสวยสดงดงาม นํ้าก็แพรวพราว มองไปด้านรอบ ๆ ยังไม่เห็นมีอะไร

องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงทรงมีพระพุทธฎีกาตรัสว่า สัมพเกษี พอใจไหม อาคารอย่างนี้
ก็บอกท่านว่า พอใจพระพุทธเจ้าค่ะเป็นสถานที่ที่มีความสุขมาก

--------------------------------------------------
จากหนังสือ : ประวัติหลวงพ่อปาน (ชุดเก่า)
ที่มา : tinyurl.com/qctycxm

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...