18 ตุลาคม 2566

อภิญญา๖

อภิญญา๖
อภิญญา คือ ความรู้ยิ่ง ความรู้ชั้นสูง มี ๖ อย่างคือ
 ๑. อิทธิวิธีแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
 ๒. ทิพพโสต หูทิพย์
 ๓. เจโตปริยญาณ ญาณที่กำหนดรู้ใจคนอื่นได้
๔. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ทำให้ระลึกชาติได้
๕. ทิพพจักขุ ตาทิพย์
๖. อาสวักขยญาณ ญาณที่ทำให้อาสวะสิ้นไป

☆ คำว่า "อภิญญา๖" กับ "ฤทธิ์๑๐" จึงมีทั้งที่เหมือนกันและแตกต่างกันอาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือสับสน กล่าวคือ 
☆ อิทธิวิธีข้อ๑ การแสดงฤทธิ์ได้ เป็นฤทธิ์ตามข้อ๑-๓ และข้อ๕ในฤทธิ์ ๑๐ ประการ ฤทธิ์ดังกล่าวอาจมีในศาสนาอื่น ลัทธิอื่นด้วย 
และหลายๆอย่าง พระพุทธองค์ห้ามแสดงบ้าง ห้ามโอ้อวดบ้าง ต้องอาบัติ
ทุกกฏ(อาบัติเบาแก้ไขได้)
☆ อิทธิวิธีข้อ๔ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ (ระลึกชาติได้) แม้บุคคลธรรมดาบางคนก็อาจมีได้เองโดยไม่ได้ฝึกหรือปฏิบัติ
 ☆ อิทธิวิธีข้อ๖ อาสวักขยญาณ ญาณที่ทำให้อาสวะสิ้นไป มีเฉพาะพระพุทธศาสนาเท่านั้น

☆ คำว่า"อภิญญา" นิยมใช้ในพระพุทธศาสนามากกว่าคำว่า"ฤทธิ์" ที่นิยมใช้กันทั่วไป

☆ ฤทธิ์ ๑๐ อย่าง คือ 
๑. ฤทธิ์ที่อธิษฐาน 
๒. ฤทธิ์ที่แสดงได้ต่างๆ 
๓. ฤทธิ์ที่สำเร็จด้วยใจ 
๔. ฤทธิ์ที่แผ่ไปด้วยญาณ 
๕. ฤทธิ์ที่แผ่ไปด้วยสมาธิ 
๖. ฤทธิ์ของพระอริยะ 
๗. ฤทธิ์ที่เกิดจากผลกรรม 
๘. ฤทธิ์ของท่านผู้มีบุญ 
๙. ฤทธิ์ที่สำเร็จมาจากวิชชา 
๑๐. ชื่อว่าฤทธิ์ เพราะมีสภาวะสำเร็จด้วยการประกอบโดยชอบในส่วนนั้นๆ เป็นปัจจัย.

☆ฤทธิ์ที่อธิษฐาน เป็นอย่างไร? คือ แสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง เช่น 
- คนเดียวแสดงเป็นหลายคนก็ได้ - หลายคนแสดงเป็นคนเดียวก็ได้ - แสดงให้ปรากฏก็ได้ 
- แสดงให้หายไปก็ได้ 
- ทะลุฝา กำแพง ภูเขา ไปได้ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ 
- ผุดขึ้นดำลงในแผ่นดินเหมือน ดำลงในน้ำก็ได้ 
- เดินไปบนน้ำโดยน้ำไม่แยกเหมือนเดินไปบนแผ่นดินก็ได้
- เหาะไปในอากาศเหมือนนกบินไปก็ได้ 
- ใช้อำนาจทางกายไปจนถึงพรหมโลกก็ได้ 

*คำว่า ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกได้ อธิบายว่า ท่านผู้มีฤทธิ์ ถึงความชำนาญแห่งจิตนั้น ถ้าประสงค์จะไปยังพรหมโลก ก็อธิษฐานที่ไกลให้เป็นที่ ใกล้ว่า “จงเป็นที่ใกล้” ก็เป็นที่ใกล้ได้ อธิษฐานที่ใกล้ให้เป็นที่ไกลว่า “จงเป็นที่ไกล” ก็เป็นที่ไกลได้ฯ อธิษฐานของมากให้เป็นของน้อยว่า “จงเป็นของน้อย” ก็เป็นของ น้อยได้ อธิษฐานของน้อยให้เป็นของมากว่า “จงเป็นของมาก” ก็เป็นของมากได้ ย่อมเห็นรูปพรหมนั้นได้ด้วยทิพพจักขุ ย่อมฟังเสียงพรหมนั้นได้ด้วยทิพพโสตธาตุ ย่อมรู้จิตของพรหมนั้นได้ด้วยเจโตปริยญาณ ถ้าท่านผู้มีฤทธิ์ถึงความชำนาญแห่งจิตนั้น 

☆☆☆ ประสงค์จะไปยังพรหมโลกด้วยกายที่ปรากฏ ก็น้อมจิตอธิษฐานด้วยอำนาจกาย ครั้นหยั่งลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญาแล้วก็ไปยังพรหมโลกได้ด้วยกายที่ปรากฏอยู่ ถ้าท่านผู้มีฤทธิ์ถึงความชำนาญแห่งจิตนั้นประสงค์จะไปยังพรหมโลกด้วยกายที่ไม่ ปรากฏ ก็น้อมกายอธิษฐานด้วยอำนาจจิต ครั้นหยั่งลงสู่สุขสัญญาและลหุสัญญา แล้วก็ไปยังพรหมโลกได้ด้วยกายที่ไม่ปรากฏ ท่านผู้มีฤทธิ์เนรมิตรูปที่สำเร็จด้วยใจ มีอวัยวะครบทุกส่วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่องไว้ข้างหน้าของพรหมนั้นฯ นี้คือฤทธิที่อธิษฐาน

ฤทธิ์ที่สำเร็จด้วยใจ เป็นอย่างไร? คือ การเนรมิตกายอื่นจากกายนี้มีรูปสำเร็จด้วยใจ มีอวัยวะ ครบทุกส่วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง เปรียบเหมือนบุรุษชักไส้ออกจากหญ้าปล้อง เขาพึงมีความหมายรู้อย่างนี้ว่า “นี้หญ้าปล้อง นี้ไส้ หญ้าปล้องเป็นอย่างหนึ่ง ไส้ ก็เป็นอย่างหนึ่ง แต่ไส้ก็ชักออกจากหญ้าปล้องนั่นเอง”ฯ แล้วเนรมิตกายอื่นนอกจากกายนี้มีรูปสำเร็จด้วยใจ มีอวัยวะครบทุกส่วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง นี้ฤทธิ์ที่สำเร็จด้วยใจ.
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
สาธุอนุโมทามิ

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...