**หลวงพ่อฤาษี**
**ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ**หลวงพ่อธุดงค์ ตอนไปพักที่ดงพระยาเย็น
เมื่อปักกลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งกรรมฐานกัน อาบน้ำเสร็จ ก็นั่งกรรมฐานกัน **พอนั่งกรรมฐานกันเรียบร้อยดี ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็รู้สึกว่า มีคนจำนวนมากแบกปืนมา เป็นปืนเล็กยาวของทหาร แต่งตัวเหมือนทหารทุกคน มาเป็นจำนวนร้อย มาด้วยกัน ทั้งสองฝ่าย** ฝ่ายทางเหนือก็มา ฝ่ายใต้ก็มา มาถึงเข้า ต่างคนต่างปะทะกัน ยิงกันขนาดหนัก และหูเราก็ได้ยินเสียงเป็นขนาดหนัก แต่ก็ไม่ตกใจ ถือว่า ภาพ ก็คือ ภาพ เราจะห้ามภาพไม่ให้เกิดไม่ได้
ในเมื่อเขาอยากจะยิง ก็ยิงกัน ก็ถือว่า โลกนี้เป็นของธรรมดา ก็นึกในใจเวลานั้น ตามแบบฉบับกรรมฐาน (ตามแบบฉบับกรรมฐานมี 2 อย่าง คือ มีอารมณ์ทรงตัว กับอารมณ์คิด) ก็มีการใคร่ครวญว่า การเกิดเป็นคนนี่มันไม่ดี คนทั้งสองฝ่าย ที่ยิงกันเวลานี้ไม่รู้จักกันเลย ไม่เคยรู้จักกัน ไม่เคยโกรธเคืองกันมาก่อน ต่างฝ่ายก็ต่างมายิงกัน ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และก็มีการล้มตายกันหลายคน
ในที่สุด ภาพนั้นก็หายไป (กว่าภาพจะหายไป บรรดาท่านพุทธบริษัท เวลาก็เกือบจะตีสอง) ในเมื่อภาพนั้นหายไปเรียบร้อยแล้ว ก็ปรากฏภาพ เป็นภาพอีกภาพหนึ่ง เป็นภาพคนเจ็บ คนตาย เดินเข้ามาหา ก็ถามว่า พวกเธอทำไมถึงยิงกัน เขาก็บอกว่า เพราะเขาสั่งให้ยิง ถามว่า ใครสั่งให้ยิง คนหนึ่งบอก ผู้บังคับหมู่สั่งให้ยิงครับ อีกคนหนึ่งบอก ผู้บังคับกองสั่งให้ยิงครับ ถามว่า ยิงกันทำไม เขาก็บอกว่า อาศัยในการรบ
**เมื่อสมัย พ.ศ.2476 ถาม พวกเธอตายไปหลายปีแล้วนี่ ยังไม่ไปไหนหรือ เขาบอก พวกผมเป็น สัมภเวสี ครับ** ถามเวลานี้ เธอมาทำไม บอก มาขอส่วนบุญ ขอส่วนบุญแล้ว ทำไมต้องทำท่าแขนร่องแร่งกันบ้าง แผลเลือด ไหลบ้าง อะไรบ้าง
เธอก็บอกว่า ในลักษณะการตายของผม ผมตายแบบนี้ครับ บางคนก็หูขาด บางคนก็ตาทะลุไปข้างหนึ่ง ลูกปืนเข้าลูกตา บางคนก็ขาเป๋ ขาโขยกเขยก ถูกยิงขาบ้าง ถูกยิงแขนบ้าง ถูกยิงตามตัวบ้าง นึกสังเวชสลดใจ ก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เธอต้องการ บุญอะไร เท่าที่ฉันมีอยู่นี่ ฉันไม่ปิด ฉันไม่ขัดข้อง ให้หมดทุกอย่าง
เขาบอก เอาอย่างนี้ก็แล้วกันครับ **บุญใดที่ท่านบำเพ็ญมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน จะพึงมีผลแก่ท่านเพียงใด ผมขอโมทนาบุญนั้นครับ** บอก เออ.. ถ้าอย่างนั้นก็สบาย ง่าย ๆ สั้น ดีนะ ก็บอกว่า เธอจงตั้งใจนะ เขาก็นั่งพนมมือ ก็อธิษฐานใจว่า **ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทำมาแล้ว ตั้งแต่ชาติอดีต ชาติต้นที่ทำบุญ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ สะสมตัวกันมากแล้วเพียงใดนี้ จะพึงให้ประโยชน์ความสุขกับข้าพเจ้าเพียงใด ขอบุญนี้ จงได้แก่พวกเธอทั้งหลายเหล่านั้นทั้งหมด ขอเธอจงโมทนา**
เธอก็โมทนา **เธอกราบไปครั้งหนึ่ง รูปร่างก็เหมือนเดิม กราบเป็นครั้งที่สอง รูปร่างก็เหมือนเดิม กราบเป็นครั้งที่สาม รูปร่างเป็นเทวดาหมด **ปรากฏว่าที่เป็นเทวดาเวลานั้น ประมาณ 60 คน ก็เป็นเทวดาทั้งหมด แต่ว่าเทวดาพวกนั้น ท่านก็แน่เหมือนกัน เมื่อเป็นเทวดาแล้ว สภาพต่าง ๆ ก็ค่อยหายไป (คือเป็นภาพเดิม) ย่องไปอีกสองกลด ไปขอตามเดิม เขาก็ให้เหมือนกัน เป็นอันว่า ยิ่งให้ก็ยิ่งสวยขึ้น ๆ ถึงกลดที่สาม สวยสดงดงามมาก
นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ที่ใครเขาบอก ตายแล้วสูญ ๆ นี่มันก็ต้องสงสัยเหมือนกัน เป็นอันว่า กว่าจะหมดเวลาจริง ๆ หยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเป็นเวลาตี 4 ทุกคนก็ออกจากกลด มานั่งพบกัน เล่าความเป็นมา ก็เหมือนกันหมด ทั้งสององค์ก็บอก ก่อนที่เขาจะมาหาท่าน ผมก็เห็นว่าเขายิงกัน แล้วเขาก็มาหาท่าน และในที่สุดเขาหามาผม และไปหาอีกองค์หนึ่ง ก็รวมความว่า เขาขอบุญทั้ง 3 องค์ คือ ตาคนนี้ได้กำไรมาก นั่งคิดดูอีกที ก็น่าคิดเหมือนกัน
บรรดาท่านพุทธบริษัท **ปัตตานุโมทนามัย นี่แหละ บรรดาญาติโยมทั้งหลาย จงอย่าทิ้ง การโมทนาความดีของคน คนที่เขาทำความดี ที่เขาใส่บาตรก็ดี เขาให้ทานก็ดี เขารักษาศีลก็ดี เขาฟังเทศน์ก็ดี เขาเจริญกรรมฐานก็ตาม เขาทำงานก่อสร้างก็ตาม ขึ้นชื่อเป็นความดี ถึงแม้ว่าเป็นความดีที่ทำกับพ่อกับแม่ ที่เขามีความกตัญญูรู้คุณเราพลอยยินดีกับเขา ความดีนั้นก็สนองตัวเรา ดูตัวอย่างเทวดาทั้ง 60 คน**
อาตมามานั่งคิดว่า แกได้เปรียบกว่าเราเสียอีก เขาเอาอาตมาไปหมดทุน และขออีก 2 องค์ อีกองค์ละหมดทุน แกได้สามหมดทุน ก็ลืมถามว่า เป็นเทวดาชั้นไหน และก่อนจะไปแกหันกลับมาบอกว่า ผมขอลาละครับ เมื่อกี้ลืมลาไป ไปขออีก 2 องค์
เป็นอันว่า ทั้ง 3 องค์ก็คุยกัน คุยไปคุยมา ก็เวลาใกล้สว่าง ก็เป็นอันว่า คืนนั้นไม่ได้นอนกัน นั่งกรรมฐานคุยกับผีให้ผลกับผี เวลาใกล้สว่าง ก็ปล่อยให้สว่าง นั่งคุยกันประเดี๋ยวหนึ่งนั่งทำจิตสงบ เลิกคุยกัน ทำกรรมฐานอีกนิดหนึ่ง นั่งให้ใจสบาย ๆ พออารมณ์สบาย ๆ จิตสงบดีแล้ว ปรากฏว่าหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นใหม่ ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา ลืมตาพร้อมกัน ถอนกรรมฐานพร้อมกัน
**คิดว่าจะไปบิณฑบาตทางไหน ก็เห็นบรรดาเทวดาทั้ง 60 องค์ ท่านมาในภาพเทวดาเลย ท่านมาถึงกราบ ๆ ท่านบอกว่า ท่านขอรับ ไม่ต้องไปบิณฑบาตที่ไหน พวกผมได้รับผลบุญ ความดีจากท่าน มีความสุข เดิมทีเดียวผมมีความทุกข์มาก ผมตายเป็นสัมภเวสี** การรบราฆ่าฟันนี่เป็นของไม่ดี แต่จำเป็นจะต้องรบ เพราะเราอยู่ใต้บังคับบัญชา เลยถามว่า เท่าที่มากัน เมื่อคืนนี้ มาฝ่ายเดียวหรือสองฝ่าย บอก มาทั้งสองฝ่ายครับ ต่างคนต่างตาย ต่างคนก็ต่างมา ถามว่า ตายเวลานั้นจริง ๆ เท่าไร ท่านบอกว่า เห็นจะเป็นร้อยคน เพราะต้องปะทะกันมาก แต่ก็บางส่วนเขาไปที่อื่น แต่พวกผมทราบว่าท่านจะมา ผมเลยดักอยู่ที่นี่
ก็ถามว่า วันนี้มีอะไรมาถวายบ้างล่ะ บอก มีข้าวมาถวายครับ **ต่างคน ไม่มีขันทองคำ มีเป็นขันแก้ว สวยมาก แพรวพราวเป็นระยับ ตักข้าวใส่บาตรใส่ทั้ง 60 คน แต่บาตรไม่เต็มได้ประมาณครึ่งบาตร เวลาใส่ก็เต็มทัพพี**ตักเต็มที่ใส่เต็มที่ เมื่อใส่เสร็จ พวกแกก็นั่งอยู่ที่นั่น (มาเต็มอัตราของเทวดานะ มีชฎาแหลมเปี๊ยบ สดชื่นมาก แต่ว่าขาดนางฟ้า ที่ขาดนางฟ้า เพราะว่าการรบกับ เขาไม่ได้เอาผู้หญิงไปรบด้วย)
ฉะนั้นเมื่อเธอใส่บาตรเสร็จ พวกเราก็ฉัน ฉันเสร็จก็โมทนา เมื่อโมทนา เธอทั้งหลายก็ตั้งใจรับโมทนาอีกครั้งหนึ่ง บรรดาท่านพุทธบริษัท พอโมทนาจบ ภาพเทวดาทั้งหลายเหล่านั้นผ่องใสกว่าเดิมขึ้นมาก มีแสงสว่างขึ้นมาก
**ท่านก็เลยบอกว่า นิมนต์อยู่ที่นี่ 3 คืนครับ **ผมขอรับเลี้ยง ถามถึงอันตราย บอกไม่มีครับ ไม่มีแน่นอน พวกผมทั้ง 60 นี่ขอยืนยันว่า จะไม่มีอันตราย พอดีท่านอินทกะก็โผล่ ท่านอินทกะ ท่านก็บอกว่าพวกนี้เขาจะป้องกันได้ดีครับ เพราะเขาเป็นลูกน้องผม เมื่อเขาเป็นสัมภเวสีอยู่ เขาก็เป็นลูกน้องผม ในเมื่อผมมา เขาก็มากับผม แต่เขาไม่ให้ท่านเห็น เวลานี้เขาเป็นเทวดาแล้ว เขามีอานุภาพมากขึ้น เขาก็ต้องเลี้ยงชดใช้ท่านบ้าง แล้วก็ต้องติดตามท่านไปด้วย ในเมื่อผมไป เขาก็ต้องไปด้วย ก็ถามเทวดาองค์นั้น ถามว่า ไปไหม ท่านบอกว่า ไป
ข้อมูลจาก #หลวงพ่อธุดงค์ ตอนไปพักที่ดงพระยาเย็น โดย หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร
#รวมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์11 #หลวงพ่อฤาษี6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น