"... ท่านเคยเล่าประสบการณ์ การเดินธุดงค์
ไปกราบนมัสการ พระพุทธบาทสี่รอย ให้พระศิษย์ฟัง และท่านได้ยืนยันรับรอง...!!
**รอยพระพุทธบาทดังกล่าวว่า “เป็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยของพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ ในมหาภัทรกัปนี้จริง และเป็นสัญลักษณ์แห่งมหาภัทรกัปที่สำคัญสูงสุดในจักรวาล**”
ทำให้พระศิษย์เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ใคร่อยากจะเดินธุดงค์ไปกราบนมัสการบ้าง
รอยพระพุทธบาทสี่รอยนี้ประดิษฐานอยู่ที่
วัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ สมัยก่อนนั้นสภาพ
เป็นป่าเป็นเขา ต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ เส้นทางค่อนข้าง ห่างไกลและทุรกันดาร เป็นสถานที่วิเวกเงียบสงัด มีอากาศหนาวเย็นมาก
**[พระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้_เป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย]
... ด้วยเหตุนี้ แม้พระเดชพระคุณพระญาณสิทธาจารย์ หรือ **หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร แห่งสำนักสงฆ์ ถ้ำ ผาปล่อง อำ เภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ **พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณธรรมและฌานสมาบัติชั้นสูง เป็นพระศิษย์สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ ก็เคยธุดงค์ไปกราบพระพุทธบาทสี่รอย และนำมาเทศนาบอกเล่ารับรอง ภายหลังจากตรวจการทั้ง ปวงโดยญาณวิถี แห่งพระอรหันตเถระเจ้าที่ไม่มีกิเลสอาสวะใดมากีดกันปิดกั้น ให้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์หลายฟัง จนพระพุทธบาทสี่รอย แห่งนี้ เป็นที่รู้จักมักคุ้นและแพร่หลายกันโดยทั่วไปในเวลาต่อมาว่า
... ในเขตเชียงใหม่นี้ ยังมีพระบาทสี่รอยอยู่ในเขตอำเภอแม่ริม แต่ว่าลึกเข้าไปในภูเขา หลวงปู่ผู้เทศน์ไปดูมาแล้ว ไปกราบไปไหว้ มันเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นไป อยู่ข้าง ริมแม่น้ำ **"พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ได้มาตรัสรู้ในโลก ท่านก็มาเหยียบรอยพระพุทธบาทไว้ในยอดหิน ก้อนนั้น ยาวขนาด ๑๒ ศอก ขนาดนั้น พระพุทธเจ้ากกุสันโธก็โปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลาย** นำพระ สาวก อุบาสก อุบาสิกาไปสู่นิพพาน เมื่อหมดศาสนาพระพุทธเจ้ากกุสันโธแล้ว
**พระพุทธเจ้าโกนาคมโน** ก็มาตรัสรู้รื้อขนสัตว์ ไปอีก ก่อนนิพพานท่านก็มาเหยียบไว้ที่พระบาทแม่ริมนี้ เป็นรอยที่สอง (ขนาด) ลดลงมา คือ คนสมัยนั้นก็เรียกว่า มันกำลังทดลง ไม่ได้ใหญ่ขึ้น (ตัวเล็กลง)
เมื่อพระพุทธเจ้าโกนาคมโนนิพพานไปพร้อมด้วยสาวก แล้วศาสนธรรมคำสอนท่านหมดไป
**มาถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กัสสโปมาตรัสรู้ ท่านก็มาเหยียบไว้ ได้ ๓ รอยล่ะ** เมื่อศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโปหมดไปแล้ว
**มาถึงศาสนาพระพุทธเจ้าของเราในปัจจุบันนี้** ให้ชื่อว่า ... พระพุทธเจ้าโคดมโคตร **พระพุทธเจ้าโคดมมาตรัสรู้ ก่อนที่ท่านจะนิพพาน ก็มาเหยียบ รอยพระบาทไว้ในก้อนหินก้อนเดียวกัน**
จึงให้ชื่อว่า **พระพุทธบาทสี่รอย
**ในตํานานวัดพระพุทธบาทสี่รอยให้รายละเอียดไว้ว่า**
1. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรกเป็นรอย ใหญ่ยาว 12 ศอก
2. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก
3. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่ 3 ยาว 7 ศอก
4. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ ( ศาสนาปัจจุบัน ) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กที่สุด ยาว 4 ศอก
เมื่อ มาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือกผู้ครองนคร เชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร 500 คนก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาทสี่รอยและได้สร้างวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว โดยแต่เดิมถ้าใครจะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไปหรือปีนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นพระยาธรรมช้างเผือก จึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆนั่งร้านรอบๆก้อนหินที่มีพระพุทธบาทสี่รอยและได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยและได้มีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหารเป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้หนึ่งหลังหลังเล็กปัจจุบันได้บูรณะปฏิสัง ขรณ์แล้วทั้งหลัง
**พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย**และได้รื้อพระวิหารที่เจ้า พระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว และได้สรางพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทสี่รอย พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
## **ที่ตัั้งวัดพระพุทธบาทสี่รอย**
วัดพระพุทธบาทสี่รอย ตั้งอยู่ ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาท แห่งองค์สมเด็จพระโลกนาถ สัมมาสัมพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์
#รวมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์9 #หลวงปู่ตื้อ #หลวงปู่สิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น