24 ตุลาคม 2566

..เรื่องการใช้อารมณ์มโมยิทธิให้เป็นประโยชน์

🔘..เรื่องการใช้อารมณ์มโมยิทธิให้เป็นประโยชน์..[๒/๒]
#ใครคืออาจารย์ที่ไม่ใช่มนุษย์
   ในเมื่อเราไปได้แล้ว ก็ต้องรักษาความดีเอาไว้ เพราะว่าการปฏิบัติแบบนี้เราสามารถจะได้อาจารย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ คำว่า "อาจารย์ที่ไม่ใช่มนุษย์" นั่นก็คือ #พระพุทธเจ้า ถ้ามีการขัดข้องอะไรเกี่ยวกับผลของการปฏิบัติ เราขึ้นไปทูลถามพระองค์เอง พระองค์ก็จะตรัสมาโดยเฉพาะกับกิจที่เราจะพึงทำและตรงกับอารมณ์จิตของเรา 

   ในเมื่อได้รับคำสอนนั้นแล้วอย่างไหนต้องปฏิบัติให้ได้ จงตั้งใจว่า...
"คำว่าไม่สามารถจะต้องไม่มีในชีวิตของเรา"

แล้วก็ประการที่ ๒ ที่เราจะลืมไม่ได้นั่นก็คือ
..เราจะไม่ห่วงร่างกายของเรา 
..เราไม่ห่วงร่างกายของบุคคลอื่น
..เราไม่ห่วงทรัพย์สินใดๆ
เพราะว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราห่วงถึงเวลาที่มันจะตายก็ไม่มีประโยชน์ในการห่วง 

   คนที่ตายทุกคนไม่มีอะไรแบกเอาร่างกายไปได้ ไม่มีใครแบกพี่ แบกน้อง แบกพ่อ แบกแม่ แบกผัว แบกเมีย แบกลูก แบกหลานไปด้วยและทรัพย์สินต่างๆที่เรามีอยู่ก็ไม่มีโอกาสที่จะแบกไปได้  สิ่งที่ใจเราจะแบกไปได้นั่นก็คือ #ความดีกับความชั่ว

 #บุคคลตัวอย่าง
   ฉะนั้น สิ่งที่เราจะต้องแบกไปเราก็ต้องเลือกแบก ถ้าเราเลือกแบกเอาความชั่วไป นั่นหมายถึงว่า เราต้องลงนรก ดูตัวอย่าง #พระเทวทัต ท่านสามารถทรงอภิญญา ๕ได้อย่างคล่องแคล่ว เนรมิตอะไรก็ได้ เหาะเหินเดินอากาศก็ได้ 

  ต่อมาความโลภของจิต ความทะเยอทะยานเกิดขึ้น คิดอยากจะปกครองพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระอริยเจ้าและต่อมาถึงขั้นคิดฆ่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง อันนี้เป็นอารมณ์ของความชั่ว

   ขอทุกท่านน่ะจงอย่านึกว่าตัวของเราดี จงจำคำแนะนำขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า... "#อัตนาโจทยัตตานัง"    
#จงกล่าวโทษโจทความผิดของตัวเองไว้เสมอ

#ครูมีหน้าที่เพียงแต่บอก
   โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้มโนมยิทธินี่ถ้าใครทำถึงเดือนก็เลวเต็มที ที่ว่าเลวเพราะอะไร เพราะเห็นแล้ว นรกก็เห็น เปรตก็เห็น อสูรกายก็เห็น เทวดาก็เห็น พรหมก็เห็น นิพพานก็เห็น ทั้งๆที่เราเห็นได้เราไปได้แต่จิตเรายังเลวมันก็สุดทางแก้

   การแก้นี่เราต้องแก้ด้วยตนเอง การช่วยจะให้ดีจะให้ชั่ว เราก็ต้องทำเองไม่ใช่หน้าที่ของครู ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า #อักขาตาโร_ตถาคตา ซึ่งแปลว่า #ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก

   บอกแล้วทำตามหรือไม่ทำตามก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านจะไปสวรรค์ ท่านจะไปพรหม ท่านจะไปนิพพานได้ ครูไม่มีการอิจฉาริษยาท่าน หากว่าท่านจะไปนรก ไปเป็นเปรต ไปเป็นอสุรกาย ครูก็ไม่ติดตามไปแก้ เพราะมันเป็นความพอใจของท่าน

   ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านเมื่อได้มโนมยิทธิแล้ว ก็ควรจะมุ่งจุดหมายปลายทาง นั่นคือ #ความเป็นอรหันต์

สำหรับ"ฆราวาส" จะเป็นพระอรหันต์ ถ้าเป็นวันนี้ วันพรุ่งนี้ก็นิพพาน

สำหรับ"พระ" ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ต้องอยู่ถึงอายุขัยหรือบางทีก็เกินอายุขัย เพราะต้องทำกิจให้พระพุทธเจ้าเพื่อตอบแทนพระองค์

#อย่าประมาทในการปฏิบัติ
   ฉะนั้นขอให้ทุกคนจำปัจฉิมวาจาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อวันที่พระองค์นิพพานว่า..#อัปปมาเทนะ_สัมปาเทถะ"
นั่นแปลเป็นใจความว่า..#ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม 

   คำว่า "ไม่ประมาท"  ก็หมายความว่า..
ไม่ประมาทในการปฏิบัติความดี ทุกคนต้องทำทุกขณะจิต  

จงอย่าคิดว่าเราดี ถ้าเรายังมีขันธ์ ๕ อยู่เพียงใด จงอย่าเข้าใจว่าเราดี ถ้าเราตายไปแล้ว ถ้ายังไม่ถึงนิพพาน ก็จงอย่าคิดว่าเราดี  

ถ้ามันจะดีกันจริงๆคือ ต้องละขันธ์ ๕ ไปแล้ว  แล้วเข้าสู่พระนิพพานแล้วนั่นจึงชื่อว่าเป็นความดี

#หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
[พระมหาวีระ ถาวโร]
วัดจันทาราม(ท่าซุง)  จ.อุทัยธานี
หนังสือธัมมวิโมกข์ ๓๓๑ ต.ค.๕๑ 
หน้า ๒๙-๓๒
🔘#เพจคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
พิมพ์เพื่อธรรมทานโดย..
🖋..Moddam Thammawong

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...