เกิดอารมณ์สงสัยว่า เวลาพระองค์จะโปรดใคร ทรงตั้งความหวังไว้หรือเปล่า
**พระตถาคตเจ้าทุกพระองค์ทรงเป็นสัพพัญญูวิสัย**ย่อมรู้ด้วยพุทธญาณในการตรวจดูอุปนิสัยของสัตว์โลก รู้ล่วงหน้าว่า บุคคลใดจักบรรลุธรรมในวันนี้หรือวันหน้า โดยมิต้องตั้งความหวัง รู้โดยหน้าที่
กล่าวคือ เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จักต้องกระทำอย่างนี้ คำว่ารู้ผิดพลาดไม่มีในพระพุทธเจ้า
**สมเด็จองค์ปฐม**ทรงตรัสสอนปกิณกะธรรมไว้ มีความสำคัญดังนี้
เกิดอารมณ์สงสัยว่า เวลาพระองค์จะโปรดใคร ทรงตั้งความหวังไว้หรือเปล่า
ทรงตรัสว่าพระตถาคตเจ้าทุกพระองค์ทรงเป็นสัพพัญญูวิสัย ย่อมรู้ด้วยพุทธญาณในการตรวจดูอุปนิสัยของสัตว์โลก รู้ล่วงหน้าว่า **บุคคลใดจักบรรลุธรรมในวันนี้หรือวันหน้า โดยมิต้องตั้งความหวังรู้โดยหน้าที่**
**กล่าวคือ เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จักต้องกระทำอย่างนี้ คำว่ารู้ผิดพลาดไม่มีในพระพุทธเจ้า ซึ่งกรณีนี้พุทธสาวกรู้ได้ไม่ครบ แม้แต่พุทธันดรนี้พระอัครสาวกฝ่ายขวา ท่านพระสารีบุตรยังให้ลูกชายนายช่างทองเจริญกรรมฐานผิดกองกล่าวคือไม่ถูกจริตจึงไม่มีผล**
เรื่องนี้มิใช่ตำหนิกัน เพียงแต่ให้รู้ว่าสัพพัญญูวิสัยกับวิสัยของสาวกผิดกัน ให้ดูปฏิปทาพระอรหันต์ที่ท่านรู้จริง ท่านจักถ่อมตนเสมอ และคิดเสมอว่าความผิดอาจจักเกิดขึ้นได้ กรณีนี้พวกเจ้าพึงสังวรจิตเอาไว้ด้วย อย่าทะนงตนว่าทำอะไรจักไม่ผิดพลาดเลยนั้นหาสมควรไม่ ให้ดูท่านพระสารีบุตรเป็นตัวอย่าง จักได้ปรามจิต ไม่คิดหลงตนจนเกินไป
ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้นเล่ม ๑๐** **เดือนกันยายน ๒๕๔๐
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
**#**สมเด็จองค์ปฐม**4 #**ธรรมนำไปสู่ความหลุดพ้น**4**
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น