ดูคนทุกคนที่มีลีลาชีวิตต่าง ๆ กันไป
ให้เห็นเป็นกฎของกรรม
และทุกอย่างเป็นของธรรมดา ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ดับไปเท่านั้น
อย่าถืออะไรมาเป็นสาระที่จริงจังของชีวิต
ในยามนี้มีชีวิตอยู่ก็ให้เกื้อหนุนกันไป
ด้วยความสงสาร และมีความเมตตาปราณี
เป็นการทำจิตให้อ่อนโยนและทำให้เป็นผู้มีมิตรมาก
แต่จำไว้ว่าอย่าเบียดเบียนตนเองมากจนเกินไป
การกระทำทุกอย่างให้อยู่ในสายกลาง คือ
ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
ไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น
ให้มีจิตเมตตาหวังดีกับคนทั้งโลกหรือสัตว์ทั้งโลก
ความหวังดีไม่จำเป็นที่ต้องจักให้เป็นวัตถุ
การรักษาศีลและกรรมบถ ๑๐ อันบริบูรณ์
ก็คือการหวังดีกับคนและสัตว์ทั้งโลกแล้ว
ถ้าหากรักษาได้ อย่าขวางทางบุญและบาปของใคร
เพราะพื้นฐานของจิตใจของแต่ละคนเกี่ยวกับบุญและบาปมีต่างกัน ไม่เท่ากัน
จิตเมื่อจักวางในจริยาของบุคคลอื่น
ก็จักต้องใช้ปัญญาพิจารณาจุดนี้ให้มาก ๆ ลงตัวธรรมดาให้ได้
แล้วจิตจึงจักปล่อยวางกรรมของคนอื่น ๆ ลงได้
ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมเลว
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น