04 พฤษภาคม 2565

พระสารีบุตรแนะนำกรรมฐาน

 
      ตอนที่เจริญกรรมฐานกัน มีพระองค์หนึ่งท่านมา ท่านมายืนข้างหน้ามองดูแล้วไม่ทราบว่า #พระโมคลัลลาน์หรือพระสารีบุตร สงสัยถามท่าน บอก
   “ฉัน สารีบุตรนะ” ท่านบอกว่า “การที่เธอแนะนำบรรดาพุทธบริษัทให้ใช้อารมณ์พิจารณาตามที่ว่าเมื่อกี้นี้ไม่ผิด ถูก แต่ว่าน่าเป็นผลอ้อมเกินไป”

     ท่านบอกว่าให้แนะนำ “การไม่ห่วง” เป็นสำคัญ คือท่านแนะนำแบบนี้หมายความว่า ทุกวันให้คิดไว้เสมอว่า ถ้าเราจะตายเมื่อไร งานต่างๆ ที่มีอยู่ สามีก็ดี ภรรยาก็ดี ลูกหลานก็ตาม สมบัติทั้งหมดเราไม่มีห่วง ให้ใช้ปัญญาตามความเป็นจริงว่า คนที่เขาตายแล้ว เขาห่วงแล้วช่วยใครได้บ้าง ให้คิดอย่างนี้ทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ใช้ได้ อย่างตอนเช้าก็ดี ก่อนหลับก็ดี เวลานั้นจิตไม่กังวลคิดว่า #ถ้าเราตายเวลานี้หรือตายเมื่อไรก็ตามงานต่าง ๆ #ที่เราทำหรือทำคั่งค้างถึงคนข้างหลังเราไม่ห่วง #ให้คิดเอานะ

    หลังจากนั้นท่านก็พาขึ้นไปหาโยม ไปกราบพ่อแม่ผู้มีคุณ และหาโยมท่าน ระหว่างมาบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์กับพระจุฬามณีก็เห็นครูบาอาจารย์เยอะเหลียวไปดู พระองค์หนึ่งศีรษะแหลมเปี๊ยบ แล้วก็เครื่องแต่งตัวสวยมาก ท่านบอกว่า “ฉันคือพระศรีอาริย์ อีก ๑ ล้านปี จะลงมาตรัส” ท่านบอกว่า ให้เขา
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อีก ๑ ล้านกับ ๒ ปี จะลงมาปฏิสนธิครรภ์มารดา (คอยนั่งนับปีหนึ่งขีดแกร๊กหนึ่ง) ต่อจากนั้นไปเป็นปุโรหิต หลังจากนั้นมีความเบื่อหน่ายก็ออกแสวงหาพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า

    แล้วก็หลังจากนั้นไป ท่านก็พาไปหาพระใหญ่ คือองค์สมเด็จ ท่านถามว่า
  “เมื่อกี้พระสารีบุตรท่านแนะนำอย่างนี้ใช่ไหม”      
   บอกว่า “ใช่พระพุทธเจ้าข้า”
   ท่านบอกว่า “นั่นแหละถูกแล้ว เขาแนะนำไม่ผิด” ท่านบอกว่าให้คิดเป็นอารมณ์ทุกวัน วันหนึ่งสัก ๒ นาทีก็ใช้ได้ #ถ้าเราตายเมื่อไรคำว่าห่วงทั้งหมดจะไม่มีในเรา ตัดสินใจไว้เลยนะ บ้านปลูกไม่เสร็จ ครัวยังทำอะไรไม่เสร็จก็ตาม ท่านบอกว่าไอ้คนที่ตายแล้วมันช่วยอะไรได้บ้าง คิดตามความเป็นจริง ป่วยไข้เมื่อไรให้อารมณ์จิตนี้มันทรงตัว #คิดว่าความป่วยคราวนี้อาจจะตายก็ได้ #คิดว่าความห่วงนิดหนึ่งจะไม่มีในเรา เพราะว่าไม่มีคนใดที่กลับมาช่วยทางบ้านดายหญ้าผ่าฟืน ตักน้ำ หุงข้าว ก็มีคนเดียว นางนาคพระโขนง

     แล้วท่านก็ตรัสถอยหลังไปอีกหน่อยว่า ให้มีอารมณ์จิตเหมือนของเมื่อพ.ศ. ๒๕๐๐ อารมณ์นั่นแหละคืออารมณ์พระนิพพาน ท่านให้ท้าวสหัมบดีพรหมมาตามไป #อีตอนนี้พอเริ่มเข้าโรงพยาบาลก็มีความรู้สึกว่าเวลานี้เราไม่มีอะไรแล้วร่างกายมันก็จะพังทรัพย์สินต่าง ๆ #ไม่มีห่วงเลย #มันไม่ห่วงเอานะ มันเฉยเลย ถ้าเราใช้ศัพท์วิปัสสนาญาณเขาเรียกว่า “สังขารุเปกขาญาณ” แต่ความจริงมันไม่ทําอะไรเลยนะ #มีความรู้สึกเฉย ๆ เห็นว่าร่างกายจะเป็นอย่างอื่น จะห่วงทำไม ใจสบายจริงๆ ท่านบอกว่า #ให้อารมณ์ชิน อย่างนี้ นั่นหมายความว่า เวลาป่วยทุกวันให้คิดไว้ก่อน มันจะมีอารมณ์อย่างนี้ ถ้าป่วยคราวไหนมีอารมณ์อย่างนี้ขึ้นมา นี่หวังได้เลย #นิพพานในชาตินี้ ท่านยืนยัน (๘๑ ๒๕๓๐)

🙏🏻พระธรรมคำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
📖หนังสือพ่อสอนลูก หน้าที่๓๗๒~๓๗๔
📍เพจ:คำสอนหลวงพระราชพรหมยาน

🖊นภา อิน 🙏🏻🙏🏻

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...