》" ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! อานาปานสติอันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว, ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! อานาปานสติอันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว, ย่อมทำสติปัฏฐานทั้งสี่ให้บริบูรณ์;
สติปัฏฐานทั้งสี่อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว, ย่อมทำโพชฌงค์ทั้งเจ็ดให้บริบูรณ์;
โพชฌงค์ทั้งเจ็ดอันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว, ย่อมทำวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ก็อานาปานสติอันบุคคลเจริญทำให้มากแล้วอย่างไรเล่า, จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก;
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุในธรรมวินัยนี้, ไปในป่าก็ดี ไปที่โคนไม้ก็ดี ไปที่เรือนว่างก็ดี;
นั่งคู้บัลลังก์ (นั่งขัดสมาธิ) ตั้งกายให้ตรงแล้วตั้งสติไว้มั่นเฉพาะหน้า,
เธอย่อมเป็นผู้มีสติ หายใจเข้า ย่อมเป็นผู้มีสติ หายใจออก
เมื่อเธอหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า บัดนี้เราหายใจเข้ายาว ดังนี้.
หรือเมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า บัดนี้เราหายใจออกยาว ดังนี้.
เมื่อเธอหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า บัดนี้เราหายใจเข้าสั้น ดังนี้.
หรือเมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า บัดนี้ราหายใจออกสั้น ดังนี้.
เธอย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง จักหายใจเข้า ดังนี้.
เธอย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง จักหายใจออก ดังนี้.
เธอย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้ระงับกายสังขาร จักหายใจเข้า ดังนี้.
เธอย่อมศึกษาว่า เราเป็นผู้ระงับกายสังขาร จักหายใจออก ดังนี้." (จากบทสวดมนต์แปล)
(จบจตุกกะที่ ๑)《
"อานาปาน สติพร้อม ย่อมมีผล
เพราะจะดล ความสมบูรณ์ พูนพลัง
พิจารณา กายในกาย ไม่พลาดพลั้ง
เป็นความหวัง การปฏิบัติ ชัดเจนกาย"
(ขอขอบคุณเจ้าของภาพและข้อความ ภาพนี้ตัดแต่งใหม่ ขออนุญาตเผยแผ่เป็นธรรมทาน ขออนุโมทนา สาธุๆๆ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น