.
บางครั้งหลวงปู่แหวนท่านพักปฏิบัติธรรม นอนสูบบุหรี่อยู่ พระอาจารย์เปลี่ยนจะเข้าไปหา หลวงปู่จะทักทายแล้วชวนสูบบุหรี่ พระอาจารย์เปลี่ยนจะถามหลวงปู่ถึงเรื่องสูบบุหรี่ว่าดีอย่างไร หลวงปู่จะตอบว่า
.
“การสูบบุหรี่ก็ดี ไม่สูบก็ดี ขอให้สูบด้วยพินิจพิจารณา ถ้าไม่มีปัญญา การสูบบุหรี่จะทำให้กังวล ถ้าคนมีปัญญา ก็จะได้อะไรบางอย่างจากการสูบบุหรี่”
.
“ท่านดูผมเวลาสูบบุหรี่ ผมไม่ได้กลืนควันเข้าไป ผมสูบเอาควันเข้าไปในปากมากๆ แล้วพ่นควันออกไป เมื่อพ่นควันออกไปแล้วก็ดูควันบุหรี่ ขณะที่ควันบุหรี่ออกจากปาก มันจะม้วนตัวลอยสูงขึ้นไป ขณะที่ม้วนตัวสูงขึ้นไป อันนี้แสดงถึงความทุกข์ ขณะที่ควันบุหรี่จางหายไป อันนี้แสดงถึงความไม่เที่ยง เมื่อควันบุหรี่หายไปหมด แสดงถึงอนัตตา ผู้มีปัญญาเมื่อสูบบุหรี่จะพิจารณาตามที่เห็นจากควันบุหรี่ ท่านคอยดูควันบุหรี่ที่ผมจะพ่นให้ดู ดูให้เป็นปัจจุบัน ดูควันบุหรี่ที่ออกมาจากปากผมและหายไปในที่สุด ควันบุหรี่จะเป็นอนิจจึง ทุกขัง อนัตตา”
.
“เมื่อพิจารณาควันบุหรี่แล้ว ท่านจะต้องหลบเข้ามาพิจารณาดูที่ตัวท่าน กายของท่าน ให้พิจารณาร่างกายเมื่อตายไปธาตุลมก็หายไป ธาตุไฟก็หายไป ธาตุดินเมื่อเผามากๆ เข้าก็กลายเป็นฝุ่น ในที่สุดก็หายไปอีกเช่นกัน ร่างกายของเราก็ตกอยู่ในห้วงของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว เราก็น้อมจิตเราเข้ามา โอปนยิโก น้อมธรรมเข้ามาที่ตัวเอง”
.
“เมื่อดูร่างกายเสร็จแล้ว ให้ใช้ปัญญาพิจารณาดูจิต ดูอารมณ์ ที่มีเกิด-ดับ เกิด-ดับ ดูอารมณ์อันนี้ออกไป อารมณ์อันนั้นเกิดขึ้น ดูอารมณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นอารมณ์ทุกข์ ทั้งเกิดทั้งดับ ให้รู้ว่ามีอารมณ์โทสะเกิดขึ้นภายในจิต สังเกตให้ถูกให้ดี เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วเราจะต้องกำจัดมันไม่กำจัดไม่ได้ เพราะว่ามันเป็นทุกข์ เมื่อกำจัดอารมณ์กลางๆ มันมี มันเป็นเวทนา ไม่ทุกข์ ไม่สุข มันเป็นเวทนา อารมณ์สุขเกิดขึ้น อารมณ์ทุกข์นั้นหายไป เมื่อรับอารมณ์สุข เราอยากได้อารมณ์ที่เป็นสุข แต่เพราะว่าอารมณ์สุขมันไม่เที่ยง ถ้าท่านไปยึดไปประคองมัน ก็ทำให้ท่านมีความทุกข์ เดี๋ยวก็จะทำลายความปรารถนา ที่พยายามประคองความสุข อารมณ์สุขมันก็เลยหายไปอีก”
.
“อารมณ์ทุกข์-สุขนี้ มันอยู่ในไตรลักษณ์เหมือนกัน ท่านต้องพิจารณาอย่างที่อธิบายมา พิจารณาจริงๆ เพราะเหตุนี้ท่านจึงไม่ควรที่จะไปก่อสร้างเกี่ยวกับสิ่งภายนอก ทำตัวเราให้ดีเสียก่อน เมื่อเราปฏิบัติดีแล้ว ญาติโยมมาทำบุญก็จะได้บุญมาก ทำตัวเราให้ดีนั้นเป็นทอง ส่วนสิ่งที่ก่อสร้างนั้นมันเป็นผง ผลพลอยได้อย่างอื่นมาเอง”
.
• หลวงปู่แหวน สุจิณโณ •
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น