(ตอนที่ 1)
โอม สิโนราชาเทวะ ชะยะตุภะวัง สัพพะศัตรูวินาสสันติ ปู่ตาก ตะกุ อิตัลตากสินราชะโยตังอิ
ขอบันทึกพระวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าตากสินมหาราช
ที่ทำให้สามารถกู้ชาติไทยได้ในระยะเวลาเพียงเจ็ดเดือนเท่านั้น
หลังเสียกรุงศรีอยุธยา เรียกว่าเป็นงานรวมชาติที่ยากที่สุด
ในช่วงที่วิกฤติที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ที่ทำให้สามารถกู้ชาติไทยได้ในระยะเวลาเพียงเจ็ดเดือนเท่านั้น
หลังเสียกรุงศรีอยุธยา เรียกว่าเป็นงานรวมชาติที่ยากที่สุด
ในช่วงที่วิกฤติที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
จึงขอนำเสนอเพื่อเทอดพระเกียรติท่านไว้โดยละเอียด ดังนี้
1. การมีพระวิสัยทัศน์ การมองเห็นภาพอนาคต
พระยาตากในขณะนั้นได้ประเมินคาดสถานการณ์ ผู้คน
กำลัง และภาวะศัตรูที่ล้อมพระนครอยู่ อย่างหนาแน่น
ประกอบกับเห็นความอ่อนแอของแม่ทัพนายกอง
จึงได้มองเห็นภาพที่กรุงศรีอยุธยาต้องเสียทีแก่พม่า
แน่นอน การคิดอ่านหาทางกู้ชาติในภายหลังน่าจะเป็น
หนทางที่ดีกว่า : ตามบันทึกในพงศาวดารระบุ ความว่า
กำลัง และภาวะศัตรูที่ล้อมพระนครอยู่ อย่างหนาแน่น
ประกอบกับเห็นความอ่อนแอของแม่ทัพนายกอง
จึงได้มองเห็นภาพที่กรุงศรีอยุธยาต้องเสียทีแก่พม่า
แน่นอน การคิดอ่านหาทางกู้ชาติในภายหลังน่าจะเป็น
หนทางที่ดีกว่า : ตามบันทึกในพงศาวดารระบุ ความว่า
พระยาวชิปราการถูกภาคทัณฑ์ เนื่องจากมีหมายสั่งว่า
ถ้ากองไหนจะยิงปืน ใหญ่ ต้องขออนุญาตที่ศาลาลูกขุนก่อน
พระยาวชิรปราการรู้สึกเศร้าสลดใจ ศัตรูหรือก็บุกโหม โจมตี
อย่างหนักหน่วง นักรบไทยสู้รบข้าศึกมาตลอด ต่างมี อาการ
อิดโรย เนื่องจากขาดเสบียงอาหาร ทหารบางคนยืนคอตก
บางคนก้มหน้านิ่ง บางคนล้มลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย
ถ้ากองไหนจะยิงปืน ใหญ่ ต้องขออนุญาตที่ศาลาลูกขุนก่อน
พระยาวชิรปราการรู้สึกเศร้าสลดใจ ศัตรูหรือก็บุกโหม โจมตี
อย่างหนักหน่วง นักรบไทยสู้รบข้าศึกมาตลอด ต่างมี อาการ
อิดโรย เนื่องจากขาดเสบียงอาหาร ทหารบางคนยืนคอตก
บางคนก้มหน้านิ่ง บางคนล้มลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย
พระยาวชิรปราการยืนเหม่อมองไป ข้างหน้าอย่างครุ่นคิด
ชีวิตของเพื่อนร่วมชาติล้มตายร่อยหรอลงไปทุกวัน
สภาพของนักรบร่วมใจที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือเดียว
กรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกปิดล้อมเอาไว้โดยรอบ
แม้สมเด็จพระเจ้าเอกทัศจะขอเลิกราหย่าศึก
ฝ่ายพม่าก็หาได้ยินยอมตามพระประสงค์ไม่
พม่าต้องการตีกรุงศรีอยุธยาให้แตก และริบเอา
ทรัพย์ สมบัติกวาดต้อนผู้คนไปเมืองพม่าให้ได้..
ชีวิตของเพื่อนร่วมชาติล้มตายร่อยหรอลงไปทุกวัน
สภาพของนักรบร่วมใจที่เหลืออยู่เพียงหยิบมือเดียว
กรุงศรีอยุธยาถูกข้าศึกปิดล้อมเอาไว้โดยรอบ
แม้สมเด็จพระเจ้าเอกทัศจะขอเลิกราหย่าศึก
ฝ่ายพม่าก็หาได้ยินยอมตามพระประสงค์ไม่
พม่าต้องการตีกรุงศรีอยุธยาให้แตก และริบเอา
ทรัพย์ สมบัติกวาดต้อนผู้คนไปเมืองพม่าให้ได้..
สถานการณ์นั้นแม้มีความเสี่ยงถูกกล่าวหาว่าหนีทัพ
แต่ท้ายสุดกลับกลายเป็นผลดีต่อ ชาติบ้านเมือง
อย่างมหาศาลในเวลาต่อมา
แต่ท้ายสุดกลับกลายเป็นผลดีต่อ ชาติบ้านเมือง
อย่างมหาศาลในเวลาต่อมา
การตั้งวิสัยทัศน์ ที่มองการณ์ไกล ข้ามเหตุการณ์วิกฤต
แล้วมองภาพว่าหลังวิกฤติแล้วนั้นท่านน่าจะช่วยเหลือ
ชาติได้มากกว่า นับเป็นวิสัยทัศน์ที่ยากจะหาคนธรรมดา
จะมองเห็น แต่ด้วยความเจนศึกที่ผ่านการรบมาหลายครั้ง
ประเมินสถานการณ์ “นาย” ที่เป็นหัวหน้าบัญชาการรบ
ในตอนนั้นดูท่าไม่มีทางที่จะเอาชนะพม่าได้เลย และเวลา
ก็จวนเจียนเต็มทีแล้วเพราะพม่าส่งกำลังเสริมมาอย่างต่อเนื่อง
แล้วมองภาพว่าหลังวิกฤติแล้วนั้นท่านน่าจะช่วยเหลือ
ชาติได้มากกว่า นับเป็นวิสัยทัศน์ที่ยากจะหาคนธรรมดา
จะมองเห็น แต่ด้วยความเจนศึกที่ผ่านการรบมาหลายครั้ง
ประเมินสถานการณ์ “นาย” ที่เป็นหัวหน้าบัญชาการรบ
ในตอนนั้นดูท่าไม่มีทางที่จะเอาชนะพม่าได้เลย และเวลา
ก็จวนเจียนเต็มทีแล้วเพราะพม่าส่งกำลังเสริมมาอย่างต่อเนื่อง
2. ทรงมุ่งมั่น ด้วยเป้าหมายใหญ่ที่ชัดเจน
หลังจากพม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้อย่างเด็ดขาด การกู้ชาติ
ในสภาพบ้านเมือง เวียงวัง วัดวา บ้านเรือน ถูกเผาทำลาย
จากศัตรู ขนาดหนักจนเหลือแต่ซาก ยากแก่การฟื้นฟู และ
มองไม่เห็นอนาคต ในภาวะสถานการณ์ ที่ไม่มีสิ่งใดชัดเจน
การผูกจิตรวมใจผู้คนหลังบ้านเมืองแตกสลายจึงสำคัญมาก
และต้องตอกย้ำอยู่เสมอ เพื่อให้มุ่งมั่นร่วมสู้กู้ชาติจากพม่า
ในสภาพบ้านเมือง เวียงวัง วัดวา บ้านเรือน ถูกเผาทำลาย
จากศัตรู ขนาดหนักจนเหลือแต่ซาก ยากแก่การฟื้นฟู และ
มองไม่เห็นอนาคต ในภาวะสถานการณ์ ที่ไม่มีสิ่งใดชัดเจน
การผูกจิตรวมใจผู้คนหลังบ้านเมืองแตกสลายจึงสำคัญมาก
และต้องตอกย้ำอยู่เสมอ เพื่อให้มุ่งมั่นร่วมสู้กู้ชาติจากพม่า
การตั้งเป้าหมายว่าต้องกู้ชาติให้สำเร็จ และให้ทุกคนที่ตาม
กันออกมาจากอยุธยามีเป้าหมายร่วมกัน และต้องย้ำไพล่พล
ให้ฮึกเหิมอยู่เสมอ ไม่ให้ท้อถอย ให้ชนะในการรบย่อยๆ ว่า
เป็นไปเพื่อการเอาชนะสงครามใหญ่ คือการกู้ชาติบ้านเมือง
คืนมาจากพม่า จิตใจของไพร่พลในกองทัพพระเจ้าตาก
จึงมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ พร้อมรบ ฮึกเหิมอยู่เสมอ ต่างจากชุมนุม
ก๊กอื่นๆ ที่หลังทราบข่าวกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าแล้ว
มีเป้าหมายส่วนตนในการสถาปนาตั้งตนเป็นใหญ่ในเขต
ฃอาณาจักรตนเท่านั้น
กันออกมาจากอยุธยามีเป้าหมายร่วมกัน และต้องย้ำไพล่พล
ให้ฮึกเหิมอยู่เสมอ ไม่ให้ท้อถอย ให้ชนะในการรบย่อยๆ ว่า
เป็นไปเพื่อการเอาชนะสงครามใหญ่ คือการกู้ชาติบ้านเมือง
คืนมาจากพม่า จิตใจของไพร่พลในกองทัพพระเจ้าตาก
จึงมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ พร้อมรบ ฮึกเหิมอยู่เสมอ ต่างจากชุมนุม
ก๊กอื่นๆ ที่หลังทราบข่าวกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าแล้ว
มีเป้าหมายส่วนตนในการสถาปนาตั้งตนเป็นใหญ่ในเขต
ฃอาณาจักรตนเท่านั้น
3. สื่อสารให้ทุกคนทราบ ไปในทางเดียวกัน
พระยาตากทรงย้ำภารกิจกู้ชาติต่อกำลังพลเสมอให้ฮึกเหิม
อยู่เสมอ โดยตอกย้ำเป้าหมายใหญ่คือการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
และขับไล่พม่าให้พ้นแผ่นดินไทย และมีเป้าหมายระยะสั้น
ด้วยการปลุกใจไพร่พลให้มุ่งมั่นเอาชนะในการรบย่อย ๆ
ให้ได้ทุกครั้ง ประชุมกำลังพล ทุกคนจึงเข้าใจในภารกิจ
ของตนอย่างดีว่าทำไปเพื่ออะไร มีความสำคัญอย่างไร
กำลังพลทุกนายจึงทุ่มเทในการรบอย่างสุดชีวิต
อยู่เสมอ โดยตอกย้ำเป้าหมายใหญ่คือการกอบกู้กรุงศรีอยุธยา
และขับไล่พม่าให้พ้นแผ่นดินไทย และมีเป้าหมายระยะสั้น
ด้วยการปลุกใจไพร่พลให้มุ่งมั่นเอาชนะในการรบย่อย ๆ
ให้ได้ทุกครั้ง ประชุมกำลังพล ทุกคนจึงเข้าใจในภารกิจ
ของตนอย่างดีว่าทำไปเพื่ออะไร มีความสำคัญอย่างไร
กำลังพลทุกนายจึงทุ่มเทในการรบอย่างสุดชีวิต
4. ไม่รอให้จำนนต่อสถานการณ์
ไม่ทรงรอให้กรุงแตกก่อน แต่ตัดสินใจดำเนินการล่วงหน้า
ก่อนจะสายเกินไป :
ย่อมไม่งอมืองอเท้า เมื่อสู้ไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ จำเป็นต้องหลบ
ไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยหาโอกาสกลับมากู้สถานการณ์
เพราะในภาวะนั้น ระบบการบริหารบ้านเมืองพังพินาศไป
ก่อนเมืองจะถูกเผา เช่น การยิงปืนใหญ่ต้องขอนุญาติก่อน
พระยาตากเคยยิงปืนใหญ่ไปในคราวคับขันแล้วไม่บอกก่อน
กลับต้องความผิดอาญา นอกจากนั้นคนบังคับบัญชาสั่งการ
สูงสุดเวลานั้นไม่ได้เชี่ยวเจนศึก ในที่สุดท่านจึงตัดสินใจ
ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกจากค่ายหน้าวัดพิชัย เพื่อไปรวบรวมไพร่พล
แล้วจึงค่อยคิดอ่านย้อนกลับมากู้ชาติแผ่นดินคืนในภายหลัง
ก่อนจะสายเกินไป :
ย่อมไม่งอมืองอเท้า เมื่อสู้ไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ จำเป็นต้องหลบ
ไปตั้งหลักก่อน แล้วค่อยหาโอกาสกลับมากู้สถานการณ์
เพราะในภาวะนั้น ระบบการบริหารบ้านเมืองพังพินาศไป
ก่อนเมืองจะถูกเผา เช่น การยิงปืนใหญ่ต้องขอนุญาติก่อน
พระยาตากเคยยิงปืนใหญ่ไปในคราวคับขันแล้วไม่บอกก่อน
กลับต้องความผิดอาญา นอกจากนั้นคนบังคับบัญชาสั่งการ
สูงสุดเวลานั้นไม่ได้เชี่ยวเจนศึก ในที่สุดท่านจึงตัดสินใจ
ตีฝ่าวงล้อมข้าศึกจากค่ายหน้าวัดพิชัย เพื่อไปรวบรวมไพร่พล
แล้วจึงค่อยคิดอ่านย้อนกลับมากู้ชาติแผ่นดินคืนในภายหลัง
5. แสดงออกในการเสียสละ เป็นผู้นำ ในยามคับขัน :
ในการแสดงความกล้าหาญ
ในการแสดงความกล้าหาญ
ขณะสั่งการให้นายท้ายช้างเข้าทำลายประตูเมืองจันทบูร
“เจ้าตากก็ขับช้างที่นั่งเข้าพังประตูเมือง ทหารที่รักษาหน้าที่
ก็ระดมยิงปืนใหญ่น้อยระดมมาเป็นอันมาก นายท้ายช้างที่นั่ง
เห็นดังนั้น เกรงว่าจะถูกเจ้าตาก จึงบังคับช้างให้ถอยออกมา
เจ้าตากขัดพระทัยชัก พระแสงหันมาจะฟันนายช้าง นายช้าง
ตกใจทูลขอชีวิตไว้ แล้วไสช้างกลับเข้ารื้อบานประตูพังลง
พวกทหารก็เข้าเมืองได้” เป็นการแสดงความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาด
ในการสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน บนความเป็นความตายนั้น
ต้องการการลงมือทำอย่างทันทีทันใดพร้อมกับการฉกฉวย
โอกาสหรือวินาทีทองไม่ให้หลุดลอยไป
“เจ้าตากก็ขับช้างที่นั่งเข้าพังประตูเมือง ทหารที่รักษาหน้าที่
ก็ระดมยิงปืนใหญ่น้อยระดมมาเป็นอันมาก นายท้ายช้างที่นั่ง
เห็นดังนั้น เกรงว่าจะถูกเจ้าตาก จึงบังคับช้างให้ถอยออกมา
เจ้าตากขัดพระทัยชัก พระแสงหันมาจะฟันนายช้าง นายช้าง
ตกใจทูลขอชีวิตไว้ แล้วไสช้างกลับเข้ารื้อบานประตูพังลง
พวกทหารก็เข้าเมืองได้” เป็นการแสดงความเด็ดเดี่ยวเฉียบขาด
ในการสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน บนความเป็นความตายนั้น
ต้องการการลงมือทำอย่างทันทีทันใดพร้อมกับการฉกฉวย
โอกาสหรือวินาทีทองไม่ให้หลุดลอยไป
6. ความกตัญญู รู้คุณคน คือสัญญลักษณ์ของคนดี :
การถวายพระเพลิงพระศพพระเจ้าเอกทัศน์
การถวายพระเพลิงพระศพพระเจ้าเอกทัศน์
หลังจากที่เอาชนะพม่าที่โพธิสามต้นได้อย่างเด็ดขาดแล้ว
ทรงกลับมาฟื้นฟูอยุธยา สิ่งแรกที่ทรงกระทำคือการ ให้เกียรติ
ยกย่องราชตระกูลวงศ์ และข้าราชการ เก่า ซึ่งเคยร่วมทุกข์
ร่วมสุขมาตั้งแต่ครั้งอยู่ในกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าตากได้พบ
กับบรรดาพระราชวงศ์ และบรรดาข้าราชการอื่น ๆ ที่ต้อง
ตกระกำลำบากอยู่ใน ค่ายโพธิ์สามต้น พระองค์ทรงรู้สึก
สังเวชพระทัย จึงได้พระราชทานทรัพย์สิน และสิ่งของ
เครื่องใช้แก่พวกขุนนาง ตลอดทั้งพระราชวงศานุวงศ์
ทรงกลับมาฟื้นฟูอยุธยา สิ่งแรกที่ทรงกระทำคือการ ให้เกียรติ
ยกย่องราชตระกูลวงศ์ และข้าราชการ เก่า ซึ่งเคยร่วมทุกข์
ร่วมสุขมาตั้งแต่ครั้งอยู่ในกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าตากได้พบ
กับบรรดาพระราชวงศ์ และบรรดาข้าราชการอื่น ๆ ที่ต้อง
ตกระกำลำบากอยู่ใน ค่ายโพธิ์สามต้น พระองค์ทรงรู้สึก
สังเวชพระทัย จึงได้พระราชทานทรัพย์สิน และสิ่งของ
เครื่องใช้แก่พวกขุนนาง ตลอดทั้งพระราชวงศานุวงศ์
หลังจากนั้น พระเจ้าตากได้ตรัสสั่งให้ทำการขุดพระศพ
พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสุกี้พระนายกองฝังไว้
ในพระนคร นำพระศพมาบรรจุพระโกศ ให้ตั้งเครื่องทำ
พระเมรุ หุ้มด้วยผ้าขาว อัญเชิญพระโกศไปตั้งที่ในกระเมรุ
บูชาสักการะพอสมควรแล้ว จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ ซึ่งพอจะ
หาได้ในยามนั้นมาสดับปกรณ์ ทรงถวายไทยทาน ตามสมควร
แล้วจึงจัดให้ทำพิธีถวายพระเพลิงอย่างสมพระเกียรติตาม
พระราชประเพณี
พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสุกี้พระนายกองฝังไว้
ในพระนคร นำพระศพมาบรรจุพระโกศ ให้ตั้งเครื่องทำ
พระเมรุ หุ้มด้วยผ้าขาว อัญเชิญพระโกศไปตั้งที่ในกระเมรุ
บูชาสักการะพอสมควรแล้ว จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ ซึ่งพอจะ
หาได้ในยามนั้นมาสดับปกรณ์ ทรงถวายไทยทาน ตามสมควร
แล้วจึงจัดให้ทำพิธีถวายพระเพลิงอย่างสมพระเกียรติตาม
พระราชประเพณี
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อเจ้านายอย่าง
ไม่เสื่อมคลายที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ และมิได้ละเลย
โบราณราชประเพณีแต่เก่าก่อน ประกอบด้วยพระกรุณา
ที่เห็นความทุกข์ของคนที่เคยอยู่ด้วยกันมาแต่เก่าก่อน
ไม่เสื่อมคลายที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ และมิได้ละเลย
โบราณราชประเพณีแต่เก่าก่อน ประกอบด้วยพระกรุณา
ที่เห็นความทุกข์ของคนที่เคยอยู่ด้วยกันมาแต่เก่าก่อน
(อ่านต่อตอนที่ 2 ครับ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น