"..อารมณ์ทรงสมาธิถึงแม้ว่าจะทรงไม่ได้นาน แต่ถ้าทำด้วยความเคารพก็มีผลมหาศาล ตามที่ทราบมาแล้วในเรื่องมัฏฐกุณฑลีเทพบุตร แต่ถ้ารักษาอารมณ์ได้นานกว่ามีสมาธิดีกว่าจะมีผลมากกว่านั้นมาก การฝึกทรงอารมณ์ให้อยู่นานหรือที่เรียกว่ามีสมาธินานนั้น ในขั้นแรกให้ทำดังนี้
ให้ท่านภาวนาควบกับรู้ลมหายใจเข้าออกหายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" ดังนี้ นับเป็นหนึ่ง นับอย่างนี้สิบครั้งโดยตั้งใจว่า ในขณะที่ภาวนาและรู้ลมเข้าลมออกอย่างนี้ ในระยะสิบครั้งนี้เราจะไม่ยอมให้อารมณ์อื่นเข้ามาแทรก คือไม่ยอมคิดอย่างอื่น จะประคองใจให้อยู่ในคำภาวนาและรู้ลมเข้าลมออก ทำครั้งละสิบ
เพียงเท่านี้ไม่ช้าสมาธิของท่านจะทรงตัวอยู่อย่างน้อยสิบนาที หรือถึงครึ่งชั่วโมง จะเป็นอารมณ์ที่สงัดมาก อารมณ์จะสบาย จงพยายามทำอย่างนี้เสมอๆ ทางที่ดีทำแบบนี้เมื่อเวลานอนก่อนหลับและตื่นใหม่ๆ จะดีมาก บังคับอารมณ์เพียงสิบเท่านั้น ถ้าใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน จะสามารถทรงอารมณ์เป็นฌานได้เป็นอย่างดี.."
ให้ท่านภาวนาควบกับรู้ลมหายใจเข้าออกหายใจเข้านึกว่า "พุท" หายใจออกนึกว่า "โธ" ดังนี้ นับเป็นหนึ่ง นับอย่างนี้สิบครั้งโดยตั้งใจว่า ในขณะที่ภาวนาและรู้ลมเข้าลมออกอย่างนี้ ในระยะสิบครั้งนี้เราจะไม่ยอมให้อารมณ์อื่นเข้ามาแทรก คือไม่ยอมคิดอย่างอื่น จะประคองใจให้อยู่ในคำภาวนาและรู้ลมเข้าลมออก ทำครั้งละสิบ
เพียงเท่านี้ไม่ช้าสมาธิของท่านจะทรงตัวอยู่อย่างน้อยสิบนาที หรือถึงครึ่งชั่วโมง จะเป็นอารมณ์ที่สงัดมาก อารมณ์จะสบาย จงพยายามทำอย่างนี้เสมอๆ ทางที่ดีทำแบบนี้เมื่อเวลานอนก่อนหลับและตื่นใหม่ๆ จะดีมาก บังคับอารมณ์เพียงสิบเท่านั้น ถ้าใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน จะสามารถทรงอารมณ์เป็นฌานได้เป็นอย่างดี.."
ที่มาจาก โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้าที่ ๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น