วันนี้อาตมาจะเทศน์ "เรื่องการปฏิบัติธรรมสู่ความสุข"
ญาติโยมส่วนมากคงมีปัญหาในขณะปฏิบัติธรรมภาวนา
ที่นั่งปฏิบัติธรรมแล้วนั่งได้ไม่ค่อยดีดังที่ตั้งใจไว้ตอนแรก
จิตใจวอกแวกมันไม่ยอมสงบหยุดนิ่ง เดี๋ยวจิตส่ายไปโน้น
ส่ายไปนี้ตลอดเวลา ไม่เคยที่จะหยุดนิ่งเลยสักนาที
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในแต่ละวันของเรา มีอารมณ์เข้ามา
กระทบจิตใจตลอดเวลา
ที่นั่งปฏิบัติธรรมแล้วนั่งได้ไม่ค่อยดีดังที่ตั้งใจไว้ตอนแรก
จิตใจวอกแวกมันไม่ยอมสงบหยุดนิ่ง เดี๋ยวจิตส่ายไปโน้น
ส่ายไปนี้ตลอดเวลา ไม่เคยที่จะหยุดนิ่งเลยสักนาที
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในแต่ละวันของเรา มีอารมณ์เข้ามา
กระทบจิตใจตลอดเวลา
อาตมาขอแนะให้ญาติโยมปฏิบัติเสียใหม่ โดยทำให้จิต
เคยชินกับคำภาวนาเสียก่อนเป็นอันดับแรก คำภาวนา
ที่มีผลมากที่สุดให้ภาวนาว่า "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ"
เพราะเป็นพุทธานุสสติ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าทำให้จิต
เข้าสู่ความสงบได้เร็วที่สุด และยังช่วยปกป้องคุ้มครอง
ภัยอันตรายต่างๆ ได้อีกด้วย การภาวนานี้ให้ทำในเวลา
กลางวันหรือเวลาใดก็ตาม ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ
ไม่ว่าจะ เดิน ยืน นอน นั่ง ทำไว้ตลอดเวลาที่เรานึกขึ้นมาได้
เคยชินกับคำภาวนาเสียก่อนเป็นอันดับแรก คำภาวนา
ที่มีผลมากที่สุดให้ภาวนาว่า "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ"
เพราะเป็นพุทธานุสสติ ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าทำให้จิต
เข้าสู่ความสงบได้เร็วที่สุด และยังช่วยปกป้องคุ้มครอง
ภัยอันตรายต่างๆ ได้อีกด้วย การภาวนานี้ให้ทำในเวลา
กลางวันหรือเวลาใดก็ตาม ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ
ไม่ว่าจะ เดิน ยืน นอน นั่ง ทำไว้ตลอดเวลาที่เรานึกขึ้นมาได้
ที่ให้ทำเช่นนี้ก็เพื่อทำให้จิตของเราเคยชิน และรวมตัว
ทีละเล็กทีละน้อย แบบ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เขาเรียกว่า
เป็นการรวมจิตโดยอาศัยธรรมชาติของจิต
ทีละเล็กทีละน้อย แบบ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เขาเรียกว่า
เป็นการรวมจิตโดยอาศัยธรรมชาติของจิต
การภาวนาไม่จำเป็นต้องหลับตา ลืมตาก็ภาวนาได้
เพียงแต่ขอให้มีสติเป็นตัวรู้อยู่กับคำภาวนาเท่านั้น
ไม่ต้องเร่งรีบทำใจให้สบายๆ ภาวนาไม่ต้องไปหวัง
ให้มันมีความสงบ เราภาวนาไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าก็จะ
รู้ชัดขึ้นมาเอง ว่าตัวของเราได้อะไร ข้อสำคัญ
ให้หมั่นทำไปเรื่อยๆ
เพียงแต่ขอให้มีสติเป็นตัวรู้อยู่กับคำภาวนาเท่านั้น
ไม่ต้องเร่งรีบทำใจให้สบายๆ ภาวนาไม่ต้องไปหวัง
ให้มันมีความสงบ เราภาวนาไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าก็จะ
รู้ชัดขึ้นมาเอง ว่าตัวของเราได้อะไร ข้อสำคัญ
ให้หมั่นทำไปเรื่อยๆ
สำหรับท่านที่จะนั่งปฏิบัติตอนเย็นหรือก่อนนอนในห้องพระ
ขอให้ท่านสมาทานศีลเสียก่อนอันดับแรก และจึงสวดมนต์
บูชาพระแล้วอย่าพึ่งหลับตา เนื่องจากเรามีอารมณ์เข้ามา
กระทบจิตใจตลอดทั้งวัน จนจิตใจมีแต่ความวุ่นวายสับสน
ขอให้ท่านหลับตาสูดลมหายใจแรงๆ ลึกๆ 10 ครั้งด้วย
ความมีสติ เสร็จแล้วจึงลืมตามองพระพุทธรูปหรือพระสงฆ์
องค์ใดก็ได้ ที่ท่านศรัทธาและเคารพนับถือ
ขอให้ท่านสมาทานศีลเสียก่อนอันดับแรก และจึงสวดมนต์
บูชาพระแล้วอย่าพึ่งหลับตา เนื่องจากเรามีอารมณ์เข้ามา
กระทบจิตใจตลอดทั้งวัน จนจิตใจมีแต่ความวุ่นวายสับสน
ขอให้ท่านหลับตาสูดลมหายใจแรงๆ ลึกๆ 10 ครั้งด้วย
ความมีสติ เสร็จแล้วจึงลืมตามองพระพุทธรูปหรือพระสงฆ์
องค์ใดก็ได้ ที่ท่านศรัทธาและเคารพนับถือ
พร้อมทั้งสูดลมหายใจแรงๆ ลึกๆ 20 ครั้ง จากนั้นจึงเริ่ม
ภาวนา "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ" ไปเรื่อยๆ เมื่อจิตเริ่ม
ที่จะรวมตัวเข้าหากัน จะมีความรู้สึกอยากหลับตา ท่าน
ก็จงหลับตาและภาวนาต่อไป ในไม่ช้าจิตจะรวมตัว
ของมันเอง จนปรากฏเป็นแสงสว่างอยู่เบื้องหน้าทั้งที่
หลับตา แสงสว่างที่เกิดอาจเป็นสีเดียวหรือหลายสีก็ได้
เมื่อจิตพบความสุขสงบแล้วขอให้ท่านน้อมจิตแผ่เมตตา
และอุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังต้อง
เวียนว่ายตายเกิด แล้วจึงตั้งใจภาวนาต่อไป ท่านจะพบ
ความสุขที่แท้จริงทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
ภาวนา "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ" ไปเรื่อยๆ เมื่อจิตเริ่ม
ที่จะรวมตัวเข้าหากัน จะมีความรู้สึกอยากหลับตา ท่าน
ก็จงหลับตาและภาวนาต่อไป ในไม่ช้าจิตจะรวมตัว
ของมันเอง จนปรากฏเป็นแสงสว่างอยู่เบื้องหน้าทั้งที่
หลับตา แสงสว่างที่เกิดอาจเป็นสีเดียวหรือหลายสีก็ได้
เมื่อจิตพบความสุขสงบแล้วขอให้ท่านน้อมจิตแผ่เมตตา
และอุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังต้อง
เวียนว่ายตายเกิด แล้วจึงตั้งใจภาวนาต่อไป ท่านจะพบ
ความสุขที่แท้จริงทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
ที่มา ศูนย์พุทธศรัทธา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น